“เคยเป็นหนี้แบงก์ 2 พันล้าน” 

ก่อนจะประสบความสำเร็จขึ้นแท่นเจ้าของมาร์เก็ตแคป 2 หมื่นกว่าล้าน ใครจะคาดคิดว่า คุณสุระ คณิตทวีกุล เจ้าของ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจปลีกสินค้าไอที จะเคยมีหนี้สินติดตัวมากเช่นนี้ วันนี้เขามีวิธีบริหารกิจการให้ประสบความสำเร็จอย่างไร ?  “เม่าจำไม By Bualuang Securities” และ “แพท ภาววิทย์ กลิ่นประทุม” จะพาไปหาคำตอบ !!! ก่อน COM7 จะกลายเป็นบริษัทที่มีรายได้กว่าสองหมื่นล้าน เจ้าของตัวจริงอย่าง “คุณสุระ” เริ่มต้นอาชีพเถ้าแก่ ด้วยธุรกิจคอมพิวเตอร์ประกอบ โดยเปิดสาขาแรกอยู่ในศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ลองผิดลองถูกอยู่นานหลายปี ก่อนจะขยับไปจำหน่ายสินค้าไอทีประเภทอื่นๆ อย่าง Notebook, MP3 และสินค้าแบรนด์ Apple เป็นต้น แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นที่ส่วนใหญ่ไม่กล้าออกนอกกรอบ ล่าสุดบริษัทมีสาขาครอบคลุม 65 จังหวัด ภายใต้ชื่อร้าน BaNANA, Studio7 และ Brand Shop ซึ่งเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าไอทีทั่วไป, ร้านค้าที่ขายสินค้าแบรนด์ Apple และร้านค้าแบรนด์ช็อปอื่นๆ ตามลำดับ ปัจจุบันบริษัทมีแหล่งรายได้หลักมาจาก 4 กิจการ 1. ธุรกิจค้าปลีก 2. ธุรกิจบริการ 3. ธุรกิจเชิงพาณิชย์และลูกค้าองค์กร และ 4. ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ ภายใต้ชื่อ www.bananashopping.com โดยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิ 174.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.2% และมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 6,466.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน “รายได้ต้องเติบโตเฉลี่ย 15% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่ทำได้ 22,584.29  ล้านบาท” คุณสุระ ยืนยันเป้าหมายปี 2561 ปัจจัยอะไรจะมาหนุนตัวเลขนี้ ?  เขาแจกแจงคำถามนี้ว่า

“COM7 จะแบ่งพื้นที่สาขา BaNANA ให้ KBank และ True เช่า”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  COM7 อธิบายจุดเริ่มต้นของโมเดลนี้ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ายันเย็นของทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หลายๆ ธุรกิจแทบไม่มีลูกค้าเข้าร้าน เพราะเป็นช่วงเวลางาน มีเพียงธนาคารและผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมเท่านั้นที่มีคนเดินเข้าออกตลอดทั้งวัน เราจึงจุดประกายความคิดที่ว่า ทำไมไม่ชวนกิจการเหล่านั้นมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในเมื่อที่ผ่านมาเรามักเห็นบางสาขาของแบงก์และผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมปิดตัว เพราะประสบปัญหาขาดทุน หลายคนอาจตั้งคำถามในใจว่า COM7 แค่ต้องการได้ค่าเช่าพื้นที่ 20 ตารางเมตร เฉลี่ยสาขาละ 7 แสนบาทเท่านั้นหรือ ? จริงๆแล้วเราไม่ได้หวังจะกินแค่ค่าเช่า แค่นั้นไม่ได้ตอบโจทย์ทางธุรกิจ แต่หวังให้สาขา BaNANA มีคนเข้าออกตลอดเวลา และหวังจะได้ฐานลูกค้าของ KBank และ True เพราะลูกค้าแบงก์ส่วนใหญ่มีทั้งกลุ่มธุรกิจการค้าขนาดเล็ก ขนาดกลาง และใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ฉะนั้นการที่เขาเข้าออกสาขาเราเป็นประจำ อาจทำให้บริษัทมีลูกค้าองค์กรมากขึ้นก็ได้

“คุณแพท ภาววิทย์ กลิ่นประทุม และ คุณสุระ คณิตทวีกุล”

จากการทดลองเปิดสาขาแรก 2 เดือน ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารกสิกรไทย สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย พบว่า นอกจาก KBank จะมีต้นทุนการเปิดสาขาเหลือเพียง 20% COM7 เองยังมียอดขายเพิ่มขึ้น 30% ฉะนั้นตามแผนปี 2561 เราจะเปิดสาขาร่วมกับ KBank ประมาณ 10 สาขา เน้นตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก จากตอนนี้มีอยู่ประมาณ 2 สาขา ในจังหวัดชัยภูมิและยโสธร (กำลังจะเปิดสาขาที่ 2 ในเดือนส.ค.นี้) ส่วนแผนงานขยายสาขาร่วมกับ True หลังเซ็นสัญญาร่วมกันเมื่อ 2 ปีก่อน คาดว่า สิ้นปี 2561 จะขยายสาขาร่วมกันทั้งสิ้น 100 สาขา จากตอนนี้ที่รับมอบมาแล้ว 80 สาขา “ในอนาคตรูปแบบสาขา BaNANA ฝั่งซ้ายจะเป็น KBank ฝั่งขวาจะเป็น True ภายในเดือนส.ค.นี้ จะเห็นสาขาแรกที่เป็นโมเดลนี้ ทั้งปีจะเห็น 2 สาขา เน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้ายอดขาย ขอรอดูสถานการณ์ก่อน”

“รุกตลาดต่างจังหวัด” 

คุณสุระ เล่าว่า เมื่อก่อนเคยทดลองเปิดสาขา StandAlone ตามต่างจังหวัด แต่สุดท้ายสู้ร้านตึกแถวที่เป็นคนท้องถิ่นไม่ได้ เพราะเขาคุ้นเคยกับผู้บริโภค ฉะนั้นต่อให้ขยายสาขามากแค่ไหนก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเราต้องการเจาะตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะร้านตู้จำหน่ายขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในต่างจังหวัดมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 30% เราจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธิคิดใหม่ !! ด้วยการขายแฟรนไชส์ผ่าน www.bananashopping.com ให้กับเจ้าของกิจการร้านตู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเราจะลงสินค้าให้ทั้งหมด ปัจจุบันทำมาแล้ว 30 สาขา เป้าหมาย 100 สาขา ภายในสิ้นปี 2561 เน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก ส่วนตัวเชื่อว่า โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์จะช่วยต่อยอดธุรกิจออนไลน์ได้เป็นอย่างดี  วิธีการ คือ หากลูกค้าต้องการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาแพง เราจะให้เข้าไปซื้อใน www.bananashopping.com ซึ่งราคาจะถูกลง แต่คู่ค้ายังมีกำไร “เจ้าของกิจการร้านตู้ขายโทรศัพท์ท้องถิ่น แม้จะรู้จักลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี แต่เขายังขาดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุน และโปรโมชั่น ฉะนั้นการมี COM7 เป็นพวก จะช่วยปิดจุดอ่อนเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี”

วิเคราะห์ธุรกิจออนไลน์

เคยสงสัยกันมั้ย…ทำไมธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยถึงมียอดขายไม่เกิน 5% ขนาด COM7 ยังมียอดขายที่เล็กมากไม่เกิน 2% นั่นเป็นเพราะสินค้าที่มีราคาเกิน 5 พันบาท ลูกค้าจะเริ่มลังเลว่า ควรจะซื้อผ่านออนไลน์ดีหรือไม่ ยิ่งเป็นสินค้าไอทีลูกค้ายิ่งคิดเยอะ เพราะสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ไม่เหมือนเสื้อผ้าที่มีดีไซน์แตกต่างหาซื้อได้ยาก “ห้างสรรพสินค้าเกิดใหม่ทุกปี ยิ่งทำให้ตลาดออนไลน์ในเมืองไทยไม่คึกคัก เพราะในห้างล้วนแล้วมีสินค้าทุกประเภทจำหน่าย ดังนั้นธุรกิจออนไลน์คงโตช้ามาก”

 จุดเด่น COM7

“เราปรับตัวเก่ง” คุณสุระพูด ที่กล้าบอกแบบนั้น เพราะตลอดชีวิตการทำงาน ผมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานตลอด สินค้าไหนกำลังมาแรง เราต้องเข้าไปแตะ แม้ในช่วงแรกจะขาดทุน ย้อนกลับไปในอดีตช่วง Notebook และ MP3 กำลังดัง แต่ผู้ประกอบการบางรายไม่กล้าเสี่ยง แต่ไม่ใช่ชายชื่อสุระ เพราะความกล้าเปลี่ยน ทำให้ COM7 เดินทางมาถึงจุดนี้.. แม้กระทั่งความกล้าเปลี่ยนแปลงช่องทางการขายที่หันไปเจาะตลาดต่างจังหวัด ก็ทำให้เรามีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น หรือการลงทุนเขียนโปรแกรมขึ้นมาควบคุมงานหลังบ้าน ก็ทำให้ระบบสต็อกของบริษัทแข็งแกร่ง ซึ่งเราทำมาตั้งแต่เปิดสาขาเล็กๆ อยู่ในพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ในขณะที่เจ้าของกิจการร้านไอทีในพันธุ์ทิพย์พลาซ่าบางรายไม่กล้าทำแบบเรา “การที่บริษัทมีสินค้าหลากหลาย ทำให้ไม่เคยเจอคำว่า วิกฤตเศรษฐกิจ  แย่สุดน้ำท่วม การเมือง หรือราคายางตก ก็มีเพียงบางสาขาเท่านั้นที่มียอดขายตก” เจ้าของ COM7 ยืนยัน

ที่มา : บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง ฉบับวันที่ 9 ก.ค. 2561 แนะนำ "ซื้อ" COM7 ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 24.50 บาท

สัปดาห์หน้า “เม่าจำไม By Bualuang” จะพาไปเจาะลึกการลงทุน บุคคลน่าสนใจที่ไหน รอติดตาม รับรองเอ็กซ์คลูซีฟเหมือนเดิม !!!