bottomstocks
bottomstocks

หุ้นไทยพ้นจุดต่ำสุดจริงหรือ? เปิด 3 วิธีวิเคราะห์หุ้นมือใหม่ห้ามพลาด

หุ้นไทยพ้นจุดต่ำสุดจริงหรือ? เปิด 3 วิธีวิเคราะห์หุ้นมือใหม่ห้ามพลาด
ในช่วงที่ตลาดหุ้นลง หลายคนอาจถอดใจอยากถือเงินไว้เฉย ๆ แต่ก็ไม่รู้จะกลับมาลงทุนในช่วงไหนดี
วันนี้เราจะพาทำการวิเคราะห์จุดกลับตัวของหุ้น ด้วย 3 เครื่องมือกันค่ะ ไปชมกันเลย

 
เปิด 3 วิธีวิเคราะห์หุ้น ที่มือใหม่ห้ามพลาด

หลัก ๆ ราคาหุ้นเราจะต้องคำนึงถึง 2 ส่วน ได้แก่
  • ส่วนพื้นฐานของบริษัท ราคาที่เหมาะสมจริง ๆ โดยคำนวณจากงบการเงิน และคาดการณ์กำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • ส่วนความต้องการของนักลงทุน หรือ Demand & Supply ซึ่งสะท้อนมาในรูปของราคาซื้อขายของหุ้น โดยใช้กราฟช่วยดูราคาย้อนหลังได้
 Screenshot 2567-02-13 at 00.58.51.png

หลังจากเราเข้าใจทั้ง 2 ส่วนแล้ว เราจะได้วิธีวิเคราะห์หุ้นออกมาดังนี้
  1. วิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน ดูจากงบการเงิน
  2. วิเคราะห์ด้วยเทคนิค โดยใช้กราฟราคาย้อนหลัง
  3. วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ ผสมผสานระหว่างวิธีที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน

Screenshot 2567-02-13 at 01.00.21.png

 
เครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental)

เครื่องมือที่ใช้มีอยู่หลากหลาย โดยเครื่องมือยอดนิยมที่จะขาดไปไม่ได้เลย คือ PE Ratio
ที่สามารถช่วยวัดความถูกความแพงของหุ้นได้ มีหน่วยเป็นเท่า

Screenshot 2567-02-13 at 01.04.58.png
 
แนวทางการเปรียบเทียบ PE 
  • เทียบ PE ปัจจุบันกับอดีตของตัวเองเพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลง จุดต่ำสุด สูงสุดดูว่า “จุดไหนถูก จุดไหนแพง”
  • ทียบกับ PE ของหุ้นที่สนใจ กับคู่แข่งของบริษัท หรือ PE ของตลาดหลักทรัพย์ ดูว่า “ใครถูกหรือแพงกว่า”

Tips: นักลงทุนมือโปร สามารถเพิ่มการเปรียบเทียบกับกลุ่มรายอุตสาหกรรมก็ได้นะคะ

 
เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิค (Technical)

วิธีการวิเคราะห์เทคนิคก็มีหลากหลายเช่นเดียวกับพื้นฐานเช่นกัน วันนี้จะขอมายกตัวอย่างการดู RSI เครื่องมือช่วยวัดแนวโน้ม หรือ Momentum ราคาหุ้น ตามระยะเวลา Day Week Month Quarter Year

Screenshot 2567-02-13 at 01.10.07.png

โดยค่า RSI จะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 สามารถใช้วัดโมเมนตัมได้ดังนี้
  • RSI < 30% มีแรงขายมากเกินไป เป็นช่วงที่ราคาถูก เหมาะเป็น “จังหวะซื้อ”
  • RSI > 70% มีแรงซื้อมากเกินไป เป็นช่วงที่ราคาแพง เหมาะเป็น “จังหวะขาย”
 

เครื่องมือวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ (Tactical)

ด้วยการผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิค ขอยกตัวอย่าง 2 กลยุทธ์ดังนี้

กลยุทธ์ที่ 1 กลยุทธ์ซื้อถัวเฉลี่ยเท่า ๆ กัน (DCA) ลงทุนระยะยาว

สมมติเลือกลงทุน ETF อ้างอิงดัชนีที่มีหุ้นหลาย ๆ ตัวประกอบกัน และเพื่อไม่คำนึงจุดไหนราคาถูก-แพง ตัดเรื่องความรู้สึกออกไป จึงลงทุนสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง จำนวนเท่า ๆ กันทุกงวด ที่เรียกว่า Dollar-Cost Averaging (DCA) 
 

ตัวอย่างผลตอบแทนใน ETF DR ปีละ 1,000 บาท เวลา 15 ปี
 
Screenshot 2567-02-13 at 01.17.00.png

 

กลยุทธ์ที่ 2 ค้นหาหุ้นด้วยพื้นฐานและเทคนิค จากนั้นตั้งซื้อแล้วขายอัตโนมัติ

ขอแนะนำทดลองจัดพอร์ตแบบ CAN SLIM ผสมผสานระหว่างหุ้นพื้นฐานดี กำไรโตต่อเนื่อง และเทคนิคเด่น อยู่ในช่วงขาขึ้น

ยกตัวอย่างการจัดแบบ CAN SLIM จากโปรแกรม Trade Master โดยใช้เงื่อนไขสแกนหุ้นดังนี้
  • เป็นหุ้นที่อยู่ใน SET100 หรือ SSET
  • มี EPS Growth Rate กำไรต่อหุ้นเติบโต มากกว่า 25% ขึ้นไป
  • มี Net Profit Growth Rate กำไรสุทธิมากกว่า 15%
  • มี ROE ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น มากกว่า 15%
  • เส้น Moving Average ค่าเฉลี่ยราคาย้อนหลัง 5 วัน มากกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 55 วัน
เมื่อเราทดสอบผลตอบแทนย้อนหลังกลยุทธ์นี้ จะเห็นว่าเส้นสีแดง (พอร์ตตามแบบ CAN SLIM) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงที่หุ้นเป็นขาลง เมื่อเทียบกับดัชนี SET และ MAI
 
Screenshot 2567-02-13 at 01.22.07.png

เมื่อเราได้กลยุทธ์คัดหุ้นที่ต้องการแล้ว ก็สามารถค้นหาหุ้นด้วยหลักการเหล่านี้ และส่งคำสั่งซื้อพร้อมเฝ้าขายอัตโนมัติด้วยคำสั่ง OTO บนโปรแกรม Trade Master ได้เช่นกัน

Screenshot 2567-02-13 at 01.36.28.png

 
วิธีใช้งานเครื่องมือออนไลน์ กับ 3 กลยุทธ์วิเคราะห์หุ้น

1. เครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐาน ด้วย PE 

  • Stock Signal: Login ผ่าน Streaming > เลือกเมนู BLS > เลือก Stock signal 

Picture2.png
 
  • Streaming: เลือกแถบ Realtime > Quote > พิมพ์ชื่อหุ้นที่สนใจ 


 

2. เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิค ด้วย RSI 

  • Streaming: เลือกแถบ My Menu > คลิก Technical Chart  

Picture4.png
 
  • Aspen Bualuang Trade: คลิกไอคอน > เลือกเมนู Chart > พิมพ์ชื่อหุ้นที่สนใจ 

Picture5.png
 
  • Trade master: คลิกไอคอน  > เลือกเมนู Chart > พิมพ์ชื่อหุ้นที่สนใจ  

Picture6.png


3. เครื่องมือหาหุ้นเชิงกลยุทธ์ พร้อมตั้งซื้อ-ขายอัตโนมัติ 
  • จัดพอร์ตแบบ CAN SLIM ด้วย Streaming: เลือกแถบ My Menu > คลิก Stock Screener 

Picture7.jpg

Picture8.png
 
  • จัดพอร์ตแบบ CAN SLIM ด้วย Trade Master: คลิกไอคอน  > เลือกเมนู BLS Strategy > เลือกกลยุทธ์ Can Slim 
Picture9.png

Picture10.png


ส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติด้วย Trade Master 

ซื้อหุ้นได้แล้วพร้อมกำหนดการขาย “Stop Loss” ต่อได้ทันที ไม่มีสะดุด ด้วยคำสั่งแบบ “One triggers the other order หรือ OTO” ใช้งานผ่านแอป Trade Master เมนู Auto Trade > Add Auto Trade ซึ่ง OTO เป็นคำสั่งแบบชุดคอมโบ 2 คำสั่ง ประกอบด้วย  

  1. คำสั่งแรก (Primary Order) ก่อนเพื่อกำหนดว่าหุ้นอะไร จะสั่งซื้อจำนวนเท่าไร ราคาเท่าไร และเมื่อเกิดการจับคู่แบบเต็มจำนวน (Fully Matched) 
     

Picture12.png
 

 

  1. คำสั่งรอง (Secondary Order) จะสั่งขายหุ้นตัวเดียวกันจำนวนเดียวกัน ตามเงื่อนไขของคำสั่งด้วยราคาที่กำหนดแบบอัตโนมัติทันที   

Picture13.png

นักลงทุนมือใหม่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้และเข้าถึงทุกบริการลงทุนกับหลักทรัพย์บัวหลวง

wconnex.jpgอ่านคู่มือและเงื่อนไขการใช้งานคลิกที่นี่


✅ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอป Wealth CONNEX บริการเชื่อมต่อทุกความรู้และบริการลงทุน
เลือกเมนู CHAT กด Chat With Customer Service
 

📌 เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร คลิก  👇

MicrosoftTeams-image-635.png

หรือศึกษาวิธีการเปิดบัญชีบนหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม คลิก 

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง