
DR01

ในขณะที่ธุรกิจระดับโลกพยายามสร้างความหลากหลายและปรับตัวให้กระบวนการในการผลิตมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยพยายามสร้างความเชื่อมโยงกันของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อลดปัญหาและความเสี่ยงจากการพึ่งพาปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ในเพียงประเทศเดียว ประเทศเวียดนาม...นับว่าได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ยอดนิยมในปัจจุบัน
เป็นเพราะอะไรกัน? ทำไมเวียดนามกลายเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาได้ขนาดนี้ วันนี้ ทีม Global Investing จะพาไปไขข้อสงสัย พร้อมพาไปทำความรู้จักบริษัทระดับโลกที่มีฐานการผลิตในเวียดนามกันค่ะ รับรองเลยว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จักอย่างแน่อน
ปัจจัยที่ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุน
1. ทักษะแรงงาน
ชาวเวียดนามมีนิสัยพื้นฐานเป็นคนขยัน อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในด้านงานฝีมือคุณภาพสูงและความซับซ้อนทางเทคนิค จึงมีความโดดเด่นในด้านการประกอบและการผลิตขนาดใหญ่
2. ต้นทุนแรงงาน
เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ตอนนี้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด ขณะที่ค่าแรงในเวียดนามยังคงถูกกว่าเพื่อนบ้านอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนสนใจในเวียดนาม เนื่องจากทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ
3. การเมืองที่มั่นคง
เวียดนามมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจและภาคการผลิตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีเสถียรภาพทางการเมืองโดยรวมที่มั่นคง และยังได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าของจีนกับสหรัฐ ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มหันจากการลงทุนในจีนไปลงทุนในเวียดนาม
4. โครงสร้างพื้นฐาน
เวียดนามสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านการขนส่ง ด้วยท่าเรือหลัก 3 แห่งที่ไซ่ง่อน เมืองโฮจิมินห์ รวมถึงการขนส่งทางอากาศผ่านสนามบินหลัก 4 แห่งของประเทศ
5. ข้อตกลงการค้าเสรี
เวียดนามได้เข้าร่วมในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศเพื่อขยายความเป็นสมาชิกนอกเหนือจากสมาคมอาเซียน ซึ่งมีส่วนช่วยในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม และอนุญาตให้ประเทศเปลี่ยนจากการส่งออกผลิตภัณฑ์การผลิตที่มีเทคโนโลยีต่ำ ไปเป็นผลิตภัณฑ์ไฮเทคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้พันธมิตรระหว่างประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากแรงงานที่มีทักษะสูงด้วยค่าแรงที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศจีน
เมื่อเข้าใจถึงสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยหนุนที่เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติกันแล้ว ต่อไปจะพาไปดูกันค่ะว่ามีบริษัทระดับโลก บริษัทอะไรบ้าง ? ที่ปัจจุบันได้ตั้งฐานการผลิตในประเทศเวียดนาม
1. Foxconn
บริษัทสัญชาติไต้หวันผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และชุดจอภาพทีวี ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น Sony, Dell, Xiaomi โดยเฉพาะการเป็นผู้ผลิตรายสำคัญให้กับสินค้าแบรนด์ Apple ที่ทำให้ Foxconn เป็นที่รู้จักทั่วโลก ล่าสุด Foxconn มุ่งลงทุนเพิ่มอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวียดนามเพื่อกระจายและเพิ่มการผลิตนอกประเทศจีน ซึ่งสาเหตุมาจากการระบาดใหญ่และการล็อกดาวน์ในประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุน และมีทางเลือกมากขึ้นในการผลิตผลิตภัณฑ์
2. Nike (NKE.US)
ประมาณครึ่งหนึ่งของรองเท้า Nike ทั้งหมดผลิตในเวียดนาม โดยมีโรงงานผลิตประมาณ 200 แห่งในเวียดนาม ซึ่งตามรายงานทางการเงินปี 64 ที่ผ่านมา รองเท้าผ้าใบ 51% ผลิตในเวียดนาม และสัดส่วนที่ผลิตในจีนลดลงเหลือ 21% อย่างไรก็ดี ผู้คนมักตั้งคำถามว่า “รองเท้า Nike ที่ผลิตในเวียดนามปลอมหรือไม่” นั้นอาจเป็นเพราะผู้บริโภคยังไม่คุ้นเคยกับเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังมีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นแหล่งการผลิตที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ในปัจจุบันอีกด้วย
3. Intel (INTC.US)
Intel มีแหล่งการประกอบและทดสอบที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ Saigon Hi-Tech Park และยังคงลงทุนจำนวนมากในเวียดนาม โดยมีแผนจะขยายโรงงานผลิตและศูนย์ทดสอบชิปในเวียดนาม อีกทั้งยังประกาศว่าจะร่วมมือกับ Vin Group (VIC.VN) เครือธุรกิจยักษ์ใหญ่จากเวียดนาม เพื่อผลิตและพัฒนาชิปให้กับรถ EV อย่าง VinFast ค่ายรถเวียดนามที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง
4. Lego
Lego ได้ลงทุนตั้งโรงงานในเวียดนามเมื่อ ปี 64 ที่ผ่านมาด้วยงบ 3.3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดของเล่นในเอเชีย โดยตั้งเป้าที่จะเป็นโรงงานแห่งความยั่งยืน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ 0% ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดกว้างด้านการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน และแรงงานที่มีทักษะของเวียดนาม และจะเริ่มสายการผลิตครั้งแรกในปี 67 ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบหลายปีของ Lego เป็นการตอกย้ำและแสดงให้เห็นว่าเวียดนามคือฐานผลิตสำคัญแห่งหนึ่งในเอเชียในสายตาของบริษัทใหญ่ ๆ ระดับโลก
5. Sharp
Sharp ได้ย้ายฐานการผลิตจากจีนมาสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเวียดนาม ใกล้นครโฮจิมินห์ ในปี 63 ที่ผ่านมา เพื่อเลี่ยงภาษีจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน โดยจะใช้โรงงานแห่งใหม่นี้ในการผลิตและประกอบจอ LCD สำหรับรถยนต์ที่ส่งออกไปสหรัฐฯ และเพื่อผลิตคอมพิวเตอร์ที่เป็นบริษัทย่อยของ Sharp
6. Samsung
มากกว่า 50% ของสมาร์ทโฟน Samsung ทั้งหมดนั้นผลิตอยู่ในโรงงานในประเทศเวียดนาม อีกทั้งในปี 65 Samsung ได้มีแผนที่จะย้ายการดำเนินงาน R&D หลักของบริษัทไปทางตะวันตกของฮานอย ทำให้เวียดนามเป็นศูนย์ R&D ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน Samsung ก็ได้ปิดโรงงานในจีน ดังนั้นจึงทำให้เวียดนามกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ Samsung
7. Adidas
เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก รองจากจีนในแง่ของจำนวนโรงงานผลิต แต่ในขณะเดียวกัน เวียดนามกลับมีแรงงานมากที่สุดในการผลิตสินค้า Adidas โดยมีพนักงานมากกว่า 200,000 คน เทียบกับ 88,000 คนในจีน อีกทั้ง 40% ของแบรนด์รองเท้าชื่อดังนี้ก็ผลิตอยู่ในเวียดนาม
8. LG
ตั้งแต่ปี 61 LG ได้ตัดสินใจหยุดการผลิตสมาร์ทโฟนในเกาหลีใต้เพื่อย้ายการผลิตไปยังเวียดนาม เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 64 ที่ผ่านมา LG ได้เพิ่มการผลิตจอแสดงผล โดยลงทุนเพิ่มไปราว 45,133 ล้านบาท ในโรงงาน ณ เมืองท่าที่สำคัญที่สุดทางภาคเหนือของเวียดนาม การลงทุนของ LG Display จึงได้เพิ่มเป็น 149,925 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ นอกจากจะช่วยขยายกำลังการผลิตของบริษัทที่ตั้งในในเมืองหายฟ่อง ประเทศเวียดนามแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 5,000 ตำแหน่ง
9. Canon
Canon ได้จัดตั้งโรงงานผลิต 4 แห่งในเมืองทังลอง ฮานอย เกววอ เทียนเซิน และ บั๊กนิญ อีกทั้งยังมี Canon Marketing Vietnam Co. Ltd. ซึ่งเป็นการช่วยหางานให้กับคนมากกว่า 25,000 ตำแหน่ง กิจกรรมเพื่อสังคมของ Canon นั้นครอบคลุมทุกแง่มุมในเวียดนาม เช่น การศึกษา วัฒนธรรม และสังคม และได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเวียดนาม เพื่อดำเนินการ "Canon - For a green Vietnam”
10. IKEA
เวียดนามมีความโดดเด่นในหมวดหมู่เฉพาะของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการผลิตในเวียดนามคิดเป็นเกือบ 100% ของ supplier ในด้านของตกแต่งภายนอกที่ทำจากไม้ไผ่ และหวาย โดยส่วนมากแล้ว IKEA จะเน้นการผลิตไปที่ช่างทอและช่างฝีมือที่มีทักษะมากกว่าการทำเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งทักษะแรงงานจากเวียดนามเองก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 10 บริษัทที่เราได้นำมาให้ทุกท่านได้ดูกัน จะเห็นได้ว่าเป็นบริษัทชื่อดังระดับโลกทั้งนั้น และหลายบริษัทนี้ก็ได้นำเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเข้ามาในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพให้กับประชากรในเวียดนามอีกจำนวนมาก เรียกได้ว่าการลงทุนจากต่างชาตินั้นเป็นตัวช่วยสำคัญที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนามได้เป็นอย่างดี โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 65 ที่ผ่านมา เวียดนามมีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) อยู่ที่ราว 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 92.9%YoY แสดงถึงการเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ในขณะที่ GDP ไตรมาส 2 ปี 65 ได้ขยายตัวถึง7.7%YoY นับเป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 10 ปี!
🤑สำหรับใครที่สนใจลงทุนในเวียดนาม ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงเปิดบัญชี Global Investing แล้วเริ่มลงทุนได้! ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bls.tips/openglobalinvesting
🤑 หรือนี่เลย! อีกหนึ่งตัวเลือกในการลงทุนต่างประเทศที่สะดวก ง่าย ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย DR “E1VFVN3001” และ “FUEVFVND01" ที่อิงดัชนี VN30 และ VN Diamond หุ้นชั้นนำของเวียดนาม ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
👉 http://bls.tips/E1VFVN3001
สำหรับ DR ที่ลงทุนใน DCVFMVN30 ETF อิงดัชนี VN30 ประกอบด้วยหุ้นเวียดนามชั้นนำขนาดใหญ่ 30 ตัวแรก
👉 http://bls.tips/FUEVFVND01
สำหรับ DR ที่ลงทุนใน DCVFMVN DIAMOND ETF อิงดัชนี VN Diamond ประกอบไปด้วยหุ้นยอดฮิตที่ติดข้อจำกัดด้าน Foreign Limit จำนวราว 17 ตัว
🔥 โปรฯ แรง “TRANSFREE” ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินไปต่างประเทศ ทุกวันอังคาร และ วันพุธ ตลอดวัน ไปจนถึงสิ้นปี 2565 พร้อมกับรายงานหุ้นต่างประเทศ ส่งตรงถึงมือท่านทุกวันสม่ำเสมอ https://bls.tips/reportblsglobalinvesting
ที่มา: Vietnam Daily Taiwannews, Viettonkinconsulting , Marketeer, Bangkokbiznews, MGRonlin, Hanoitime, Canon, VPIC
เรียบเรียงโดย:
ศิวพรรณ ประดิษฐ์กุล, Supervisor: Global Investing Solutions, บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง
ภัทริกา สุทนุจินดา, Product Specialist: Global Investing Solutions, บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง
ข้อมูล ณ วันที่ 26 ส.ค. 65
Tools
Tips
Global
DR01
DR01
Recommend