
Global
ช่วงนี้หลายคนคงกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่ลดลงและไม่แน่ใจว่าจะลงทุนยังไงดี เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจค่อนข้างผันผวน...จะส่งผลต่อสินทรัพย์และมีสัญญาณเตือนอะไรบ้างไปดูกันเลย
ดังนั้น ถ้าดอกเบี้ยลดลง เงินก็จะไหลไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น หรือตราสารหนี้ ทำให้ตลาดการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลง

ที่มา: BLS Global Investing, Bloomberg ณ วันที่ 26/08/2567

ที่มา: BLS Global Investing, Bloomberg ณ วันที่ 26/08/2567
เงินลงทุนมักไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย จากอัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวลดลง เช่น การถือเงินสด หรือ การซื้อตราสารหนี้เพื่อรอจังหวะลงทุนที่เหมาะสม

ที่มา: Fidelity, Carson Investment Research ณ วันที่ 26/08/2567
การลงทุนในพันธบัตร ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเมื่อดอกเบี้ยลดลง ราคาพันธบัตรจะสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนยังมีความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนได้

ทำไมต้องเลือกพอร์ตนี้?

จากภาพผลตอบแทนย้อนหลังของ USFIXEDETF เทียบกับ U.S. Aggregate Bond Index ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐฯ จะเห็นว่า USFIXEDETF สามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าที่ +0.91% เทียบ U.S. Aggregate Bond Index -7.45%
ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถรับชมสัมมนาออนไลน์ “เผยเทคนิคจัดพอร์ตด้วย Bond ETF รับมือตลาดผันผวนแบบมือโปร” คลิกที่นี่
หรือ อ่านบทความ “บริหารพอร์ตลงทุน Bond ETF ต่างประเทศแบบอัตโนมัติกับ Dynamic Income USD ETF” คลิกที่นี่
สำหรับลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถติดต่อได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือสมัครบริการด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีวิธีสมัครดังนี้

หลังจากดำเนินการสมัครแล้ว ท่านจะได้รับผลอนุมัติทางอีเมล และสามารถติดตามผลการดำเนินงานพอร์ตการลงทุนของท่านง่าย ๆ ได้ทุกวันผ่าน เว็บไซต์ www.bualuang.co.th
ทำไมดอกเบี้ยถึงสำคัญกับการลงทุน?
ดอกเบี้ยเหมือนปุ่มควบคุมเศรษฐกิจ ถูกกำหนดโดยธนาคารกลางผ่านนโยบายทางการเงินเพื่อใช้สำหรับอ้างอิงอัตรากู้ยืมและฝากเงินของธนาคารพาณิชย์ แบ่งออกเป็น 2 วัตถุประสงค์ ดังนี้- ลดดอกเบี้ยนโยบาย เป็นนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายวิธีหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ
- เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นนโยบายการเงินแบบตึงตัววิธีหนึ่ง เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ
ดังนั้น ถ้าดอกเบี้ยลดลง เงินก็จะไหลไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น หรือตราสารหนี้ ทำให้ตลาดการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลง
อะไรเป็นสัญญาณที่บอกว่าดอกเบี้ยกำลังจะลดลง?
1. ตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัว
- อัตราเติบโตของ GDP ที่เติบโตชะลอตัว โดยในปี 2567 คาดการณ์ว่า GDP จะอยู่ที่ 2.5% YoY ซึ่งเท่ากันกับปี 2566 และคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ที่ 1.8% YoY และ 2569 2.0% YoY
- เงินเฟ้อปรับตัวลงต่อเนื่อง จะเห็นว่าเงินเฟ้อตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา โดย ณ เดือน ก.ค. ปรับตัวลงอยู่ที่ 2.9% YoY
- อัตราการว่างงานพุ่งสูงต่อเนื่อง ภาคการบริโภคที่ชะลอตัว โดยอัตราว่างงาน ณ เดือน ก.ค. แตะที่ระดับ 4.3% และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงมาต่ำกว่า 70 จุด

ที่มา: BLS Global Investing, Bloomberg ณ วันที่ 26/08/2567
2. ความไม่แน่นอนทางการเมือง
- การเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความผันผวนมาก จากความเป็นไปได้ที่พรรคการเมืองที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือ สภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้มาจากพรรคเดียวกันทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลักดันนโยบายหรือกฎหมายได้ยากขึ้น
- ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ที่ไม่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นใคร ต่างก็มีท่าทีชัดเจนต่อการกีดกันทางการค้ากับจีน
3. ตลาดหุ้นไม่ทำจุดสูงสุดใหม่
- ดัชนีหลักของสหรัฐฯ ไม่น่ามีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ แม้มีปัจจัยสนับสนุน สังเกตได้จากหุ้น NVDA ที่ล่าสุดเผยงบออกมาดี แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวลง
4. ปรากฏการณ์ Inverted Yield Curve
- หุ้นกู้อายุสั้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้อายุยาว ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มักเป็นสัญญาณเตือนก่อนเศรษฐกิจจะเข้าสู่สภาวะถดถอย

ที่มา: BLS Global Investing, Bloomberg ณ วันที่ 26/08/2567
ถ้าอัตราดอกเบี้ยลดลง ควรลงทุนอย่างไร?
เงินลงทุนมักไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย จากอัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวลดลง เช่น การถือเงินสด หรือ การซื้อตราสารหนี้เพื่อรอจังหวะลงทุนที่เหมาะสม 
ที่มา: Fidelity, Carson Investment Research ณ วันที่ 26/08/2567
การลงทุนในพันธบัตร ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเมื่อดอกเบี้ยลดลง ราคาพันธบัตรจะสูงขึ้น

- โดยอัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวลดลง จะส่งผลให้ bond yield ปรับตัวลดลงตาม จึงช่วยสร้างโอกาสทำกำไรจากการล็อค yield และส่วนต่างราคา (capital gain) ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก
- โดยสถิติจาก Franklin Templeton ชี้ให้เห็นว่า เมื่อ bond yield ปรับตัวลดลง 1% ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปี 10 ปี และ 30 ปี จะมีโอกาสปรับที่ผลตอบแทนรวม (total return) จะปรับตัวขึ้นที่ 5.28%, 11.58% และ 22.36% ตามลำดับในอีก 1 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนยังมีความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนได้
ลงทุนพันธบัตรสหรัฐฯ แบบมือโปร ผ่านบริการจัดพอร์ตหุ้นต่างประเทศอัตโนมัติ
ขอแนะนำ "US Fixed Income ETF Portfolio (USFIXEDETF)" ตัวช่วยจัดพอร์ตลงทุนใน ETF ตราสารหนี้ (Bond ETF) ที่โดดเด่นในสหรัฐฯ ให้อัตโนมัติ พร้อมทั้งมีนโยบายปรับสัดส่วนพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาด เศรษฐกิจ ทิศทางดอกเบี้ย และมีการติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยผู้เชี่ยวชาญ
ทำไมต้องเลือกพอร์ตนี้?
- ง่าย: ลงทุนได้ง่าย ไม่ต้องศึกษาข้อมูลเองมาก
- ปลอดภัย: กระจายความเสี่ยงในหลายพันธบัตร
- ผลตอบแทนดี: มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

จากภาพผลตอบแทนย้อนหลังของ USFIXEDETF เทียบกับ U.S. Aggregate Bond Index ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐฯ จะเห็นว่า USFIXEDETF สามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าที่ +0.91% เทียบ U.S. Aggregate Bond Index -7.45%
ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถรับชมสัมมนาออนไลน์ “เผยเทคนิคจัดพอร์ตด้วย Bond ETF รับมือตลาดผันผวนแบบมือโปร” คลิกที่นี่
หรือ อ่านบทความ “บริหารพอร์ตลงทุน Bond ETF ต่างประเทศแบบอัตโนมัติกับ Dynamic Income USD ETF” คลิกที่นี่
สมัครบริการจัดพอร์ตหุ้นต่างประเทศอัตโนมัติ USFIXEDETF อย่างไร
สำหรับลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถติดต่อได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือสมัครบริการด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีวิธีสมัครดังนี้ - ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง ล็อกอินบนแอป Wealth Connex
- เลือกเมนู Solution > สมัครบริการลงทุน จากนั้นเลือกจัดพอร์ตหุ้นต่างประเทศอัตโนมัติ

หลังจากดำเนินการสมัครแล้ว ท่านจะได้รับผลอนุมัติทางอีเมล และสามารถติดตามผลการดำเนินงานพอร์ตการลงทุนของท่านง่าย ๆ ได้ทุกวันผ่าน เว็บไซต์ www.bualuang.co.th
📌 สำหรับบุคคลทั่วไปหรือยังไม่มีบัญชี เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร คลิก 👇
หรือศึกษาวิธีการเปิดบัญชีบนหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม คลิก
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด