
ครบเครื่องเรื่องสินค้าในตลาด TFEX
“การคำนวณหลักประกัน Options”
วันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับวิธีการคำนวณหลักประกันของ Options กันค่ะ แล้วจะสามารถคำนวณได้อย่างไร…
สำหรับผู้ที่ถือสถานะ Long Options จะจ่ายเพียง Premium และไม่ต้องวางเงินหลักประกันเหมือนกับสินค้าอื่น ๆ ในตลาด TFEX ขณะที่ผู้ถือสถานะ Short Options จะต้องวางเงินหลักประกันก่อนเทรด ซึ่งเป็นหลักประกันที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเสี่ยงที่ระบบคำนวณ ดังนั้น สำหรับฝั่ง Short Options นอกจากจะมีโอกาสขาดทุนไม่จำกัดแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกเรียกหลักประกันเพิ่มขึ้นในกรณีที่เทรดผิดทางอีกด้วย
วิธีคำนวณหลักประกันบน Streaming
ผู้เทรดสามารถทดลองคำนวณหลักประกันก่อนเปิดสถานะ Options ได้ผ่านโปรแกรม Streaming บน PC โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- เลือกเมนู TFEX
- คลิก Margin Simulation แล้วหน้าจอจะปรากฎหน้าต่างใหม่
- เลือก Add และใส่สินค้า, สถานะ, ปริมาณและราคาที่เราต้องการเทรด
- ติ๊กเครื่องหมายถูกหน้า Order ที่ต้องการคำนวณ
- เลือก Margin Detail เพียงเท่านี้แล้ว ระบบจะคำนวณหลักประกันที่ต้องวางมาให้
ที่มาข้อมูล : Settrade Streaming ณ วันที่ 17 ธ.ค. 64
รู้หรือไม่! หากถือ SET50 Index Futures ร่วมกับ Long Options อาจทำให้ IM ของพอร์ตเปลี่ยนแปลง
ตามทฤษฎี หากถือสถานะ Long Options ผู้เทรดจะเสียแค่ Premium ที่จ่ายไปตอนแรกและไม่ต้องวางเงินหลักประกัน แต่กรณีที่พอร์ตของท่านถือสถานะ SET50 Index Futures ร่วมกับ Long Options ระบบจะประเมินความเสี่ยงของทั้งพอร์ต ทำให้หลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) มีโอกาสเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้น ผู้เทรดที่เทรดทั้ง 2 สินค้าร่วมกัน ควรหมั่นตรวจสอบสถานะการเงินในพอร์ตเพื่อป้องกันไม่ให้ถูก Call/Force Margin
ตัวอย่าง หากถือ Short S50Z21 จำนวน 5 สัญญา ณ ราคา 970 จุด และถือ Long S50Z21C975 จำนวน 2 สัญญา ณ ราคา 8 จุด
กรณีเป็นไปตามทฤษฎี จะต้องวางหลักประกันเฉพาะ SET50 Index Futures จำนวน 5 สัญญา ซึ่งเท่ากับ 46,025 บาท (หลักประกันสัญญาละ 9,205 บาท x 5 สัญญา)
แต่ระบบจะคิดหลักประกันทั้งหมดเพียง 26,152.50 บาท เนื่องจากระบบมองว่าการถือสถานะร่วมกันของทั้ง 2 สินค้า ทำให้ความเสี่ยงของพอร์ตลดลง จึงเรียกเก็บหลักประกันลดลงด้วย
ที่มาข้อมูล : Settrade Streaming ณ วันที่ 17 ธ.ค. 64 เวลา 10.01 น.
📌สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ BLS Customer Service โทร 0-2618-1111