
Global
Tools

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตลาดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์และผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังอย่าง Sony และ Toyota โดยมีตลาดหลักทรัพย์โตเกียว Tokyo Stock Exchange (TSE) เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด ก่อตั้งเมื่อปี 2421 มีดัชนีหลักคือ Nikkei 225 และ TOPIX อีกทั้งมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นราว 3,882 บริษัท
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่ารอคอยช่วงเวลาที่จะได้เฉิดฉายมานานกว่าสามทศวรรษ ซึ่งครั้งนี้ดัชนีหุ้นหลักของประเทศได้แตะรับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 หลังจากเกิดภาวะฟองสบู่
จนถึงปีนี้ 2566 ดัชนี TOPIX ได้พุ่งขึ้นเกือบ 14% และ Nikkei 225 ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัท Blue Chip ของญี่ปุ่น ที่พุ่งขึ้นเกือบ 17% แซงหน้าดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ และ STOXX Europe 600 ของยุโรป ซึ่งทั้ง 2 ดัชนี เพิ่มขึ้น 8% ในช่วงเวลาดังกล่าว
สาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นสามารถ outperform และเป็นที่น่าจับตานั้น มีปัจจัยหนุนมาจากมูลค่าที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือยุโรป อีกทั้งยังเป็นเสมือน Safe Haven ในขณะที่หุ้นสหรัฐฯ และจีน มีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการฟื้นจากภาวะเงินฝืดที่ญี่ปุ่นพยายามเอาชนะมาหลายทศวรรษ การใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักของโลก ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันต่อธุรกิจส่งออกรายใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะธุรกิจหลักของเศรษฐกิจญี่ปุ่น รวมถึงการไหลเข้ามาของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติได้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นมูลค่าทั้งหมดราว 15.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนเม.ย. 66 ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนต.ค. 60 ตามข้อมูลของ Japan Exchange Group ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนาน CEO ของ บริษัท Berkshire Hathaway ที่ได้ออกมาพูดในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีว่าบริษัทจะเพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทญี่ปุ่นถึง 5 แห่ง คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยกัน ได้แก่ Itochu Corp., Marubeni Corp., Mitsubishi Corp., Mitsui, และ Sumitomo Corp.
ในภาพรวม...ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทำให้บริษัทในญี่ปุ่นมีความน่าสนใจมากขึ้น โดย GDP เติบโต 0.4% ในไตรมาสแรกของปี 66 เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 65 ซึ่งสูงกว่าความคาดหวังของนักวิเคราะห์ที่จะเพิ่มขึ้น 0.1% อีกทั้งกิจกรรมในเศรษฐกิจภาคเอกชนของญี่ปุ่นก็เติบโตในเดือนพ.ค. 66 ในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 56 ด้วยเช่นกัน.
ปัจจุบันนักลงทุน BLS สามารลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นได้สะดวก ง่าย ผ่านตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ในรูปแบบของหุ้น ADR หรือ American Depositary Receipt ตราสารที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐฯ (Depositary banks) เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทต่างประเทศ อย่างบริษัทญี่ปุ่นได้ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ADR ได้ที่ https://bls.tips/ADRUS
ตัวอย่าง หุ้น ADR ญี่ปุ่น

นอกจากนี้…นักลงทุนยังสามารถกระจายการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นอีกหลากหลายตัว ผ่าน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้เช่นกันค่ะ
ตัวอย่าง ETF ที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น

Sources: ishares, J.P.Morgan
🚨 นักลงทุนสามารถลงทุน ADR หรือ ETF ญี่ปุ่น ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะดวก ได้แล้ววันนี้ ผ่านแพลตฟอร์มลงทุนต่างประเทศใหม่ล่าสุด จากหลักทรัพย์บัวหลวง “Global Trade Master” ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bualuang.co.th/globaltrademaster
🚨 เปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศออนไลน์ง่ายๆ สไตล์ BLS Global Investing ลงทุนได้ทั้งหุ้นและ ETF ที่จดทะเบียนในตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง และเวียดนาม ได้ที่ https://bls.tips/openglobalinvesting-wc
ที่มา: BLS Global Investing, CNN Business, Japan Exchange Group, ishares, investing.com, J.P.Morgan
เรียบเรียงโดย:
ศิวพรรณ ประดิษฐ์กุล, Assistant Vice President: ส่วน Global Investing Solutions, บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง
ภัทริกา สุทนุจินดา, Supervisor: ส่วน Global Investing Solutions, บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง
ข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ค. 66