
By BLS Private Fund
-
จากสถิติในอดีต ไม่มีสินทรัพย์ประเภทไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุดในทุกๆปี เนื่องจากสินทรัพย์แต่ละประเภทให้ผลตอบแทนไม่เหมือนกันในสภาวะเศรษฐกิจแต่ละช่วง ถึงแม้จะมีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในระยะยาวอย่างตราสารทุนหรือหุ้น แต่เมื่อมีปัจจัยที่ไม่คาดคิดอย่างวิกฤตเศรษฐกิจหรือโรคระบาดเข้ามากระทบก็สามารถทำให้หุ้นปรับตัวลงรุนแรงและมีความผันผวนมาก หากมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นต้องขายหุ้นในช่วงที่หุ้นปรับตัวลงแรงพอดี กำไรที่ผ่านมาก็อาจจะกลายเป็นการขาดทุนอย่างหนักได้ถ้าลงทุนเฉพาะในหุ้นเท่านั้น หรือการเลือกลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตัวใดตัวหนึ่งก็มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกัน
-
หากจะคาดการณ์ว่าสินทรัพย์ไหนน่าจะให้ผลตอนแทนดีที่สุดในอนาคต ในปีนี้ ปีหน้า หรือในอีกสองปี แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถฟันธงได้ เพราะสินทรัพย์ไหนจะดีหรือไม่ดี ขึ้นกับวัฏจักรเศรษฐกิจและยังมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างวิกฤตต่างๆ อีกด้วย
-
ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและความผันผวนในระดับที่เหมาะสมจึงควรลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์ (Asset Allocation) ที่ผู้จัดการกองทุนชื่อดังอย่าง Ray Dalio คิดค้นและเรียกว่าเป็น “All-Weather Portfolio” (พอร์ตการลงทุนที่สามารถผ่านไปได้ทุกสภาวะ)
-
เพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์ ทางหลักทรัพย์บัวหลวงมีทีมงานนักวิเคราะห์ที่คอยติดตามวัฏจักรเศรษฐกิจและคาดการณ์มุมมองต่อสินทรัพย์แต่ละประเภทประกอบกับใช้ข้อมูลวิเคราะห์ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงของสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เข้ามาคำนวณใน Black-Litterman Model เพื่อจัดพอร์ตกระจายสินทรัพย์ตามประเภท ตามภูมิภาคต่างๆ ให้ได้พอร์ตการลงทุนที่มีผลตอบแทนต่อความเสี่ยงดีที่สุด ซึ่งสามารถติดตามได้ในบทวิเคราะห์ “การจัดพอร์ตสินทรัพย์และแนวโน้มการลงทุน (Asset Allocation)”
-
แต่ปัญหาของการจัดพอร์ตคือ การคัดเลือกกองทุนที่เป็นตัวแทนสินทรัพย์แต่ละประเภท คำนวณสัดส่วน ส่งคำสั่งซื้อขาย รวมไปถึงการปรับสัดส่วนตามบทวิเคราะห์และการ rebalance ให้ความเสี่ยงของพอร์ตกลับมาสู่จุดสมดุล ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของนักลงทุนที่อยากจัดพอร์ตกระจายสินทรัพย์ด้วยตัวเอง
-
ดังนั้นเพื่อให้ง่ายสำหรับนักลงทุนยิ่งขึ้น ทางหลักทรัพย์บัวหลวงจึงมีบริการ BLS Top Funds Portfolio (Auto Asset Allocation) ที่จะช่วยลงทุนกระจายสินทรัพย์ให้นักลงทุนโดยอัตโนมัติตามบทวิเคราะห์การจัดพอร์ตสินทรัพย์และแนวโน้มการลงทุน (Asset Allocation) ซึ่งจะคัดเลือกกองทุนรวมที่เป็นตัวแทนแต่ละประเภทสินทรัพย์จาก 18 บลจ. ชั้นนำ คำนวณสัดส่วน ส่งคำสั่งซื้อขาย ปรับพอร์ตตามบทวิเคราะห์รวมถึง rebalance ให้นักลงทุนโดยอัตโนมัติ
-
Auto Asset Allocation มีกลยุทธ์ให้เลือกตามระดับความเสี่ยง 3 ระดับ ได้แก่
-
Conservative Asset Allocation (CAA) เสี่ยงต่ำ
-
Moderate Asset Allocation (MAA) เสี่ยงปานกลาง
-
Aggressive Asset Allocation (AAA) เสี่ยงสูงถึงสูงมาก
-
-
Conservative Asset Allocation เน้นลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินและตราสารหนี้เป็นหลัก และบางส่วนจะกระจายการลงทุนไปยังกองทุนหุ้นภูมิภาคต่างๆ รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ
-
Moderate Asset Allocation เน้นลงทุนแบบผสมผสานทั้งในกองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้นภูมิภาคต่างๆ รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ
-
Aggressive Asset Allocation เน้นลงทุนในกองทุนรวมหุ้นและกระจายการลงทุนตามภูมิภาคต่างๆ และบางส่วนจะลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก อาทิเช่น กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
-
ค่าธรรมเนียมการใช้บริการมีเฉพาะค่าธรรมเนียมซื้อหรือขายกองทุนรวมตามค่าธรรมเนียมซื้อขายของกองทุนต้นทาง ซึ่งเรียกได้ว่าค่าธรรมเนียมเหมือนลงทุนด้วยตัวเอง แต่มีระบบอัตโนมัติจัดการให้หมด
-
นักลงทุนยังสามารถติดตามพอร์ตการลงทุนได้ทุกวันผ่าน Streaming Fund+ หรือรวมพอร์ตการลงทุนในเว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง
อีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนกับ Auto Asset Allocation ที่ช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนผ่านกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ ด้วยการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์มั่นคงผ่านกองทุนรวม เริ่มต้นลงทุนเพียง 500,000 บาท เมื่อสมัครผ่านช่องทาง Wealth CONNEX สามารถศึกษาขั้นตอนการสมัครบริการได้ที่นี่ https://bls.tips/BLSTopFundsPortfolioOpenAccount
ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนหรือ BLS Customer Service
โทรศัพท์ 0-2618-1111 หรือ Email : [email protected]