ร้านอาหารชาบูหม้อไฟที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดของจีนคือร้านอะไร และหากเทียบกับธุรกิจเดียวกันในเมืองไทยจะเปรียบได้กับร้านอะไร? คำถามนี้ ทีม BLS Global Investing มีคำตอบ ไปติดตามค่ะ…

Haidilao ร้านชาบูหม้อไฟใหญ่ที่สุดของจีน…

ร้านอาหาร Haidilao หรือที่เรียกว่า ไห่ตี้เหลา ขึ้นชื่อในเรื่องของ Legendary customer service หรือการให้บริการลูกค้าในตำนาน และน้ำซุปที่ทำขึ้นจาก “มะเขือเทศ” ซึ่ง 2 อย่างนี้ ทำให้เราเชื่อว่า เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมาทานอีกหลาย ๆ ครั้ง…

ร้านอาหาร Haidilao เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2557 โดยบริษัท Haidilao International Holding Ltd. ปัจจุบันมีสาขากว่า 935 สาขาในหลายประเทศ อาทิ ประเทศจีน สิงคโปร์ สหรัฐฯ เกาหลี ญี่ปุ่น แคนาดา และไทย เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 63) อีกทั้งบริษัทยังยึดมั่นในเรื่องของอาหารที่ทำให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดีขึ้น อาหารที่ปลอดภัย และอาหารที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ รู้หรือไม่!?! ร้านสาขาแรกเกิดขึ้นในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

แล้วที่บอกว่า “Legendary customer service” นั้น เราจะชี้ให้เห็นว่า Haidilao ใส่ใจกับการบริการมาก ไม่ว่าจะเป็นการบริการเรื่องเล็กเรื่องน้อย อาทิ การให้บริการทำเล็บ สำหรับผู้หญิง บริการขัดรองเท้า สำหรับผู้ชาย บริการเสิร์ฟขนม อีกทั้งการมีบอร์ดเกมให้เล่น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อลูกค้ารอคิวนาน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่แปลกใหม่ สร้างความรู้สึกพอใจและความตื่นเต้นให้กับลูกค้า จึงทำให้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ร้านไห่ตี้เหลา มีลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านเพิ่มมากขึ้น การพูดปากต่อปากเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็ดีขึ้นตามไปด้วย

อีกทั้ง Haidilao ยังใส่ใจลูกค้าในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเมื่อลูกค้าเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้ว จะมีบริการผ้าเช็ดแว่นวางเอาไว้ สำหรับลูกค้าที่ใส่แว่น เพื่อใช้ระหว่างการรับประทานอาหาร หากแว่นตาเกิดมัวและขึ้นเป็นไอน้ำจากควันหม้อ ก็สามารถนำผ้าเช็ดแว่นมาเช็ดได้ อีกทั้งยังมียางรัดผม เตรียมไว้สำหรับลูกค้าผู้หญิงที่ผมยาว กลัวว่าผมจะจิ้มลงไปในอาหาร ก็สามารถเลือกที่จะมัดผมระหว่างการรับประทานอาหารได้ หรือแม้แต่ซองพลาสติกสำหรับป้องกันโทรศัพท์เปื้อนระหว่างการทานอาหาร เป็นต้น

บริษัท Haidilao International Holding Ltd. เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงในปี 2561 ภายใต้สัญลักษณ์ 6862 โดย ณ วันที่ 9 ธ.ค. 63 มูลค่าตลาด (Market Capitalization) อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท

ที่มา: Bloomberg Consensus, Haidilao Presentation

และหากมองย้อนกลับไป ก่อนการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะเห็นว่า รายได้ของ Haidilao ในปี 60, 61 และ 62 โตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 36.2%, 59.5%, และ 56.5% ตามลำดับ

MK Restaurants ร้านสุกี้ใหญ่ที่สุดในไทย…

ร้านอาหารที่ใครๆ ก็รู้จัก! คุณป้าทองคำ ผู้ร่วมก่อตั้ง MK ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปซื้อกิจการของนักธุรกิจชาวฮ่องกง คุณมาคอง คิงยี (ผู้ริเริ่มก่อตั้งคนแรก) แล้วรู้หรือไม่ว่า… คุณป้าทองคำ เป็นแม่ยายของคุณฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบัน ซึ่งคุณฤทธิ์ ธีระโกเมน หลังจากแต่งงานกับคุณยุพิน ลูกสาวของคุณป้าทองคำได้ไม่นาน ก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเดิมที่บริหารธุรกิจซีเอ็ดมาเป็นระยะเวลาหลายปี ก็หันมาลุยธุรกิจร้านอาหาร MK ของคุณป้าทองคำ ร่วมกับน้องชายของคุณยุพิน และคุณทนง โชติสรยุทธ์

MK ร้านอาหารสำหรับสายสุกี้ ที่ไม่ว่าจะไปทานกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคู่รักก็ได้ทุกโอกาส… หลาย ๆ คน อาจจะทราบกันอยู่แล้วว่า ร้านอาหารเอ็มเคสุกี้ เป็นร้านอาหารประเภทสุกี้สไตล์ไทย ๆ โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 63 ร้านเอ็มเค มีสาขาอยู่ทั้งหมด 463 สาขา แบ่งออกเป็นร้าน MK Restaurant 451 สาขา MK Gold ร้านอาหารสุกี้ระดับพรีเมี่ยมที่ 6 สาขา และ MK Live ร้านอาหารสไตล์ออกานิคที่ 6 สาขา

รู้หรือไม่!?! เอ็มเคสุกี้ ไม่ได้เปิดเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเปิดที่ประเทศเวียดนามจำนวน 9 สาขา ประเทศญี่ปุ่น 33 สาขา ประเทศลาว 2 สาขา และสิงคโปร์กว่า 10 สาขา (โดยร้านอาหารที่เปิดต่างประเทศนั้นจะเป็นธุรกิจประเภทแฟรนไชส์ แต่สำหรับร้านอาหารที่เปิดในประเทศสิงโปร์นั้น เกิดจากการร่วมทุนกับบริษัทในประเทศสิงคโปร์) อีกทั้งร้าน MK ในประเทศไทยจะมีการกระจายไปในหลาย ๆ ภูมิภาค นอกจากจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑลที่มีกว่า 213 สาขาหรือคิดเป็น 46% ของสาขาทั้งหมดแล้ว รองลงมาคือจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานกว่า 62 สาขา คิดเป็นที่ 13% ของสาขาทั้งหมด

ในปี 2529 MK ได้เริ่มเปิดสาขาแรกที่ประเทศไทย ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว และอีกประมาณ 3 ปีต่อมา MK เริ่มจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในปี 2532 ภายใต้สัญลักษณ์ M นอกจากร้านเอ็มเคแล้วบมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ยังดำเนินการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อว่า ยาโยอิ (Yayoi) อีกด้วย ซึ่ง ณ 30 ก.ย. 63 มีสาขากว่า 196 สาขาทั่วประเทศไทย และไม่จบแค่นั้น! เอ็มเค ยังมีร้านอาหารอีกหลากหลายภายใต้บริษัทเดียวกัน อาทิ ฮากาตะ, มิยาซากิ, ณ สยาม, เลอสยาม, บิซซี่ บ็อกซ์, เอ็มเค ฮาร์เวสต์, เลอ เพอททิ ฯลฯ

ที่มา: Bloomberg Consensus, MK Presentation

หากมองที่รายได้รวมของ MK จะเห็นว่า การเติบโตของรายได้เฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 36.7% ต่อปี และหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้รายได้ของ MK เหลือเพียง 6,073 ล้านบาท นับเป็นเพียง 56% ของรายได้รวมทั้งปีของปี 62

ที่มา: Bloomberg Consensus

หุ้นไทย VS หุ้นเทศของเราทีม BLS Global Investing ยังไม่จบเพียงเท่านี้… มาดูกันว่าในอนาคต เราจะชวนมาเปรียบเทียบหุ้นตัวไหนกันต่อไปค่ะ 

Source: Bloomberg, Morgan Stanley, Haidilao, MK, Wongnai, อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญฮ่องกง = 3.87 บาท,
1 หยวนจีน = 4.6 บาท