
Global

พบกับบทความ Knowledge Sharing จากทีม Global Investing ที่จะมาชวนนักลงทุน ลงทุนแบบยั่งยืน ห่วงใยสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับ ESG ETF ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันเลย
ESG คืออะไร?
ESG หรือเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance) เป็นเกณฑ์วัดมาตรฐานสำหรับพฤติกรรมของบริษัท ที่นักลงทุนมักใช้วัดเพื่อคัดกรองการลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นการพิจารณาว่าบริษัทนั้น ๆ มีการสร้างประโยชน์อะไรให้กับสิ่งแวดล้อม ปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างไร รวมไปถึงนโยบายขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ส่วนเกณฑ์ทางสังคม เป็นการตรวจสอบว่ามีการจัดการความสัมพันธ์กับพนักงาน ซัพพลายเออร์ ลูกค้า และชุมชนที่ดำเนินการอยู่อย่างไร ส่วนในเกณฑ์การกำกับดูแลจะเกี่ยวข้องกับความเป็นผู้นำของบริษัท ค่าตอบแทนผู้บริหาร การตรวจสอบ การควบคุมภายใน และสิทธิของผู้ถือหุ้น เป็นต้น
ปัจจุบันการวิเคราะห์ ESG ได้กลายเป็นส่วนสำคัญ สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในการพิจารณาประเด็น 3 ด้านดังกล่าว (ESG) ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อเป็นการทำความเข้าใจในธุรกิจที่จะเข้าลงทุนได้มากยิ่งขึ้น…
ทำไมต้อง ESG ETF?
ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ESG ETF ได้กลายเป็นสิ่งที่ควรพิจารณามากขึ้นในเทรนด์การลงทุน โดย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) กว่า 75% จาก 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับจาก ปี 57 เป็น 4.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 64!
ESG ETFs ถึงจุดเปลี่ยนในปี 63 โดยเติบโตอย่างน่าทึ่งถึง 223% ต่อปี และบรรลุสถิติใหม่ สำหรับ AUM อยู่ที่ 189 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกของ ESG ETF ยุโรปยังคงครองอันดับ 1 ด้วย AUM จำนวน 263 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วย สหรัฐอเมริกาที่ 152 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ APAC มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 64 ที่ผ่านมา โดยสัดส่วนของยุโรปคิดเป็น 61% สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 36% และ APAC อีก 3%

แหล่งที่มา : Trackinsight, Global ESG ETF Data
การลงทุนในธีม ESG จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่มากกว่าผลตอบแทนทางการเงินได้ แม้ว่าความสนใจหลักของนักลงทุนโดยส่วนมากจะมุ่งไปที่การได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็มีกลุ่มนักลงทุน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ที่ต้องการเห็นว่าเงินลงทุนเหล่านั้น สามารถตอบแทนบริษัทหรือเป็นทุนให้กับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อีกทั้งการลงทุนใน ETF จะช่วยให้เราสามารสนับสนุนพฤติกรรมขององค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังสามารถกระจายการลงทุนและไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการที่มากเกินไป แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า การที่เราลงทุน ESG เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้สามารถแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความอยุติธรรมทางสังคม และความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ได้ทั้งหมด แต่นับว่าการลงทุนในบริษัทที่สนับสนุนที่ในสิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปลี่ยนแปลงต่อไป
ETF ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นยั่งยืนหรือ ESG ก็มีหลากหลายกองเช่นกัน วันนี้จะพาทุกคนไปดูตัวอย่าง ETF ที่มีนโยบายการลงทุนในบริษัทที่ดำเนินกิจการภายใต้ ESG และมีมูลค่าตลาดหรือ AUM ขนาดใหญ่ และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ จำนวน 3 ETF ด้วยกัน
3 ตัวอย่าง ESG ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
1. iShares ESG Aware MSCI USA ETF (ESGU)
ESGU เป็นกอง ETF ที่เลือกหลักทรัพย์จากดัชนี MSCI USA ซึ่งเป็นดัชนีหลัก โดยให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลพิจารณา ESG ในทุกขั้นตอนของกระบวนการตัดสินใจลงทุน ESGU ลงทุนในกว่า 307 บริษัท ที่ได้รับเลือกจากดัชนี MSCI USA ซึ่งรวมไปถึงบริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลางของสหรัฐฯ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) รวมทั้งสิ้นราว 22.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ESGU มีสัดส่วนการลงทุนในภาคเทคโนโลยีมากที่สุด อยู่ที่ราว 28% เช่น Apple Inc. (AAPL.US), Microsoft Corp (MSFT.US), Alphabet Inc. (GOOGL.US) และ Nvidia Corp (NVDA.US)
2. iShares MSCI USA SRI UCITS ETF (SUAS)
SUAS มีวิธีเลือกหลักทรัพย์จากดัชนี MSCI USA SRI ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงข้อมูลบริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลางของสหรัฐฯ ที่แสดงผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลให้เป็นไปตามแนวทางการลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม (SRI) โดยจะหลีกเลี่ยงในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ยาสูบ แอลกอฮอล์ การพนัน ความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ พลังงานนิวเคลียร์ และอาวุธ เป็นต้น SUAS มีสัดส่วนลงทุน แบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรม คือ กลุ่มสุขภาพ 18.26%, เทคโนโลยี 14.86%, การเงิน 85%, สินค้าฟุ่มเฟือย 14.12% เช่น Tesla Inc. (TSLA.US), Home Depot Inc. (HD.US), Microsoft Corp. (MSFT.US) และ Co-ca-cola (KO.US)
3. iShares ESG Aware MSCI EAFE ETF (ESGD)
ESGD เลือกหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบจากดัชนี ดัชนี MSCI EAFE โดยหลีกเลี่ยง บริษัทที่ประกอบกิจการยาสูบ อาวุธปืนพลเรือน ถ่านหินเทอร์มอล ทรายน้ำมัน และอาวุธ เป็นต้น ETF นี้ เลือกลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดที่พัฒนาแล้ว ยกเว้นประเทศสหรัฐฯ และแคนาดา เช่น Nestle SA (NESN.SWX), SHELL Plc. (SHEL.UK), Toyota Motor Corp. (7203.TYO) และ AstraZenaca PLC. (AZN.UK)
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับการลงทุนในธีม ESG ทั้งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับตัวเราเองแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือโลกให้น่าอยู่มากขึ้นอีกไปในตัว บอกเลยว่านักลงทุนสายรักษ์โลก ห่วงใยสิ่งแวดล้อม และใส่ใจความยั่งยืน พลาดไม่ได้แล้ว 🥰
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน ESG ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือหากสนใจลงทุนในหุ้นรายตัวที่นับว่าดำเนินธุรกิจด้วยหลัก ESG นั้น (สามารถดูได้จาก ESG Rating ) ก็สามารถทำได้สะดวก ผ่านระบบ Global Invest จากหลักทรัพย์บัวหลวงได้เลย! ✨
🚨 เปิดบัญชีออนไลน์ ผ่านแอปฯ Wealth CONNEX และใช้งานแอปฯ เพื่อรับข้อมูลข่าวสารจากทีม BLS Global Investing รวดเร็วกว่าใคร! ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในการเปิดบัญชีผ่าน Wealth CONNEX คลิก https://bls.tips/openglobalinvesting-wc
📌 โอนเงินในวันอังคาร หรือพุธเวลาใดก็ได้ TRANSFREE ฟรี! ค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปต่างประเทศ สูงสุดถึง 3,000 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://bls.tips/globalinvesttransfer
ที่มา: Trackinsight , ishares
เรียบเรียงโดย:
ศิวพรรณ ประดิษฐ์กุล Supervisor: Global Investing Solutions, บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง
ภัทริกา สุทนุจินดา Product Specialist: Global Investing Solutions, บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง
ข้อมูล ณ วันที่ 9 ก.ย. 65