
Tips
“สตาร์บัคส์แห่งภาคอีสาน” สมญานามนี้ ณ เวลานี้ จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจาก “ร้านกาแฟสัญชาติไทย Class Café” ขวัญใจชาวอีสาน จากร้านกาแฟที่มีขนาดพื้นที่เล็ก ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ทำยอดขายได้วันละไม่กี่สิบแก้ว ผ่านมากว่า 8 ปี Class Café ประสบความสำเร็จอย่างมาก การันตีด้วยยอดขายที่ทะลุ 70 ล้านบาท ในปี 2562 พร้อมขึ้นแท่นร้านกาแฟขวัญใจ Youth Generation ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว เรียบง่าย ทันสมัย และมีความเป็น Co-working Space ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา และคนทำงานฟรีแลนซ์
ปัจจุบัน Class Café มีทั้งหมด 21 สาขา กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ตามต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ในส่วนของต่างจังหวัดจะเน้นเปิดสาขาตามแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง เช่น นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, บุรีรัมย์ เป็นต้น ส่วนในกรุงเทพฯ จะเน้นเปิดตามมหาวิทยาลัยรัฐต่าง ๆ
ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ร้าน Class Café มีสาขามากถึง 28 แห่ง แต่หลังเกิดวิกฤติ เราตัดสินใจปิด 14 สาขาในกรุงเทพ ภายใน 16 วัน เพื่อลดต้นทุน วิกฤติรอบนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เพราะเราได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายใหม่ จากเดิมต้องรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการที่สาขา เปลี่ยนเป็นออกไปหาลูกค้าถึงหน้าบ้าน และที่ทำงาน นั่นจึงเป็นที่มาของ โปรเจกต์ “คลาสพุ่มพวง”
ที่สำคัญยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของแพคเกจจิ้งให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน จากเน้นขายเป็น “แก้ว” ก็ปรับมาเป็น “ขวด” พร้อมกับคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะทำให้รสชาติของเครื่องดื่มไม่เปลี่ยนแปลงและอยู่ได้ยาวนานมากขึ้นในตู้เย็นของลูกค้า ตอนนี้เราทำได้ยาวนานที่สุดกว่า 30 วัน
เป้าหมายจากนี้ของ Class Café คือ ขยายสาขาใหม่ ๆ เน้นตามมหาวิทยาลัยรัฐต่าง ๆ ขนาดพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร หลังจากสาขา Class Café ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากน้อง ๆ นักศึกษา
“โลกอนาคตของ Class Café คือ การเห็นคนเข้ามาใช้แอปพลิเคชัน Class Café มากขึ้น พร้อมกับการเห็น new product เกิดขึ้นต่อเนื่อง และภายใน 2 ปีข้างหน้า จะนำบริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์” คุณกอล์ฟ ผู้สร้างสรรค์ Coffee Technology กล่าวทิ้งท้าย

จุดเริ่มต้น Class Café เกิดขึ้นได้อย่างไร ?จากผู้บริหาร “สายเทค” สู่ เจ้าของ “สายกาแฟ” อะไรเป็นจุดพลิกสำคัญ ? “คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด เจ้าของร้านกาแฟ Class Café เล่าว่า เชื่อไหม..ผมไม่เคยมีความรู้เรื่องธุรกิจกาแฟเลย เพราะทำงานในสายเทคโนโลยีมาตลอด แต่เมื่อ 10 ปีก่อน ธุรกิจร้านกาแฟยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในเมืองไทย เห็นได้จากการที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนเป็น Top of Mind นอกจากร้านกาแฟชื่อดัง “สตาร์บัคส์” ทำให้เริ่มมองเห็นช่องว่างทางการตลาดเลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำในบริษัท Nokia แล้วชักชวนญาติอีก 2 ท่าน มาทำร้านกาแฟด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ สร้างคาแรกเตอร์ของร้านกาแฟที่สมบูรณ์แบบและแตกต่างจากร้านอื่น โดยผมรับหน้าที่ดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้ง ส่วนผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 ท่าน ดูแลเรื่องอาหาร และวัตถุดิบ ปัจจุบันผมและร่วมผู้ก่อตั้งบริษัทถือหุ้นรวมกันประมาณ 75%
Class Café ชื่อนี้มีที่มา ?หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง เล่าว่า เกิดจากการอยากได้ชื่อแบรนด์เพียงพยางค์เดียว สุดท้ายมาปิ๊งคำว่า Class เพราะเป็นคำที่มีความหมายที่ดี และสามารถสื่อความได้หลากหลายแง่มุม เมื่อได้ข้อสรุปชื่อแบรนด์แล้ว 2 สาขาแรกของ Class Café เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด ปีแรกของการทำธุรกิจร้านกาแฟต้องบอกว่า ประสบความสำเร็จมาก เพราะสามารถทำยอดขายได้สาขาละ 3-4 แสนบาท เกือบ 10 ปีก่อน ถือเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก หนึ่งเหตุผลของความสำเร็จในครั้งนั้นเกิดจากการมีคาแรคเตอร์ชัดเจนแตกต่าง ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
วางอนาคต Class Café อย่างไร ?คุณกอล์ฟ เล่าว่า ปีแรก ๆ ที่มียอดขายเยอะ ๆ เราฮึกเหิมมาก ปูพรมเปิดสาขาใหม่ สัปดาห์ละ 1 สาขา เพราะอยากมีสาขาให้มากที่สุด เคยวางเป้าหมายไว้ว่า จะต้องมีสาขา 50 -100 สาขา ภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2562-2564) พร้อมกับวางแผนระยะยาวว่า จะต้องสร้างเชนร้านกาแฟใหญ่ ๆ ให้ได้ แต่เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้ต้องกลับมาทบทวนโมเดลธุรกิจกันใหม่ เพราะธุรกิจทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่ที่ไม่มีอยู่ในตำราเรียนเล่มไหน... ช่วงเกิดวิกฤติโควิด-19 เรามีความคิดว่า ในเมื่อ Class Café ทำธุรกิจแบบ Open Coffee Platform ฉะนั้นอาจไม่จำเป็นต้องขยายสาขาใหม่ถี่ ๆ เหมือนแต่ก่อน แต่ควรจะหันมาใช้ประโยชน์ จากการมี Platform ของตัวเองมากกว่า เช่น ไม่จำกัดตัวอยู่เพียงเครื่องดื่มกาแฟ แต่กระจายตัวไปสู่สินค้าประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้, โยเกิร์ต, เบเกอรี่, หูฟัง, ลูวิ่ง, โลชั่นทาผิวที่ทำมาจากชาเขียว รวมถึงการเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นคู่ค้า ด้วยการขายโปรดักส์ของเราให้กับคู่แข่ง เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น เป็นต้น


“Class Café ให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก คือ แพลตฟอร์ม สาขา และกระบวนการผลิต”

เปิดบัญชีหุ้นกับหลักทรัพย์บัวหลวง สาขา Bualuang Investment Space มธ.ศูนย์รังสิต ศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้เรื่องการลงทุนของหลักทรัพย์บัวหลวง โทร. 0-2618-1940
Tools
Tips
Global
DR01
SN
Tips
Services
Investing