คุณพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา นอกจากจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 4-5 หมื่นคนต่อปี บริษัทยังสามารถรักษาค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชั่น) ได้ที่ระดับ 0.16% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่อยู่ระดับ 0.10% ในปีที่ผ่านมา และยังมีส่วนแบ่งการตลาดด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 4.64%

“เราให้ความสำคัญกับการคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ มากกว่าเรื่องตัวเลขมาร์เก็ตแชร์และค่าคอมมิชชั่น เพราะนวัตกรรมล้ำสมัยจะช่วยให้การลงทุนของนักลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

สำหรับแผนธุรกิจตลอดปี 2562 บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มบัญชีใหม่อีก 4-5 หมื่นบัญชี จากตอนนี้ที่มีอยู่ประมาณ 3.5 แสนบัญชี เทียบกับทั้งตลาดที่มีอยู่ประมาณ 1.6 ล้านบัญชี คิดเป็นประมาณ 20% ปัจจุบันเรามีบัญชีที่เคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 50% ของจำนวนบัญชีทั้งหมด ส่วนในแง่ของส่วนแบ่งการตลาด และค่าคอมมิชชั่น ตัวเลขคงไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมนัก ที่ผ่านมาเราไม่เน้นแข่งขันเรื่องค่าคอมมิชชั่นมานานแล้ว แต่เน้นการให้บริการที่ครบวงจรมากกว่า ส่วนแผนงานการขายหุ้นไอพีโอ เราจะเน้นการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับลูกค้า ด้วยการตั้งราคาขายที่มีส่วนลดประมาณ 20% จากราคาเหมาะสม และขายให้กับนักลงทุนสถาบันมากกว่านักลงทุนรายย่อย อย่างบริษัทจดทะเบียนตัวล่าสุดที่ค่ายบัวหลวงทำหน้าเป็นที่ปรีกษาทางการเงิน บมจ.วีรันดา รีสอร์ท หรือ VRANDA ก็ได้จัดสรรหุ้นไอพีโอให้กับนักลงทุนสถาบันมากถึง 45 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 65% ของจำนวนหุ้นไอพีโอทั้งหมด 75 ล้านหุ้น ถามว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้เตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (SET) อีกกี่ราย เบื้องต้นมองไว้ประมาณ 3-4 บริษัท

“แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีหลังอาจซึมกว่าครึ่งปีแรก หลังดัชนีขยับขึ้นมาแล้วประมาณ 5% ขณะที่ตลาดหุ้นขนาดใหญ่ ก็ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร หากดัชนีขึ้นมาแตะ 1,720 จุด ให้ขายทำกำไร และเข้าซื้อสะสม ในช่วง 1,650 จุด เน้นกลุ่มอาหาร กลุ่มการเงิน และกลุ่มเช่าซื้อ”  คุณพิเชษฐ แนะนำการลงทุน

คุณบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ หลักทรัพย์บัวหลวง เล่าว่า บริษัทพร้อมมเปิดให้บริการโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติตัวใหม่ล่าสุด “Trade Master” ที่ได้ร่วมพัฒนากับบริษัทหลักทรัพย์ ประเทศเกาหลี Daishin Financial Group ภายในงาน Money expo ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16-19 พ.ค.นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นเทรดหุ้นที่มีความสมบูรณ์มากตัวหนึ่ง เรียกว่า “เทรดทีเด็ดสเต็ปเทพ กับ 4 ฟังก์ชั่นสุดล้ำ” โดยจะเริ่มให้บริการกับผู้ที่มีพอร์ตรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท และมีการซื้อขายไม่ต่ำกว่า

 20,000 บาทต่อคำสั่ง สำหรับฟังก์ชั่น “Auto Trade”

...ที่ผ่านมาหลักทรัพย์บัวหลวงเดินหน้าคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า เช่น ใช้เทคโนโลยีมาช่วยจับคู่ออเดอร์ลูกค้าที่จะซื้อและขายผ่านธุรกรรม Block Trade รวมถึงยังเสนอขายตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt)  หรือ DR ครั้งแรกของไทย ที่มีชื่อย่อในการซื้อขายว่า E1VFVN3001 โดยมีหลักทรัพย์รับฝากเป็นกองทุนรวม ETF ที่อ้างอิงดัชนี VN30 สะท้อนหุ้นชั้นนำ 30 บริษัทของตลาดหุ้นเวียดนาม และเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากทั้งจากนักลงทุนรายย่อย สถาบันไทยและต่างประเทศ สะท้อนผ่านยอดจองซื้อสูงกว่า 600 ล้านบาท หลังเสนอขายครั้งแรกให้กับผู้สนใจไปเมื่อในวันที่ 3-7 ธันวาคม 2561 นอกจากนั้นเรายังมีบริการออมหุ้นระยะยาวแบบอัตโนมัติ ด้วยกลยุทธ์ SAP, DCA, VA เพื่อสร้างโอกาสและลดความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยการกระจายและจัดการสัดส่วนเฉลี่ยการซื้อด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละกลยุทธ์ก็จะมีความแตกต่างกัน ที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ยกตัวอย่าง DCA การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยจะทำการทยอยซื้อหลักทรัพย์เฉลี่ยเป็นแบบรายวัน ด้วยจำนวนเงินเท่าๆกัน เราเปิดบริการมา 1-2 ปี มีลูกค้าใช้บริการจำนวน 3,000 คนแล้ว

“BLS ยังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณภาพการลงทุนให้กับนักลงทุน” คุณบรรณรงค์ กล่าว