SBL-Monthly-Update-Feb-2022-มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์-มูลค่าขายชอร์ต-ยังคงปรับตัวสูงขึ้น
SBL-Monthly-Update-Feb-2022-มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์-มูลค่าขายชอร์ต-ยังคงปรับตัวสูงขึ้น

SBL Monthly Update – Feb 2022: มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าขายชอร์ต ยังคงปรับตัวสูงขึ้น

SBL Monthly Update – Feb 2022: มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าขายชอร์ต ยังคงปรับตัวสูงขึ้น
        ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ระดับ 1,685.18 จุด ณ วันที่ 28 ก.พ. 65 เพิ่มขึ้น 2.21% จากระดับดัชนี 1,648.81 จุด ณ วันที่ 31 ม.ค. 65 โดยมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ เดือน ก.พ. 65 มีมูลค่ารวม 1,734,702 ล้านบาท เฉลี่ย 91,300 ล้านบาทต่อวัน
        ในขณะที่มูลค่าขายชอร์ตเดือน ก.พ. 65 มีมูลค่ารวม 135,375 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าขายชอร์ตเฉลี่ย 7,125 ล้านบาทต่อวัน สูงกว่าเดือน ม.ค. 65 (130,893 ล้านบาท) อยู่ 3.42% และสูงกว่าเดือน ก.พ. 64 (81,591 ล้านบาท) อยู่ 65.92%
        สัดส่วนมูลค่าขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายบนกระดานหลักของเดือน ก.พ. 65 อยู่ที่ 7.80% สูงกว่าเดือน ม.ค. 65 ที่ 7.48% และสูงกว่าเดือน ก.พ. 64 ที่ระดับ 4.99% โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ตเดือน ก.พ. 65 นั้นมี 494 หลักทรัพย์ สูงกว่าเดือน ม.ค. 65 ที่ 436 หลักทรัพย์ และมากกว่าเดือน ก.พ. 64 ที่ 279 หลักทรัพย์
 
เปรียบเทียบมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าขายชอร์ต และ % มูลค่าขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายบนกระดานหลัก
เปรียบเทียบมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าขายชอร์ต และ % มูลค่าขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายบนกระดานหลัก

        สัดส่วนมูลค่าขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายบนกระดานหลักที่ระดับ 7.80% และมูลค่าขายชอร์ตเฉลี่ยวันละ 7,125 ล้านบาท ในเดือน ก.พ. 65 ที่ผ่านมานั้น ยังคงมีประเด็นข่าว ที่กดดันภาวะตลาดและการซื้อขายหลักทรัพย์ ได้แก่ รายงานการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อ 17 ก.พ. ตลาดคาดดอกเบี้ยเฟด มีโอกาสขึ้นแรง 0.5% ในเดือน มีค.นี้ ขณะที่คาดการณ์จาก Bank of America คาด เฟดขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 7 ครั้งในปีนี้ เริ่มตั้งแต่ มีค.เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยเฟดสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1.75-2% (จาก 0-0.25%) นอกจากนี้ Goldman Sach ได้ปรับสมมุติฐาน US bond yield 10 ปี ขึ้นเป็น 2.25% จาก 2% จาก สถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน, จับตาสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และท่าทีตอบโต้จากหลายประเทศ หลังสหภาพยุโรป (EU), สหรัฐฯ, อังกฤษ, และญี่ปุ่น ประกาศคว่ำบาตร 2 เมืองกบฏยูเครนทันทีที่ ปธน.ปูติน ประกาศรับรองเอกราช, วันที่ 24 ก.พ. ปธน.ปูติน สั่งกองทัพเริ่มปฏิบัติการต่อยูเครน เป็นผลให้ส่งกระทบต่อตลาดเงิน-ตลาดทุนทั่วโลก โดยวันที่ 24 ก.พ. SET ปรับตัวลดลง 33.73 จุด หรือ -1.99% มูลค่าขายชอร์ตสูงถึง 11,269 ลบ. เป็นมูลค่าขายชอร์ตรายวันสูงที่สุด ในปี 2565 นี้ ความผันผวนของตลาดหุ้นยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยมหภาค 2 เรื่องหลัก คือสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ล่าสุด ปธน.รัสเซียสั่งกองกำลังอาวุธนิวเคลียร์เตรียมความพร้อม หลังสหรัฐและชาติตะวันตกมีแนวโน้มใช้มาตรการตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT ส่วนประเด็นรองที่น่าติดตามคือ ถ้อยแถลงประธานเฟด ระหว่างวันที่ 2-3 มีค.นี้ ซึ่งตลาดเริ่มคาดว่า เฟดจะไม่ขยับดอกเบี้ยขึ้นแรง 0.50% เพื่อเป็นการรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน, ท่ามกลางความวิตกรัสเซีย-ยูเครน จนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปต่างปรับฐานแรง แต่หุ้นไทยแกร่งกว่าในฐานะที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และคงคาดหุ้นไทยพร้อมรีบาวด์ต่อโดยมีเงินจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงซื้อสุทธิ เป็นต้น
 
สัดส่วน (%) มูลค่าขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายหลักทรัพย์ 12 เดือนย้อนหลัง
สัดส่วน (%) มูลค่าขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายหลักทรัพย์ 12 เดือนย้อนหลัง

มูลค่าขายชอร์ตเฉลี่ยในเดือน 12 เดือนย้อนหลัง
มูลค่าขายชอร์ตเฉลี่ยในเดือน 12 เดือนย้อนหลัง
 
        หากพิจารณาข้อมูลขายชอร์ตเป็นรายหลักทรัพย์ พบว่าหลักทรัพย์ที่นิยมขายชอร์ตมากที่สุดในเดือน ก.พ. 65 ได้แก่
เมื่อพิจารณาตามมูลค่าขายชอร์ต 3 อันดับสูงสุด ได้แก่
อันดับที่ 1  หลักทรัพย์ บมจ. ปตท. (PTT) มูลค่าขายชอร์ต 4,964 ลบ.คิดเป็น 9.31%เทียบมูลค่าซื้อขายบนกระดานหลัก
อันดับที่ 2  หลักทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) มูลค่าขายชอร์ต 4,370 ลบ.คิดเป็น 3.86% เทียบมูลค่าซื้อขายบนกระดานหลัก
อันดับที่ 3  NVDR หลักทรัพย์ บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL-R) มูลค่าขายชอร์ต 3,318 ลบ.คิดเป็น 8.52% เทียบมูลค่าซื้อขายบนกระดานหลัก

        หากพิจารณาตามสัดส่วนมูลค่าขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานหลักสูงที่สุดในเดือน ก.พ. 65 ได้แก่

อันดับที่ 1  หลักทรัพย์ บมจ. โอเอชทีแอล (OHTL) มี % มูลค่าขายชอร์ต 19.23% คิดเป็นมูลค่าขายชอร์ต 0.2 ลบ.
อันดับที่ 2  NVDR ของหลักทรัพย์ บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC-R) มี%มูลค่าขายชอร์ตที่ 14.78% คิดเป็นมูลค่าขายชอร์ต 1,461 ลบ.  
อันดับที่ 3  หลักทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) มี % มูลค่าขายชอร์ตที่ 14.63% คิดเป็นมูลค่าขายชอร์ต 29 ลบ.

        หากพิจารณาข้อมูลขายชอร์ตเป็นราย NVDR ของหลักทรัพย์ พบว่า NVDR ที่นิยมขายชอร์ต มากที่สุดในเดือน ก.พ. 65 ได้แก่

อันดับที่ 1  NVDR หลักทรัพย์ บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL-R) มูลค่าขายชอร์ต 3,318 ลบ. คิดเป็น 8.52% เทียบมูลค่าซื้อขายบนกระดานหลัก
อันดับที่ 2  NVDR ของหลักทรัพย์ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC-R) มูลค่าขายชอร์ต 2,693 ลบ. คิดเป็น 8.98% เทียบมูลค่าซื้อขายบนกระดานหลัก
อันดับที่ 3  NVDR ของหลักทรัพย์ บมจ. เคซีอี อิเลคโทรนิคส์ (KCE-R) มูลค่าขายชอร์ต 2,607 ลบ. คิดเป็น 8.69% เทียบมูลค่าซื้อขายบนกระดานหลัก
 
มูลค่าขายชอร์ตของแต่ละหลักทรัพย์สูงสุด 10 อันดับแรก
มูลค่าขายชอร์ตของแต่ละหลักทรัพย์สูงสุด 10 อันดับแรก
 
สัดส่วน (%) มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของแต่ละหลักทรัพย์สูงสุด 10 อันดับแรก
สัดส่วน (%) มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของแต่ละหลักทรัพย์สูงสุด 10 อันดับแรก

 
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ต้องการใช้บริการของ SBL สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ BLS Customer Service โทร 0-2618-1111

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง