
FED ประชุมที ก็มีผลกระทบกันทั่วโลก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
ร่วมหาคำตอบไปกับคุณนิด คุณเน็ท และคุณปิ๊ก กับรายการ ร.ว.ย. ว่าหาก FED ขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลต่อตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เราลงทุนอยู่ขนาดไหน...ไปติดตามกันเลยค่ะ
อัตราดอกเบี้ย FED คืออะไร
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้อ้างอิงอัตรากู้ยืมและฝากเงินของธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเงิน กำหนดโดยธนาคารกลางของสหรัฐ (FED) เพื่อใช้ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจ
การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายส่งผลต่อการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งการใช้จ่ายของประชาชนจะส่งผลต่อราคาของสินค้าหรือบริการโดยรวมหรือที่เรียกว่า ‘อัตราเงินเฟ้อ’ ในลำดับถัดมา
ความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ลงทุนกับอัตราดอกเบี้ย FED
อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลอย่างไรกับเรานั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นผู้กู้เงินหรือผู้ฝากเงิน
- ถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น หากเราเป็นผู้กู้เงิน เรามีแนวโน้มจะกู้เงินลดลงเพราะดอกเบี้ยเงินกู้แพงขึ้น แต่หากเราเป็นผู้ฝากเงิน เรามีแนวโน้มจะฝากเงินเยอะขึ้นเพราะได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง และจะนำเงินไปใช้จ่ายหรือลงทุนลดลง
- ถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับลดลง หากเราเป็นผู้กู้เงิน เรามีแนวโน้มจะกู้เงินเยอะขึ้นเพราะดอกเบี้ยเงินกู้ถูก แต่หากเราเป็นผู้ฝากเงิน เรามีแนวโน้มจะฝากเงินลดลงเพระาได้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ และจะนำเงินไปใช้จ่ายหรือลงทุนมากขึ้น
ความสัมพันธ์ ของ FED Rate และ Loan Rate ณ วันที่ 1955-08-01 ถึง 2023-03-16
ที่มา: FRED Economic Data อ่านเพิ่มเติม
จากรูปจะเห็นได้ว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
สถิติอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ปี พ.ศ. 2548 ถึง ปัจจุบัน
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยหากเราเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สิน เช่น หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ความมั่งคั่งของเรามากขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำจะทำให้ประชาชนหันมาลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ ทำให้ราคาหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น ผู้ที่ถือครองสินทรัพย์จึงมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย
โดยสรุป เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับลดลงคนจะใช้จ่ายมากขึ้น ในทางกลับกัน เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นคนจะใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งการใช้จ่ายของประชาชนจะส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการต่อไป ตามหลักอุปสงค์และอุปทาน
ดังนั้น หากเราต้องการให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย เราต้องประเมินว่าคนมีแนวโน้มจะใช้จ่ายเท่าไร การผลิตสินค้าและบริการมีแนวโน้มมากหรือน้อยกว่ากำลังการผลิต แล้วจึงกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหมาะสม
- หากคนใช้จ่ายน้อยเกินไป ราคาสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้นน้อยหรือลดลง เศรษฐกิจจะชะลอตัวและการจ้างงานลดลง ในกรณีนี้ ธนาคารกลางอาจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวดีอีกครั้ง
- หากคนใช้จ่ายมากเกินไป ราคาสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้นสูงมาก เศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็วและร้อนแรงเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น เงินเฟ้อสูงขึ้นมากจนมูลค่าของเงินลดลง หรือเกิดวิกฤตฟองสบู่แตกทำให้ราคาสินทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็ว ในกรณีนี้ ธนาคารกลางอาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อชะลอการใช้จ่าย ช่วยให้เศรษฐกิจไม่ร้อนแรงเกินไปได้
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
ติดตามอัตราดอกเบี้ย FED ได้จากที่ไหน?
การกำหนดอัตราดอกเบี้ย FED จะกำหนดโดยผ่านจากการประชุม ที่เรียกว่า Federal Open Market Committee (FOMC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำหนดนโยบายของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการประชุม 8 ครั้งต่อปี
และสำหรับการประชุม FOMC ในปี 2023 มีตารางกำหนดการ ดังนี้
ที่มา: Federal Reserve อ่านเพิ่มเติม
หรือติดตามทุกข่าวสารการลงทุนของ FED ในกลุ่มลงทุน เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX เพื่อเข้าถึงทุกบริการลงทุนกับหลักทรัพย์บัวหลวง
- IOS รองรับ iOS 14 ขึ้นไป ติดตั้ง คลิกที่นี่
- Android รองรับ 7.0 ขึ้นไป ติดตั้ง คลิกที่นี่
- Notebook & Personal Computer Browser Support : Chrome, Firefox, Safari7+, IE11+

อ่านคู่มือและเงื่อนไขการใช้งานคลิกที่นี่
✅ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอป Wealth CONNEX บริการเชื่อมต่อทุกความรู้และบริการลงทุน
เลือกเมนู CHAT กด Chat With Customer Service