
ในสภาวะที่นักลงทุนติดหุ้นซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงจนน่าตกใจ รวมถึงเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน เป็นต้น ผมขอเสนอบริการหนึ่งที่จะเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตของท่านด้วยการทำธุรกรรม SBL ในส่วนของการฝากหุ้น หรือให้ยืมหุ้น (Lending)
การฝากหุ้น เริ่มจากลูกค้ามีหุ้น SET100 ในพอร์ตและรายชื่อหุ้นตรงกับรายชื่อที่บริษัทประกาศเพื่อการรับฝากหุ้น ลูกค้าบัวหลวงสามารถลงนามใน “แบบคำขอทำธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL)” เพิ่มเติมและแนบสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านอย่างละ 1 ฉบับ ภายหลังจากบัญชีของลูกค้าได้รับการอนุมัติให้ทำ SBL ได้ ระบบก็จะนำหุ้นในพอร์ตของลูกค้าขึ้นกระดานให้ยืมตามคำสั่งของลูกค้าที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่การใส่ข้อมูลใน “แบบคำขอทำธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL)”
หลายคนคงมีข้อสงสัยหรือคำถาม ได้แก่
- ฝากหุ้นหรือให้ยืมหุ้น ทำแล้วได้อะไร
- ผู้ฝากหุ้นทราบได้อย่างไร หากหุ้นถูกให้ยืมแล้ว
- ฝากหุ้นแล้ว หากต้องการขายหุ้น ทำได้หรือไม่ ช้าไหม
- สิทธิประโยชน์ของหุ้นยังคงได้รับอยู่หรือไม่
ผมจะตอบทีละข้อดังนี้ครับ
คำตอบของ ‘ฝากหุ้นหรือให้ยืมหุ้น ทำแล้วได้อะไร’ คือ ภายหลังจากบัญชีของท่านได้รับอนุมัติให้ทำ SBL และระบบนำหุ้น SET100 จากพอร์ตของท่านขึ้นบนกระดานให้ยืมแล้ว ถือว่าทุกอย่างพร้อมรอการเกิดธุรกรรม หากเมื่อใดมีลูกค้าของบริษัทอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นผู้ที่ต้องการยืมหุ้น (Borrow) เอามาขายชอร์ตเพื่อหวังทำกำไรจากตลาดขาลง ลูกค้าผู้นั้นสามารถติดต่อผู้แนะนำการลงทุนหรือ IC เพื่อส่งคำสั่งยืมหุ้นจากกระดานให้ยืมผ่านระบบอัตโนมัติ จากนั้นระบบจะทำการจับคู่ระหว่างผู้ยืมกับผู้ให้ยืม (Matching) เป็นผลให้หุ้นในพอร์ตของผู้ฝากหุ้นมีสัญญลักษณ์ ‘r’ ต่อท้าย ระหว่างช่วงเวลาที่บริษัทเป็นตัวกลางในการยืมหุ้นของท่านไปนั้น บริษัทจะทำการคำนวณผลตอบแทนเรียกว่า ‘ค่าธรรมเนียมการให้ยืมหุ้น’ หรือ Lending Fee ให้แก่ท่าน ปัจจุบันเราให้ค่าธรรมเนียมการให้ยืมหุ้นที่ 3.00 % ต่อปี โดยคำนวณจากมูลค่าหุ้นตามราคาปิดที่เปลี่ยนไปทุกวัน เปรียบเสมือนการให้ยืมหุ้นคือการฝากหุ้น คล้ายกับการฝากเงินกับธนาคาร ซึ่งลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยจากธนาคาร เช่นเดียวกัน การฝากหุ้นตอนฝากยังไม่ได้รับดอกเบี้ย จะได้รับต่อเมื่อหุ้นของลูกค้าถูกจับคู่ เกิดสัญญลักษณ์ ‘r’ ปรากฏในพอร์ต ลูกค้าจะได้รับค่าธรรมเนียมการการให้ยืม (Lending Fee) จากบริษัท
คำตอบข้อต่อไปของคำถาม ‘ผู้ฝากหุ้นทราบได้อย่างไร หากหุ้นถูกให้ยืมแล้ว’ ลูกค้าผู้ฝากหุ้นจะทราบว่าหุ้นในพอร์ตถูกจับคู่ (Match) หรือถูกให้ยืมแล้ว สามารถทราบได้ 2 แบบ คือ แบบที่หนึ่ง ทันทีที่หุ้นให้ยืมถูกจับคู่ ในพอร์ตของท่านจะปรากฏ ‘r’ ต่อท้ายหุ้น แสดงความหุ้นถูกให้ยืมแล้ว หากลูกค้าเรียกคืนหุ้น หรือหุ้นถูกคืนกลับเข้าพอร์ต ‘r’ จะหายไป ลูกค้าบางคนสงสัยว่าทำไมตั้ง ‘r’ หมายความว่าอย่างไร ทำไมไม่ตั้ง ‘l’ ซึ่งน่าจะหมายถึง ‘lending’
เหตุที่ระบบไม่ใช้ ตัว ‘l’ กับหุ้นให้ยืมเพราะ ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทมีการใช้ ‘l’ กับความหมายอื่นแล้ว ทำให้ไม่สามารถใช้ ‘l’ ซ้ำอีก ผู้ออกแบบระบบจึงเลือก ‘r’ มาเป็นสัญญลักษณ์แทนการให้ยืม ซึ่งไม่ได้เป็นตัวย่อของคำใด แต่ขอให้ทราบกันว่า เมื่อใดที่เกิด ‘r’ ต่อท้ายหุ้น แสดงว่าหุ้นถูกจับคู่ หรือถูกให้ยืมแล้ว และระบบจะแสดง ‘r’ เดี๋ยวนั้นทันที หรือเรียกว่า Real Time ครับ
แบบที่สอง ภายหลังหุ้นให้ยืมของท่านถูกจับคู่ ตอนสิ้นวันเย็นระบบจะพิมพ์ ‘ใบยืนยันธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์’ หรือ ‘SBL Deal Confirmation’ ออกมา และบริษัทจะจัดส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ ซึ่งใช้เวลา 3-4 วัน ลูกค้าก็จะทราบว่าหุ้นในพอร์ตถูกให้ยืม อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่ต้องการได้รับ ‘ใบยืนยันธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์’ แบบรวดเร็ว ผมแนะนำให้ลูกค้าท่านนั้น ติดต่อกับ ผู้แนะนำการลงทุน หรือ IC ที่ดูแลบัญชีท่าน และแจ้งว่า ต้องการรับเอกสารยืนยันทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-document ทาง IC ก็จะส่งเอกสารคำร้องในการใช้บริการเอกสารยืนยันทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยหากเอกสารยืนยันการซื้อขายหุ้นของท่านเป็น E-document ในส่วนเอกสารยืนยันการทำธุรกรรม SBL ก็จะเป็น E-document ตามแบบหุ้น ดังนั้น หากวันนี้หุ้นในพอร์ตที่ฝากของท่านถูกให้ยืม ในพอร์ตท่านจะเห็น ‘r’ ทันที และคืนนั้นประมาณเที่ยงคืนจะมี E-document แจ้งเป็นอีเมล์ในรูป ‘ใบยืนยันธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์’ หรือ ‘SBL Deal Confirmation’ ส่งให้ท่านในคืนนั้น ซึ่งรวดเร็วกว่าการส่งทางไปรษณีย์ ผมขอแนะนำลูกค้าให้แจ้งเปลี่ยนการรับ E-document กับผู้แนะนำการลงทุน หรือ IC ที่ดูแลบัญชีท่าน แต่ย้ำว่า ต้องเริ่มรับ E-document จากหุ้นก่อน จากนั้น SBL จะเป็น E-document ด้วย แต่ไม่สามารถเลือกว่า การยืนยันหุ้นเป็นแบบส่งทางไปรษณีย์ แต่ SBL ส่งทาง E-document แบบนี้ไม่ได้นะครับ แนะนำลูกค้าให้เปลี่ยนเป็น E-document เพราะลูกค้าสามารถเก็บข้อมูลในรูปอิเล็กทรอนิกส์ได้ตลอด ทำให้ไม่ต้องใช้กระดาษไม่สนับสนุนให้เกิดภาวะโลกร้อนครับ
คำตอบข้อต่อไปของคำถาม ‘ฝากหุ้นแล้ว หากต้องการขายหุ้น ทำได้หรือไม่ ช้าไหม’ หากหุ้นที่ฝากไว้ขึ้น ‘r’ ต่อท้าย แสดงว่าหุ้นถูกให้ยืม หากท่านต้องการขายหุ้นให้ยืมนั้น ทำได้สองวิธี คือ วิธีที่หนึ่ง แจ้งให้ผู้แนะนำการลงทุนหรือ IC ขายให้ ก็จะขายได้ทันที โดยอัตโนมัติ คือ ระบบคอมพิวเตอร์จะทำการสับเปลี่ยนหุ้นให้ยืมของท่าน กับหุ้นให้ยืมของลูกค้ารายอื่นแบบสุ่ม (Random)
วิธีที่สอง หากลูกค้าต้องการขายหุ้นถูกให้ยืม ลูกค้าควรโทรหา ผู้แนะนำการลงทุนหรือ IC เพื่อแจ้งการเรียกคืนหุ้น หรือ Call หรือแจ้งว่าช่วยเอา ‘r’ ออกจากท้ายหุ้นด้วย ถือว่าท่านเรียกคืนหุ้น ซึ่ง IC จะแจ้งต่อมาที่ SBL Desk เพื่อสับเปลี่ยนหุ้นให้ยืม ใช้เวลาตั้งแต่โทรศัพท์ติดต่อจนถึงการที่ SBL Desk สับเปลี่ยนหุ้นให้ยืม ไม่น่าจะเกิน 3 นาที จากนั้นหุ้นในพอร์ตของท่าน ‘r’ จะหายไป ทำให้ท่านคีย์ขายทางอินเตอร์เน็ตได้ ดังนั้น การที่ลูกค้าเรียกคืนหุ้นให้ยืม ระบบจะถือว่าท่านหยุดการให้ยืม ดังนั้นค่าธรรมเนียมการให้ยืมจะหยุดคำนวณในวันนั้น เมื่อ ‘r’ หายไปจากพอร์ต หากท่านตั้งขายหุ้นนั้นแล้วปรากฏว่าวันนั้นขายไม่ได้ ในวันรุ่งขึ้นระบบ SBL จะนำหุ้นส่วนเหลือที่ท่านขายไม่ได้ขึ้นกระดานให้ยืมถือเป็นการฝากหุ้นรอบใหม่รอการจับคู่ครับ
คำตอบข้อต่อไปของคำถาม ‘สิทธิประโยชน์ของหุ้นยังคงได้รับอยู่หรือไม่’ เนื่องจากการฝากหุ้นหรือการให้ยืมหุ้น สิทธิต่างๆ ยังคงเป็นของเจ้าของหุ้นคือลูกค้าที่ฝากหุ้นหรือให้ยืมหุ้น ดังนั้น ก่อนหุ้นขึ้นเครื่องหมายต่างๆ ได้แก่ XD, XA, XR, XW, หรือ XB ระบบจะยกเลิกการให้ยืมหุ้น และนำหุ้นกลับเข้าพอร์ตเพื่อให้ผู้ฝากหุ้นได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่า เรื่องเงินปันผล หรือการเพิ่มทุน หรือการแจก Warrant เป็นต้น ยกเว้นเรื่องเดียวคือ XM ที่เป็นสิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้น หากผู้ฝากหุ้นต้องการได้สิทธิ XM หรือประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ฝากหุ้นควรแจ้งการเรียกคืนหุ้นหากหุ้นถูกให้ยืมในช่วงนั้น ควรเรียกคืนหุ้นก่อนขึ้น XM หรือหากผู้ฝากหุ้นต้องการเข้าประชุมผู้ทุกหุ้นทุกครั้ง สามารถปรึกษากับผู้แนะนำการลงทุน หรือ IC ในการนำหุ้นขึ้นกระดานให้ยืม โดยระบุให้นำหุ้นจากพอร์ตขึ้นกระดานเพียง 99% ไม่ครบ 100% ดังนั้นระบบจะเหลือหุ้นในพอร์ตไว้ตลอดเพื่อให้ลูกค้ารับสิทธิ์ XM ได้ครับ
ดังนั้น ลูกค้าที่ต้องการออมในหุ้นเพื่อการถือหุ้นระยะยาว เพื่อหวังรับเงินปันผล หรือติดหุ้น ท่านสามารถใช้ประโยชน์จากการฝากหุ้น หรือ SBL ด้านการให้ยืมได้ การรับเงินปันผลท่านอาจจะได้รับปีละ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง แต่การฝากหุ้น นอกจากท่านจะได้รับเงินปันผลเช่นเดิม ท่านสามารถลุ้นว่าเมื่อไรหุ้นในพอร์ตจะถูกจับคู่แล้วได้รายได้เพิ่มเติม หลังจากที่เซ็นสัญญา SBL แล้ว ผ่านไปประมาณ 6 เดือนค่อยตรวจสอบว่า หกเดือนที่ผ่านมามีหุ้นถูกจับคู่ตัวใดบ้าง รายได้จากค่าธรรมเนียมการให้ยืมรวมเป็นเท่าไร เชิญชวนทุกท่านมาลองฝากหุ้นครับ ท่านสามารถ download "แบบคำขอทำธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL)" ได้จาก Article Attachments บริเวณด้านล่างบทความนี้ครับ หากมีข้อสงสัย โทรติดต่อ SBL Desk โทร 02-618-1485-86 ครับ
___________________________________________________________
เขียนโดย SBL-BLS