
ในการลงทุน การเข้าใจสถานะทางการเงินของบริษัทเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจลงทุนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง อัตราส่วนการเงิน จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุน มองเห็นภาพรวมของบริษัทได้ง่ายขึ้น วันนี้เราจะพาไปรู้จักอัตราส่วนการเงินที่สำคัญ และวิธีใช้วิเคราะห์หุ้นเพื่อการลงทุนที่มั่นใจยิ่งขึ้น
อัตราส่วนทางการเงินคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
อัตราส่วนทางการเงิน คือ ตัวเลขจากงบการเงิน เช่น งบกำไรขาดทุน งบแสดงฐานะทางการเงิน (งบดุล) และงบกระแสเงินสด มาคำนวณหาอัตราส่วนต่างๆ ที่ใช้วิเคราะห์สถานะการเงินของบริษัท
- เปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน: อัตราส่วนที่ดีหรือแย่ สามารถบ่งชี้จุดแข็งและจุดอ่อนของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลา: วิเคราะห์แนวโน้มของอัตราส่วนช่วยให้เห็นว่าบริษัทมีการพัฒนาหรือถดถอยในด้านใด
- วิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาส: อัตราส่วน เช่น Debt-to-Equity ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจความเสี่ยงจากหนี้สิน
- ช่วยในการตัดสินใจลงทุน: นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลอัตราส่วนในการประเมินว่าหุ้นมีมูลค่าที่เหมาะสมและน่าสนใจหรือไม่
ข้อจำกัดในการใช้อัตราส่วนทางการเงิน
- ไม่สามารถเปรียบเทียบข้ามอุตสาหกรรมได้
- ความแตกต่างในการบันทึกบัญชีที่บริษัทเลือกใช้
- วิเคราะห์จากข้อมูลในอดีตหรือปัจจุบันเท่านั้น
อัตราส่วนทางการเงินที่ควรรู้จัก
- Market Value Ratios วัดความถูก ความแพงด้วยอัตราส่วนมูลค่าตลาด
- Profitability วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
- Efficiency วัดประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและบริหารสินทรัพย์
- Debt Ratio วัดประสิทธิภาพในการบริหารหนี้สิน
- Growth วัดการเติบโตในด้านรายได้, กำไรสุทธิ, กำไรต่อหุ้นและเงินปันผล
- Dividend & Ownership วัดอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นจากการได้รับเงินปันผล
- Liquidity วัดสภาพคล่องของกิจการ
อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้วัดความถูกความแพง
1.P/E Ratio วัด ความถูกความแพง ของหุ้น
- P/E ต่ำ หุ้นราคาถูก
- P/E สูง หุ้นราคาแพง
2.P/BV Ratio วัด ความถูกความแพง ของราคาหุ้นที่จะซื้อเทียบกับต้นทุนที่เจ้าของลงทุน
- P/BV < 1 ซื้อหุ้นได้ราคาถูกกว่าเจ้าของ
- P/BV > 1 ซื้อหุ้นได้ราคาแพงกว่าเจ้าของ
อัตราส่วนทางการเงินที่วัดผลการทำกำไร
1.ROE วัดความสามารถในการสร้างผลตอบแทนจากส่วนของเจ้าของ
- ROE > 0 บริษัทสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้
- ROE < 0 บริษัทขาดทุน ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้
2.ROA วัดผลการดำเนินงานจากการใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน
- ROA > 0 บริษัทสามารถสร้างกำไรสุทธิจากสินทรัพย์ได้
- ROA < 0 บริษัทไม่สามารถสร้างกำไรสุทธิจากสินทรัพย์ได้
อัตราส่วนทางการเงินที่วัดผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
1.Dividend Yield ช่วยคำนวณความคุ้มค่าก่อนการลงทุน
- Dividend Yield > 0 บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
- Dividend Yield = 0 บริษัทไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
2.DPS ใช้ในการคำนวณอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
- DPS > 0 บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น
- DPS = 0 บริษัทไม่มีการจ่ายเงินปันผล
ตัวอย่างการอ่านอัตราส่วนทางเงินของ BBL
จากรูปสามารถอ่านค่าได้ว่าหุ้น BBL มี P/E Ratio ปี 2023 = 7.41 เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่มีค่า = 10.07 หมายความว่าราคาหุ้นของ BBL ในปี 2023 ถูกกว่าปี 2022
Source: Stock Signals (As of Nov 2024)
วิธีติดตาม และวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
1.เมนู Stock Signal
- Login เข้าใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง คลิกที่นี่ > เลือกแถบ Pre-Trade > Stock Signals > คลิก Summary แล้วค้นหาหุ้นที่สนใจ หรือ
- Login Streaming > คลิกแถบ BLS > เลือก Stock Signals > คลิก Summary แล้วค้นหาหุ้นที่สนใจ
2.Trade Master
คลิกไอคอน > เลือกเมนู Fundamental > ค้นหาหุ้นที่สนใจ
3.ดูอัตราส่วนการเงินด้วยกราฟ บน Trade Master
เลือกที่เมนู Chart > เลือกเมนูย่อย Financial Chart > พิมพ์ค้นหาหุ้นที่สนใจ
แจ้งเตือนวิเคราะห์งบออก ดี/ไม่ดี จาก BLS Research
ผ่านแอป Wealth Connex บนแถบ Wealth เลือกเมนู บทวิเคราะห์ & ข่าว