การลงทุนในตราสารหนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ประจำและผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว เนื่องจากตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำ ผู้ลงทุนมีสถานะเป็น “เจ้าหนี้” ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ จึงช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ตราสารหนี้ยังสามารถซื้อขายในตลาดรอง ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา อีกทั้งยังมีความหลากหลายในการเลือกลงทุน ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชน ครอบคลุมทุกระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถยอมรับได้

ตราสารหนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก

• ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง
• ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท

ตราสารหนี้สามารถซื้อขายได้ทั้งในตลาดแรก (Primary Market) และตลาดรอง (Secondary Market) ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องและโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคา

ความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่ควรทราบ

• ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง – อาจขายตราสารหนี้ไม่ได้ตามเวลาที่ต้องการ
• ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย – ราคาตราสารหนี้จะเปลี่ยนแปลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย
• ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ – ผู้ออกตราสารอาจไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือคืนเงินต้นได้
• ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ – เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจลดมูลค่าผลตอบแทนจริง
• ความเสี่ยงด้านการนำเงินไปลงทุนต่อ – เมื่อได้รับเงินต้นคืน อาจไม่สามารถหาตราสารใหม่ที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันได้

หากลงทุนผ่านหลักทรัพย์บัวหลวง ผู้ลงทุนจะได้รับบริการแบบครบวงจร ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่คัดสรรตราสารหนี้คุณภาพดี และให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ รวมถึงระบบการถือครองแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ที่ปลอดภัย และสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ทันทีเพียงเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 

นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถติดตามราคาตราสารหนี้ที่ลงทุนอยู่ในพอร์ตกับบริษัทผ่านรายงาน BLS Consolidated Portfolio พร้อมทั้งการแจ้งเตือนเมื่อถึงงวดการปิดสมุดทะเบียนรับดอกเบี้ยตราสารหนี้ (XI Date) เป็นต้น