30123
30123

วัฏจักรและกลไกของตลาดหุ้น

วัฏจักรและกลไกของตลาดหุ้น
หลายคนคงเคยได้ยินตามทฤษฎี "Dow Theory" ที่ให้คำนิยามไว้ว่า... Market has three movements การเคลื่อนไหวของราคา แบ่งออกได้เป็น 3 แนวโน้มหลัก คือ... 1. Primary Trend 1 เป็นภาพรวมของแนวโน้มใหญ่ ครอบคลุมทิศทางการเคลื่อนไหวหลักตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ...ตลอดจนระยะเวลาหลายปี โดย Trend จะแบ่งเป็น Bull Market (ภาวะกระทิง) หรือ Bear Market (ภาวะหมี) 2. Secondary Trend : แนวโน้มรอง 2 เป็นการย่อตัว หรือ พักตัวของราคา แนวโน้มรอง (Secondary Trend) จะเคลื่อนไหวสวนทางกับ แนวโน้มใหญ่ (Primary Trend) เสมอ...การเคลื่อนไหวมักจะย่อ หรือ พักตัวในรูปแบบการสวนทางประมาณ 1 ใน 3 และ 2 ใน 3 และใช้เวลาเคลื่อนไหวเป็นสัปดาห์ - เดือน 3. Minor Trend : แนวโน้มย่อย 3 เป็นการแกว่งตัวของราคาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ครอบคลุม 3-5 วันทำการ แต่ไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ ซึ่งแนวโน้มย่อยจะไม่มีผลมากสักเท่าไรนัก เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแนวโน้มหลัก และ แนวโน้มรองเพียงเท่านั้น !! ...หลังจากที่เราเข้าใจแนวโน้มของการเคลื่อนไหวของราคาแล้ว ต่อมาเป็นการเล่ากล่าวขานถึง วัฏจักรและกลไกของราคาหุ้น เริ่มต้นด้วยระยะแรกถึงระยะท้ายสุดของวัฏจักร...
แนวโน้มขาขึ้น (Bull Market)
1. ระยะสะสม (Primary Trend) การเคลื่อนไหวของราคาอยู่ในช่วงระยะสะสม เป็นช่วงที่หุ้นมีราคาค่อนข้างถูก การเคลื่อนไหวแบบ Slide way ไม่หวือหวา ปริมาณการซื้อขายน้อย เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างแห่ขายกันไปหมดพอร์ตแล้ว!! และยังไม่มีแรงจูงใจ ปัจจัยอะไรใหม่ๆ ที่จะทำให้นักลงทุนหันกลับมาสนใจอีกครั้ง แต่เมื่อราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุด...ก้าวผ่านช่วงเลวร้ายสุดๆ ไปแล้ว มักมีนักลงทุนบางกลุ่มเริ่มเล็งเห็น มองการณ์ไกล “ทยอยซื้อสะสม” เมื่อไรที่ราคาปรับขึ้นๆ ลง ก็ทยอยซื้อเรื่อยๆ 2. ระยะปรับตัวขึ้น (Increasing phases) สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น...ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หรือผลการดำเนินงานของตัวบริษัทเองก็มีแนวโน้มดีขึ้น กำไรฟื้นตัว บางบริษัทอาจพลิกจากขาดทุนสู่กำไร...เริ่มมี Story ดึงดูดนักลงทุนให้หันกลับมาลงทุนอีกครั้ง ราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้น ปริมาณการซื้อขายเริ่มมีเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ 3. ระยะโลภ (Greedy Phases) เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่รู้ นักลงทุนส่วนใหญ่เห็น ว่าราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่องหลายวันติด ปริมาณการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยหลายวันที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีแต่ข่าวดี ปัจจัยบวกเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เขียนข่าวประโคม ประเมินราคาเป้าหมายบ้างก็ว่าจะไปเท่านั้น บ้างก็ว่าจะขึ้นไปเท่านี้ เป็นที่น่าสนใจของนักเก็งกำไรแห่เข้ามาเก็งกำไร ทำให้แรงซื้อมหาศาลหนุนราคาปรับตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เก็งกำไรกันจนราคาเกินมูลค่าพื้นฐาน!!
แนวโน้มขาลง (Bear Market)
1. ระยะระบายหุ้น (Distribution phases) เป็นระยะที่ราคาหุ้นไม่ได้วิ่งไปต่อ แถมปริมาณการซื้อขายไม่มากเหมือนวันก่อนหน้า แต่กลับค่อยๆ ลดลง จนนักลงทุนบางรายไม่ทันสังเกต เพราะมัวแต่ยิ้มชื่นอกชื่นใจกับแนวโน้มขาขึ้นที่คิดว่าจะเดินหน้าขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ฝันหวานนึกถึงแต่กำไร...ต่างกับนักลงทุนบางกลุ่มที่มองว่าราคาหุ้นขึ้นมามากแล้ว เกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้เข้าสู่ช่วงการระบายหุ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นต่ำลง แต่ปริมาณการซื้อขายกับสูงขึ้น เป็นสัญญาณเตือนว่าเรากำลังเข้าสู่ภาวะแนวโน้มขาลงนั้นเอง 2. ระยะปรับลง (Decreasing phases) เริ่มมีข่าวลือเชิงลบออกมากระทบกระเทือนราคาหุ้น เป็นเหตุให้ราคาหุ้นร่วงแรง นักลงทุนที่เข้ามาซื้อก่อนหน้าก็เริ่มกำไรน้อยลง แต่นักลงทุนที่เข้ามาซื้อช่วงยอดของราคานั้นจะขาดทุนทันที ข่าวสารด้านลบหนาหูมากขึ้น นักลงทุนเริ่มแห่ขาย ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับลงแรงอย่างรวดเร็ว ปริมาณการซื้อขายเริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่จะมีจังหวะการเด้งของราคา (Rebound) ช่วงหนึ่ง เพราะได้แรงซื้อจากนักลงทุนที่ไม่มีของก่อนหน้า และคนที่ขายไปแล้วหวังกลับมาซื้อคืนและได้กำไร เป็นการชะลอการลงต่อของราคาเพียงชั่วคราวเพื่อลงต่อ...เนื่องจากเป็นการปรับตัวขึ้นในแนวโน้มหลักที่ยังเป็นขาลงอยู่ ลองสังเกตง่ายๆ ถ้าการปรับตัวขึ้นในครั้งนี้ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ (High) มากกว่าจุดสูงสุดเดิมก่อนหน้า เตรียมตัวลงต่ออีกแน่นอน!! 3. ระยะตื่นตระหนก (Panic Phases) ข่าวร้ายสุดๆ กลับมาอีกครั้ง หลังจากมีการฟื้นตัวระยะสั้น ทำเอานักลงทุนที่ยังไม่ขายตัดขาดทุน (Cut Loss) ไปก่อนหน้าแห่ขายกันยกใหญ่ เทขายด้วยภาวะ “Panic Sell” พอมีแรงขายออกมามากๆ อีกรอบ ขายจนไม่มีใครมีหุ้น ทำให้ราคาหุ้นไม่ลงไปกว่านี้แล้ว ราคาหุ้นเคลื่อนไหวนิ่งๆ ไม่หวือหวา และวัฏจักรก็จะวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ราคาหุ้นก็จะเคลื่อนไหวรอจนกว่าจะมีนักลงทุนเริ่มมาเก็บหุ้นนี้เข้าพอร์ตอีกครั้ง!!
หากเราเข้าใจภาพรวมของวัฏจักรการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นภาพกว้างแล้ว!! การวิเคราะห์หุ้นรายตัว...เพื่อลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เรียนรู้การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคเพิ่มเติม...คลิกที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง