
กางแผนมุมมองการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 67
นายชาญณรงค์ มีชัยเจริญยิ่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่ง หลักทรัพย์บัวหลวง มองว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 67 อาจเกิด “Negative Surprise” โดยเศรษฐกิจโลกมีโอกาสชะลอตัวลงมากกว่าคาด จากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global Flash US Composite PMI) เดือนเม.ย. ซึ่งแม้ว่าจะยังขยายตัว แต่มีอัตราที่ชะลอตัวลงในหลายภาคธุรกิจ ทั้งในส่วนของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และกิจกรรมของภาคบริการที่ทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือน รวมถึงภาคการจ้างงานที่อ่อนแอลง พิจารณาได้จากจำนวนการเปิดรับสมัครงานใหม่ (JOLTS Job Openings) ที่ลดลงจาก 12.2 ล้านตำแหน่ง ในเดือนมี.ค. 65 เป็น 8.8 ล้านตำแหน่ง และอัตราการลาออกจากงาน (Quits Rate) ที่ปรับตัวลดลงจาก 3% ในปี 65 เป็น 2.2% ในปัจจุบัน จึงเป็นการสะท้อนว่า ภาคการจ้างงานมีสัญญาณเชิงลบ โดยอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังเห็นอัตราการผิดนัดชำระหนี้ของเครดิตการ์ดที่เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปี 64 เป็น 3.1% ในปลายปี 66 สูงสุดในรอบ 12 ปี
ทำให้ตลาดมีโอกาสที่จะปรับประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลกของปี 67 และปี 68 ลง และจากรูปจะเห็นได้ว่าการคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 67 อยู่ที่ระดับ 2.8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 และ 20 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา ซึ่งกำลังสะท้อนถึงการเติบโตที่อยู่ในช่วง Late Cycle ทำให้การลงทุนต้องระมัดระวัง ดังนั้นพอร์ตลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 67 จึงอาจต้องหาจังหวะลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นโลก ส่วนช่วงเวลาในการขายลดสัดส่วนหุ้นลง เราแนะนำให้ใช้จังหวะการปรับตัวขึ้นของราคา (sell into strength) หลังจบฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 1 ปี 67 ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. เนื่องจากผลประกอบการของไตรมาสนี้มีแนวโน้มออกมาดี และนำเงินสดที่ได้ไปเพิ่มน้ำหนักให้กับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้น โดยหากมีสัญญาณการลดดอกเบี้ยของเฟดที่ชัดเจนขึ้นในไตรมาส 3 ปี 67 ก็ค่อยจัดสรรเงินบางส่วนไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนให้กับตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการปรับตัวขึ้นของราคาในวงจรดอกเบี้ยขาลง
กลยุทธ์การลงทุน จัดพอร์ตรับมือด้วย BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation
นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายค้าตราสารการเงิน หลักทรัพย์บัวหลวง กล่าวว่า ยิ่งหากมองว่าตลาดมีโอกาสเผชิญกับความผันผวน หรือมีความ Sexy น้อยลง การจัดพอร์ตกระจายการลงทุนทั่วโลกยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ อย่า “Hunt” แต่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว ต้องคอยควบคุมความเสี่ยงด้วย ซึ่งพอร์ตของเรา BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation ที่มีหัวใจหลัก 3 ขั้นตอนในการบริหารจัดพอร์ต ดังภาพด้านล่าง ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา Pain Point ในโลกการลงทุนได้เป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าช่วงนี้จะลงทุนสินทรัพย์อะไร หรือเลือกกองทุนไหนดี กองทุนมีเป็นพัน ๆ กอง กองไหนเด่น กองไหนดี ใช้เวลานานในการคัดเลือก ไม่มีเวลาติดตาม ปรับพอร์ตไม่ทัน ส่งคำสั่งซื้อขายผิด ทำให้ไม่ถึงเป้าหมายการลงทุนสักที พอร์ต BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation ช่วยคุณได้ ตอบโจทย์ทุกปัญหา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม เสมือนท่านซื้อกองทุนรายกองปกติทั่วไป แต่เรามาช่วยดูแลจัดพอร์ต คัดเลือกกองทุนที่มีผลงานดี และปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองการลงทุน โดยที่ท่านไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มเติม
ซึ่งผลงานที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า พอร์ตของเราสามารถ Enjoy ผลตอบแทนทั้งด้าน Upside ทำผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 13.07% และในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนพอร์ตของเราก็สามารถ Protect Downside ปรับตัวลงเพียงแค่ 2% กว่าเท่านั้น ขณะที่บางสินทรัพย์หรือบางตลาดปรับตัวลงหนักเกือบ 8%
จัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation มีให้เลือกลงทุน 3 กลุ่ม 6 พอร์ตการลงทุน ขอเพียงรู้ใจตัวเอง รู้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ก็สามารถเลือกลงทุนได้เลย
นอกจากนั้นภายในงาน เราได้รับเกียรติจากทาง บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) มาให้ข้อมูลกองทุน UOBSGC ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นจีน ที่ทางหลักทรัพย์บัวหลวงได้เลือกกองทุนนี้มาลงทุนในพอร์ตของเรา สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น ปัจจุบันกองทุนสร้างผลตอบแทนระดับ 14.60% (ข้อมูล ณ วันที่ 25 เม.ย. 67) และเป็นกองทุนหุ้นจีนกองเดียวในประเทศไทย ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในปีที่ผ่านมา 2023 จุดเด่นกองทุนนี้ คือ เน้นลงทุนในหุ้นจีนกลุ่ม Greater China ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง จีน และไต้หวัน ทำให้นักลงทุนมีโอกาสลงทุนในหุ้นที่มีความหลากหลาย และกองทุนใช้กลยุทธ์ Artificial Intelligence Machine Learning (AIML) ร่วมกับนักวิเคราะห์มืออาชีพ เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และลดความอคติในการลงทุน ส่งผลให้กองทุน UOBSGC สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น ท่ามกลางตลาดหุ้นจีนที่ผันผวนในช่วงที่ผ่านมา หากต้องการลงทุนหุ้นจีนอย่างไรให้แตกต่าง UOBSGC คือคำตอบ อ่านรายงานฉบับเต็ม ลงทุนจีนอย่างไร . . . ให้แตกต่าง UOBSGC ยืนหนึ่งกองทุนจีน คลิกที่นี่
ขณะที่ บลจ.พรินซิเพิล ให้ข้อมูลกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A ที่เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่สร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตของเราได้อย่างโดดเด่น ปัจจุบันกองทุนสร้างผลตอบแทนระดับ 17.51% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 เม.ย. 67) และกองทุนนี้เน้นลงทุนตรงในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดเวียดนามที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต จุดเด่นของกองทุนนี้ คือ จะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยขยายตัวจากภาคอสังหาฯ การเงิน และการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนั้นในฝั่งของการพัฒนาด้านตลาดทุนก็มีความน่าสนใจมากขึ้น หลังเวียดนามเตรียมเปิดตัวระบบซื้อขายหุ้นใหม่ เพื่อยกระดับตลาดหุ้นเวียดนาม ประกอบกับคาดการณ์ว่า ดัชนี FTSE อาจยกระดับตลาดหุ้นของเวียดนามเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) จากปัจจุบันที่ดัชนี MSCI และ FTSE จัดเวียดนามเป็นกลุ่มประเทศชายขอบ (Frontier Markets) ทำให้การยกระดับครั้งนี้จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มมากขึ้น โดยกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นเวียดนามที่มีศักยภาพในการเติบโตผ่านการ Screening ทั้งด้านกำไรและมูลค่า ผสมผสานการลงทุนแบบ Top Down ทั้งนี้กองสามารถสร้าง Alpha ได้ดีกว่ากลุ่ม
ที่มา: Aspen ข้อมูล ญ วันที่ 2 พ.ค. 67
ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง ชมย้อนหลังโดยเข้าแอปพลิเคชั่น Wealth CONNEX ไปที่ >> สัมมนาออนไลน์ >> Event >> On-Demand >> เลือกรับชมสัมมนา คัดกองทุนตัวท็อป พิชิตทุกสถานการณ์ ด้วย BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation หรือ คลิกที่นี่
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุน BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation สามารถสมัครบริการได้ผ่าน แอปพลิเคชัน Wealth CONNEX เลือกเมนู Solution > Account Opening > Open BLS Top Funds Portfolio account หรือหากสนใจข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติม สามารถสอบถามไปยังผู้แนะนำการลงทุนของท่าน