
Tips
ทุกคนคงเคยสงสัยว่าการเก็บเงิน 1 ล้านให้ได้ก่อนอายุ 30 สำหรับการที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนจะเป็นจริงได้ไหม?
แล้วเราต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้ได้เงินล้านกันล่ะ? ...วันนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงมีคำตอบ พร้อมเครื่องมือที่ช่วยให้คุณคำนวณหาเงินออมต่อเดือนเพื่อไปใหัถึงจุดหมาย ผ่านแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX
👉 เริ่มต้นคำนวณเงินออมคลิกที่นี่ 👈

ปัญหาที่เรามักเก็บเงินไม่ได้ อาจจะเนื่องจากแต่ละเดือนเราต่างมีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ในขณะที่เงินเดือนเริ่มต้นมีน้อยนิด ทำให้เงินออมน้อยตามไปด้วย หลาย ๆ คนจึงมองว่าความฝันที่จะมีเงินเก็บหลักล้านคือความฝันที่ไกลเกินจริง
แต่ถ้าหากมีการวางแผนทางการเงินที่ดี การเก็บเงินให้ได้เจ็ดหลักก่อนอายุ 30 ก็ไม่ไกลเกินฝัน 😎
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำงานอะไร หากคุณมีเป้าหมายที่จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท คุณก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ! วันนี้เราจึงมีเคล็ด(ไม่)ลับมาบอกกันค่ะ

เราควรมองเป้าหมายในระยะยาว เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับตนเอง
หากตั้งใจว่าจะมีเงินเก็บ 1 ล้านก่อนอายุ 30 ปีก็ควรจะเริ่มคำนวณเงินเก็บในแต่ละเดือนล่วงหน้า โฟกัสไปที่เป้าหมายของตัวเอง โดยการตั้งเป้าหมายที่ดีควรประกอบไปด้วย
✅ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
✅ สามารถวัดผลได้
✅ มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน
ยกตัวอย่าง...
หากเราต้องการมีเงินเก็บ 1 ล้านตอนอายุ 30 ปีหรือก็คือปีละ 1 แสน
ดังนั้น เราก็ควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเลยว่าใน 1 เดือนเราต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อย 8,333 บาท
แต่ถ้าหากเราตั้งเป้าหมายไม่ชัดเจนหรือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ไม่ได้ ก็อาจจะส่งผลให้เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
ตัวอย่างการวางแผนเงินออม

จะเห็นได้ว่า...แนวคิดนี้จะให้ความสำคัญกับ “เงินออม” เป็นหลัก
ซึ่งถ้าหากต้องการมีเงินออมต่อเดือนที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องย้อนไปสังเกตดูบัญชีรายรับ - รายจ่ายต่อเดือน และตรวจสอบดูว่าสามารถปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้ไหม
เพราะในแต่ละเดือนเราต่างมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้มูลค่าของเงินลดลง ทำให้เงินออมน้อยตามไปด้วย
ดังนั้น การต่อยอดการลงทุน ก็ถือเป็นวิธีที่ช่วยให้เราออมเงินให้ถึงเป้าหมายให้สำเร็จได้เร็วขึ้น
ตัวอย่างการวางแผนการเงินของนายบัวบาน

ถ้าหากนายบัวบานเริ่มต้นลงทุนในหุ้นไทย ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี จำนวนเงินที่นายบัวบานจะต้องเก็บต่อเดือนลดลง โดยจะเหลือเพียงแค่ 6,624 บาทต่อเดือน เพื่อทำให้นายบัวบานมีเงินล้านได้เช่นกัน
ดังนั้น อีกวิธีที่จะช่วยทำให้เงินออมเติบโตและทำให้เราไปถึงเงินล้านได้เร็วมากยิ่งขึ้น ก็คือการลงทุน โดยการลงทุนมีหลากหลายวิธี เช่น ลงทุนในกองทุนรวม, ETFs, หุ้น, ทองคำ, ตราสารหนี้ และ DR เป็นต้น
👉 เริ่มต้นลงทุนสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทน คลิกที่นี่ 👈
Wealth CONNEX มีฟีเจอร์ที่จะช่วยในการวางแผนการเงินนั่นคือ “Saving Plan” โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ฟังก์ชัน ดังนี้
1️⃣ เป้าหมายเงินออม กำหนดเงินก้อนและเวลาที่ต้องการจะออม เพื่อหามูลค่าเงินที่ต้องออมต่อเดือน
2️⃣ ออมแบบสม่ำเสมอ หากเราออมต่อเดือนด้วยจำนวนที่เท่ากัน จะมีเงินออมทั้งหมดเท่าใดเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด
ซึ่งมีวิธีและขั้นตอนการใช้ฟังก์ชันดังนี้
หลังจากกรอกข้อมูลตามขั้นตอนข้างต้น ระบบจะคำนวณและแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือน รวมถึงแสดงจำนวนดอกเบี้ยที่นักลงทุนจะได้รับทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างการคำนวณเป้าหมายเงินออม ผ่าน Wealth CONNEX
นายบัวบาน อายุ 22 ปี อยากเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านตอนอายุ 30 นายบัวบานอยากทราบว่าตนจะต้องออมเงินเดือนละเท่าไหร่ หากเงินออมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 10% ต่อปี
ใช้ในการคำนวณจำนวนเงินสุทธิทั้งหมด ที่จะได้ หลังจากการออมในแต่ละเดือน ในระยะเวลาที่เรากำหนด และอัตราดอกเบี้ยที่เราคาดหวังที่จะได้รับต่อปี
ซึ่งมีวิธีและขั้นตอนการใช้ฟังก์ชัน มีดังนี้
หลังจากกรอกข้อมูลตามขั้นตอนข้างต้น ระบบจะคำนวณและแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนเงินที่ออมได้ทั้งหมด รวมถึงแสดงจำนวนดอกเบี้ยที่นักลงทุนจะได้รับทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างการคำนวณการออมแบบสม่ำเสมอ ผ่าน Wealth CONNEX
นายบัวบาน อายุ 22 ปี ต้องการออมเงินเดือนละ 7,000 บาท จนถึงอายุ 30 ปี นายบัวบานจะมีเงินออมทั้งหมดเท่าใด หากเงินออมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 10% ต่อปี

ดาวน์โหลดสำหรับ Android 6.0 หรือมากกว่า คลิกที่นี่

ดาวน์โหลดสำหรับ iOS 13.0 หรือมากกว่า คลิกที่นี่

หรืออีก 1 ช่องทาง คือ ใช้งานผ่านเว็บไซต์ของหลักทรัพย์บัวหลวง www.bualuang.co.th โดยกดไปที่ Logo แอปฯ Wealth CONNEX บริเวณขวาบน
แล้วเราต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้ได้เงินล้านกันล่ะ? ...วันนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงมีคำตอบ พร้อมเครื่องมือที่ช่วยให้คุณคำนวณหาเงินออมต่อเดือนเพื่อไปใหัถึงจุดหมาย ผ่านแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX
👉 เริ่มต้นคำนวณเงินออมคลิกที่นี่ 👈

ปัญหาที่เรามักเก็บเงินไม่ได้ อาจจะเนื่องจากแต่ละเดือนเราต่างมีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ในขณะที่เงินเดือนเริ่มต้นมีน้อยนิด ทำให้เงินออมน้อยตามไปด้วย หลาย ๆ คนจึงมองว่าความฝันที่จะมีเงินเก็บหลักล้านคือความฝันที่ไกลเกินจริง
แต่ถ้าหากมีการวางแผนทางการเงินที่ดี การเก็บเงินให้ได้เจ็ดหลักก่อนอายุ 30 ก็ไม่ไกลเกินฝัน 😎
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำงานอะไร หากคุณมีเป้าหมายที่จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท คุณก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ! วันนี้เราจึงมีเคล็ด(ไม่)ลับมาบอกกันค่ะ
เคล็ด(ไม่)ลับ ในการเก็บเงินล้าน
1. เชื่อมันว่าคุณทำได้ / มี Mindset ทางการเงินที่ดี

- อันดับแรกเราควรจะเริ่มจากการเชื่อมั่นในตัวเองก่อน ว่าเราสามารถเก็บเงินตามเป้าหมายได้!
- ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร มีเงินเก็บเท่าไหร่ หรืออายุเท่าใด ทุกคนล้วนต้องมีการตั้งเป้าหมายและมุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ
- ยิ่งคุณเริ่มออมเร็วเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสำเร็จเร็วมากขึ้นเท่านั้น !! 💪
2. ตั้งเป้าหมาย

เราควรมองเป้าหมายในระยะยาว เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับตนเอง
หากตั้งใจว่าจะมีเงินเก็บ 1 ล้านก่อนอายุ 30 ปีก็ควรจะเริ่มคำนวณเงินเก็บในแต่ละเดือนล่วงหน้า โฟกัสไปที่เป้าหมายของตัวเอง โดยการตั้งเป้าหมายที่ดีควรประกอบไปด้วย
✅ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
✅ สามารถวัดผลได้
✅ มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน
ยกตัวอย่าง...
หากเราต้องการมีเงินเก็บ 1 ล้านตอนอายุ 30 ปีหรือก็คือปีละ 1 แสน
ดังนั้น เราก็ควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเลยว่าใน 1 เดือนเราต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อย 8,333 บาท
แต่ถ้าหากเราตั้งเป้าหมายไม่ชัดเจนหรือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ไม่ได้ ก็อาจจะส่งผลให้เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
3. วางแผนเงินออม
- “ยิ่งเริ่มต้นออมเงินเร็วเท่าไหร่ ก็จะมีเวลาที่ทำให้เงินนั้นเติบโตเร็วขึ้นเท่านั้น”
- ในแต่ละเดือน ต้องมีการออมอย่างสม่ำเสมอ
- โดยมีพื้นฐานแนวคิดที่ว่า ✔️ “รายได้ - เงินออม = รายจ่าย” ไม่ใช่ ❌ “รายได้ - รายจ่าย = เงินออม”
- ซึ่งหาก “รายได้ - เงินออม = รายจ่าย” นั้นจะทำให้เรารู้สามารถออมเงินที่ต้องการ และรู้ค่าใช้จ่ายที่เราควรใช้ต่อเดือนได้
ตัวอย่างการวางแผนเงินออม

จะเห็นได้ว่า...แนวคิดนี้จะให้ความสำคัญกับ “เงินออม” เป็นหลัก
ซึ่งถ้าหากต้องการมีเงินออมต่อเดือนที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องย้อนไปสังเกตดูบัญชีรายรับ - รายจ่ายต่อเดือน และตรวจสอบดูว่าสามารถปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้ไหม
4. ต่อยอดการลงทุน
การฝากเงินในธนาคารเพื่อหวังดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้เงินล้านเพราะในแต่ละเดือนเราต่างมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้มูลค่าของเงินลดลง ทำให้เงินออมน้อยตามไปด้วย
ดังนั้น การต่อยอดการลงทุน ก็ถือเป็นวิธีที่ช่วยให้เราออมเงินให้ถึงเป้าหมายให้สำเร็จได้เร็วขึ้น
ตัวอย่างการวางแผนการเงินของนายบัวบาน

ถ้าหากนายบัวบานเริ่มต้นลงทุนในหุ้นไทย ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี จำนวนเงินที่นายบัวบานจะต้องเก็บต่อเดือนลดลง โดยจะเหลือเพียงแค่ 6,624 บาทต่อเดือน เพื่อทำให้นายบัวบานมีเงินล้านได้เช่นกัน
ดังนั้น อีกวิธีที่จะช่วยทำให้เงินออมเติบโตและทำให้เราไปถึงเงินล้านได้เร็วมากยิ่งขึ้น ก็คือการลงทุน โดยการลงทุนมีหลากหลายวิธี เช่น ลงทุนในกองทุนรวม, ETFs, หุ้น, ทองคำ, ตราสารหนี้ และ DR เป็นต้น
- การลงทุนแต่ละวิธีก็จะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนในการลงทุนที่แตกต่างกันไป
- การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อย ก็จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ต่ำ ในทางตรงกันข้าม การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมาก จะมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วย
👉 เริ่มต้นลงทุนสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทน คลิกที่นี่ 👈
วางแผนการเงินได้ง่าย ๆ ผ่าน Wealth CONNEX
Wealth CONNEX มีฟีเจอร์ที่จะช่วยในการวางแผนการเงินนั่นคือ “Saving Plan” โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ฟังก์ชัน ดังนี้
1️⃣ เป้าหมายเงินออม กำหนดเงินก้อนและเวลาที่ต้องการจะออม เพื่อหามูลค่าเงินที่ต้องออมต่อเดือน
2️⃣ ออมแบบสม่ำเสมอ หากเราออมต่อเดือนด้วยจำนวนที่เท่ากัน จะมีเงินออมทั้งหมดเท่าใดเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด
เป้าหมายเงินออม
ใช้ในการคำนวณเพื่อหาจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือน เพื่อให้ถึงจำนวนเงินเป้าหมายในอนาคต ในระยะเวลาที่เรากำหนด และอัตราดอกเบี้ยที่เราคาดหวังที่จะได้ต่อปีซึ่งมีวิธีและขั้นตอนการใช้ฟังก์ชันดังนี้

- จำนวนเงินที่ต้องการออมทั้งหมด: กรอกจำนวนเงินที่เราตั้งเป้าหมายว่าจะมีในอนาคต
- ระยะเวลา (ปี): กรอกระยะเวลาที่เราตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บเงินให้ได้ภายใน X ปี
- อัตราดอกเบี้ยต่อปี (%): กรอกผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในสินทรัพย์นั้น
หลังจากกรอกข้อมูลตามขั้นตอนข้างต้น ระบบจะคำนวณและแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือน รวมถึงแสดงจำนวนดอกเบี้ยที่นักลงทุนจะได้รับทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างการคำนวณเป้าหมายเงินออม ผ่าน Wealth CONNEX
นายบัวบาน อายุ 22 ปี อยากเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านตอนอายุ 30 นายบัวบานอยากทราบว่าตนจะต้องออมเงินเดือนละเท่าไหร่ หากเงินออมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 10% ต่อปี

ออมแบบสม่ำเสมอ
ใช้ในการคำนวณจำนวนเงินสุทธิทั้งหมด ที่จะได้ หลังจากการออมในแต่ละเดือน ในระยะเวลาที่เรากำหนด และอัตราดอกเบี้ยที่เราคาดหวังที่จะได้รับต่อปีซึ่งมีวิธีและขั้นตอนการใช้ฟังก์ชัน มีดังนี้

- จำนวนเงินที่ต้องการออม (ต่อเดือน): กรอกจำนวนเงินที่ตั้งเป้าหมายว่าจะออมในแต่ละเดือน
- ระยะเวลา (ปี): กรอกระยะเวลาที่เราตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บเงินให้ได้ภายใน X ปี
- อัตราดอกเบี้ยต่อปี (%): กรอกผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในสินทรัพย์นั้น
หลังจากกรอกข้อมูลตามขั้นตอนข้างต้น ระบบจะคำนวณและแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนเงินที่ออมได้ทั้งหมด รวมถึงแสดงจำนวนดอกเบี้ยที่นักลงทุนจะได้รับทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างการคำนวณการออมแบบสม่ำเสมอ ผ่าน Wealth CONNEX
นายบัวบาน อายุ 22 ปี ต้องการออมเงินเดือนละ 7,000 บาท จนถึงอายุ 30 ปี นายบัวบานจะมีเงินออมทั้งหมดเท่าใด หากเงินออมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 10% ต่อปี

เริ่มต้นคำนวณเงินออมด้วยตนเอง ผ่าน Wealth CONNEX
ขั้นตอนที่ 1 ติดตั้ง Wealth CONNEX
ดาวน์โหลดสำหรับ Android 6.0 หรือมากกว่า คลิกที่นี่
ดาวน์โหลดสำหรับ iOS 13.0 หรือมากกว่า คลิกที่นี่

หรืออีก 1 ช่องทาง คือ ใช้งานผ่านเว็บไซต์ของหลักทรัพย์บัวหลวง www.bualuang.co.th โดยกดไปที่ Logo แอปฯ Wealth CONNEX บริเวณขวาบน
ขั้นตอนที่ 2 คำนวณเงินออมด้วย Investment Target
✅ ฟีเจอร์ “Saving Plan” สามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการคำนวณเงินออมและวางแผนการเงินเบื้องต้นได้
เริ่มต้นใช้งานโดยเข้าสู่แอปฯ เรียบร้อยแล้ว...
👉 เริ่มต้นคำนวณเงินออมคลิกที่นี่ 👈
- ไปที่เมนู “Knowledge”
- เลือก “Playground”
- ไปที่ “Investment Target” แล้วเลือก “Saving Plan”
แม้ใครที่ยังไม่มีบัญชีหลักทรัพย์กับบัวหลวงก็สามารถเข้าไปใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ แต่ถ้าหากคุณเปิดบัญชีกับบัวหลวงก็จะสามารถใช้งานเมนูและฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอาทิเช่น การรับข้อมูลข่าวสารเชิงลึก รวมถึงการพูดคุยปรึกษากับนักวิเคราะห์ได้โดยตรง
✅ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอป Wealth CONNEX บริการเชื่อมต่อทุกความรู้และบริการลงทุน
เลือกเมนู CHAT กด Chat With Customer Service
📌 เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร คลิก 👇
หรือศึกษาวิธีการเปิดบัญชีบนหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม คลิก
Tips
Global
DR01
สอนลงทุน
Tips
Tools
สอนลงทุน
สอนลงทุน
Tools
Tips
Tips
สอนลงทุน