"คุณเอก" ธนรัตน์ อิศรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง ได้รับเชิญเป็น "BLS Speakers" มาพูดในเชิงของการวิเคราะห์หุ้นด้วยเทคนิคในหัวข้อ "Reading Stock Market Chart…และหาจังหวะเทรด" ในโครงการ The Stock Master Exclusive 2018

เรานำความรู้บางส่วนในคลาสเรียน The Stock Master Exclusive 2018 มาฝากกันนะคะ :) Indicators ตัวไหนบ้างที่คุณเอก ให้ความสำคัญ...และใช้ในการวิเคราะห์โมเมนตัมตลาดหุ้นและจับสัญญาณหุ้นรายตัว!!  ตามไปศึกษากันเลย...

• Bollinger Band หรือเรียกสั้นๆ (BB)

เครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยการคำนวณค่าจาก สูตรเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 2 Standard Deviation โดยประกอบด้วย ...ค่าเฉลี่ย 3 เส้น ในระยะห่างที่เท่าๆ กัน Top Bollinger / Average Bollinger / Bottom Bollinger เป็นอีกเครื่องมือที่นิยมใช้งาน เพราะ สามารถใช้บอกแนวโน้มราคา แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) / แนวโน้มขาลง (Downtrend) และช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวไม่ไปไหน (Sideway) ...สังเกตง่ายๆ หากราคาหุ้นไม่หวือหวาหรือยังไม่เป็นที่น่าสนใจ เส้น BB ก็จะเคลื่อนไหวในลักษณะกรอบแคบๆ ราคาหุ้นวิ่งอย่างมีขอบเขต วิ่งขึ้นสัมผัสเส้นบนแล้วลง วิ่งลงสัมผัสเส้นล่างแล้วขึ้น เราจะเรียกการเคลื่อนไหวแบบนี้ว่า "Sideway" เคลื่อนตัวไปข้างๆ เพื่อรอดูทิศทางให้แน่ชัด!! อีกลักษณะที่ตรงกันข้ามก็คือ BB มีลักษณะเคลื่อนไหวกว้างออกจากกัน ตลาดเริ่มคึกคัก มีอยู่ 2 ทาง คือ "หุ้นไม่ขึ้นก็ลง" มาเริ่มจากแนวโน้มหุ้นขาขึ้นกันก่อน ...ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวทะลุเส้นกลางและเริ่มเคลื่อนไหวเข้าใกล้เส้นขอบบน เกาะเส้นขอบด้านบนไปเรื่อยๆ  ซึ่งหากราคาวิ่งอยู่ในลักษณะแบบนี้ คือ หุ้นกำลังอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น และจะยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มหากไม่มีการเคลื่อนไหวหลุดเส้นกลาง!! ส่วนลักษณะของหุ้นที่มีแนวโน้มเป็นขาลง จะเกิดจากการหลุดเส้นกลางและเคลื่อนไหวอยู่ใต้เส้นกลาง เกาะเส้นขอบด้านล่างไปเรื่อยๆ ซึ่งหากราคาวิ่งอยู่ในลักษณะแบบนี้ คือ หุ้นกำลังอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลง และจะยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มหากไม่มีการเคลื่อนไหวทะลุเส้นกลาง!!

• Average Directional Movement (ADX)

บ่งบอกแนวโน้มของราคา Trend และความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้น (ADX) สามารถบอกสัญญาณซื้อหรือขายได้ค่อนข้างแม่นยำ เน้นการลงทุนระยะกลาง...

• ถ้าค่า ADX > 20 แปลว่า เกิด Trend และมีความแข็งแกร่งของขาขึ้นหรือขาลง
• ถ้าค่า ADX < 20 แปลว่า ไม่เกิด Trend และเคลื่อนที่แบบ Sideway หรือ Trend ยังอ่อนแอ

และเรายังสามารถ Add Indicator ให้ไปทำงานร่วมกับ ADX ได้ก็คือ +DI และ -DI คือ ค่า Direction Movement Index คอยบอกจุดซื้อและจุดขาย โดยมีหลักการดังนี้...

• ถ้าค่า  +DI ตัดขึ้นเหนือ –DI  เป็น สัญญาณซื้อ
• ถ้าค่า  +DI ตัดลงใต้ –DI เป็น สัญญาณขาย

• Moving Average Divergence Convergence (MACD)

เครื่องมือที่ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น หรือ EMA (12) วัน – EMA (25) กับเส้นสัญญาณ หรือ Signal Line EMA (9) ให้สัญญาณช้ากว่า แต่เรียบกว่า จึงกรองสัญญาณหลอกได้ดีเหมาะสำหรับดูวงจรหุ้นระยะสั้นถึงปานกลาง (4 - 6 สัปดาห์)

• เป็นเครื่องมือที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคา
• วัดระดับความแรงของตลาดว่าเป็น Bull /Bear
• สามารถบอกสัญญาณซื้อหรือขายได้

โดยต้องดู Volume ปริมาณการซื้อขาย เป็นส่วนประกอบอีกด้วย ใช้ยืนยันในการเกิด Trend และเมื่อเวลา Volume Peak หรือ มากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการเกิดแนวโน้มใหม่ หรือแนวโน้มเดิมกำลังจะจบลง!! หุ้นขึ้น Volume มา แสดงว่า หุ้นขึ้นรอบนี้ขึ้นจริง / หุ้นลง Volume ก็มากเช่นกัน แสดงว่า หุ้นลงรอบนี้ลงจริง ...สรุปสั้นๆ ว่า Volume ใช้ยืนยันทิศทางราคาหุ้น... วิธีการ Add Indicator : BB / ADX / MACD  ถ้าพร้อมกันแล้ว...เปิดโปรแกรม Aspen ขึ้นมากันเลย!!

• BB  เลือกที่เมนู Overlays >> จากนั้นเลือกเมนูย่อย Bollinger Band (.BB)
• ADX เลือกที่เมนู Add Indicator to new panel >> จากนั้นเลือกเมนูย่อย Average Directional Movement Index (.ADX) เพิ่ม DI+ และ DI- โดยการเลือกที่ Directional Indicator (DI+), Directional Indicator (DI-)
• MACD เลือกที่เมนู Add Indicator to new panel >> จากนั้นเลือกเมนูย่อย MACD (.MACD)

สัปดาห์หน้าหากมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับโครงการ The Stock Master Exclusive จะนำมาแชร์กันอีกนะคะ