
นักลงทุนมือใหม่หลายๆท่านที่เริ่มศึกษาการเล่นหุ้นไม่ว่าจะอ่านบทความในอินเทอร์เน็ตหรือซื้อหนังสือการลงทุนมาอ่าน คงต้องเคยเห็นเรื่องกู้เงินมาลงทุนในหุ้นกันบ้าง อย่างที่น้อง ณัฐรดา พรมอุทิศ นักศึกษาฝึกงานด้วยประสบการณ์จริงกับหลักทรัพย์บัวหลวง “โครงการ Anytime Internship” จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้เคยสอบถามไว้เพราะเคยอ่านเจอในบทความ โดยในบทความก็จะยกตัวอย่างเคสที่ประสบความสำเร็จ ซื้อแล้วหุ้นขึ้น ได้กำไร 100% ในเวลาเพียง 1 เดือน แต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างนี้
สิ่งที่ต้องรู้ถ้าคิดจะกู้เงินมาลงทุน
แน่นอนว่าเมื่อเรามีการกู้ยืมเงินก็จะต้องมีการคิดดอกเบี้ยตามมา ซึ่งการกู้เงินมาลงทุนให้ประสบความสำเร็จก็คือคุณต้องลงทุนให้ได้กำไรมากกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 7.00% ต่อปี ก็จะต้องลงทุนให้ได้กำไรมากกว่า 7.00% ต่อปี จึงจะกำไร ฟังดูง่ายใช่ไหมคะ แต่ในความเป็นจริงมันไม่สวยงามขนาดนั้น ลองคิดในแง่หากเราขาดทุนบ้างล่ะ ถ้าเป็นเงินทุนของเราเองบางท่านก็อาจจะใจเย็น รอได้ เชื่อมั่นว่าราคาหุ้นจะต้องกลับมาตามพื้นฐาน หรือบางท่านก็ cut loss ได้ทุนกลับมาบางส่วนก็ยังดี แต่ถ้าเป็นเงินที่กู้มา ต้องอย่าลืมว่าดอกเบี้ยมันวิ่งทุกวัน ยิ่งนานดอกเบี้ยยิ่งเพิ่ม ในที่สุดเราก็จะเสียทั้งเงินทุนและดอกเบี้ย ต้องถามตัวเองแล้วล่ะค่ะว่า จะรับความเสี่ยงตรงนี้ได้ไหม เพราะไม่มีใครจะเลือกหุ้นถูกไปซะทุกครั้ง
เห็นไหมคะว่าถ้าเรากู้เงินมาซื้อหุ้นแล้วเกิดกรณีขาดทุน เราจะต้องเสียเงิน 2 ต่อ คือ เสียทั้งเงินทุนและดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นการจะบอกว่ากู้เงินมาซื้อหุ้นดีหรือไม่ดีก็ต้องแล้วแต่การยอมรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ทั้งความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้น จังหวะการลงทุน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ก็ต้องลองคิดดูดีๆค่ะ
สิ่งที่อยากเตือนคือถ้าเราจะลงทุน จงเลือกลงทุนในสิ่งที่รับความเสี่ยงได้…แต่ถ้ารับความเสี่ยงนั้นไม่ได้ นั่นไม่ใช่การลงทุน