เปิดปี 2566 คาดกำไร 8 แบงก์ ธนาคารไทยจะทำกำไรรวมกันกว่า 2.2 แสนล้านบาท!!
กำไรมากถึงขนาดนี้ เกิดจากอะไร แล้วหุ้นธนาคารไหนโดดเด่นบ้าง...ไปดูกันเลย

รายได้ธนาคาร มาจากไหน 

โดยปกติรายได้ธนาคารจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ 
 

1. รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ หรือ ส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของธนาคาร (NIM) เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของธนาคารจากส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย 

2. รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ คือ รายได้ที่มาจากการให้บริการทางการเงินของธนาคารที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมการใช้บริการต่าง ๆ  

3. รายได้จากการลงทุนและการค้า เกิดจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น และรายได้ที่เกิดจากการค้าขาย เช่น การขายสินค้าหรือบริการ  

โดยส่วนใหญ่ได้มีการทยอยประกาศงบหุ้นธนาคารปี 2566 มาแล้ว ดังนี้

สาเหตุที่กำไรของธนาคารพุ่งสูงขึ้น 

ในปี 2566 ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยทำกำไรสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยในปี 2566 มีกำไรรวมกันทั้งสิ้นกว่า 2.2 แสนล้านบาท ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยเติบโตขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่องในปี 2567  

สาเหตุที่กำไรของธนาคารพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ มาจากปัจจัยหลักสองประการ ได้แก่ 
 

1. อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้ธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 
 

ครั้งที่	วันที่	มติ กนง.	อัตราดอกเบี้ยนโยบาย Policy rate
ครั้งที่ 1/2566	25 ม.ค. 2566	ปรับขึ้น 25 bps	1.50 %
ครั้งที่ 2/2566	29 มี.ค. 2566	ปรับขึ้น 25 bps	1.75 %
ครั้งที่ 3/2566	31 พ.ค. 2566	ปรับขึ้น 25 bps	2.00 %
ครั้งที่ 4/2566	2 ส.ค. 2566	ปรับขึ้น 25 bps	2.25 %
ครั้งที่ 5/2566	27 ก.ย. 2566	ปรับขึ้น 25 bps	2.50 %
ครั้งที่ 6/2566	29 พ.ย. 2566	คงที่	2.50 %

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย 

จากตาราง จะเห็นได้ว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา กนง. มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นทั้งปีจนกระทั่งคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% แสดงให้เห็นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางฟื้นตัวแล้วจากอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น ภาคท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว และภาคส่งออกที่กลับมาขยายตัว รวมถึงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 ลดลง 

2. เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ส่งผลให้สินเชื่อเติบโต 

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย 

จากรูปจะเห็นได้ว่าความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกสาขาธุรกิจ โดยเฉพาะ ธุรกิจภาคบริการตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มขึ้นในทุกขนาดธุรกิจเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

เลือกหุ้นธนาคารไหนดี ?

จากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง ให้มุมมองหุ้นธนาคาร ดังนี้
 

หุ้น	ราคาปิด	มุมมอง	ราคาเป้าหมาย	PER	EV /EBITDA	P/BV	Dividend Yield	Net Profit 4Q23E	%YoY	Net Profit 1Q24E	%YoY
BBL	155.50	BUY	195.63	6.58	3.16	0.51	4.18%	9,550	26.2%	10,754	6.2%
KBANK	136.00	BUY	155.76	7.08	2.99	0.57	3.49%	8,969	181.1%	10,975	2.2%
KKP	50.50	SELL	53.31	7.55	3.01	0.67	5.45%	1,261	-11.8%	1,287	-38.3%
KTB	18.70	BUY	22.86	6.12	2.85	0.60	4.90%	8,814	8.7%	10,579	5.1%
SCB	106.50	BUY	117.13	8.08	3.50	0.70	6.34%	8,344	16.8%	9,938	-9.6%
TISCO	100.00	BUY	107.65	10.16	7.75	1.78	8.25%	1,879	4.2%	1,860	3.7%
TTB	1.67	HOLD	1.81	8.56	3.86	0.68	6.42%	4,430	15.1%	4,543	5.8%

ที่มา: BLS Research (As of 5 Jan 24 )

โดยคาดรายได้ของ BBL มาจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิสูงขึ้นมากที่สุดตามการปรับขึ้นดอกเบี้ย และพอร์ตสินเชื่อโตกว่า 1% รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมโต 3%  

พร้อมรอติดตามงบธนาคารจะประกาศ TISCO เป็นตัวแรก จันทร์ 15 ม.ค. และส่วนมาก จะออกช่วง ศุกร์ 19 ม.ค. 
 

ติดตามประกาศงบธนาคารได้อย่างไร ? 

ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถติดตามงบธนาคารได้หลายช่องทางดังต่อไปนี้ 

 

1. Aspen Bualuang Trade 

คลิกไอคอนขีด 3 ขีดบริเวณมุมซ้ายบน   จากนั้นเลือกเมนู  

 

2. Trade Master 

คลิกไอคอนขีด 3 ขีดบริเวณมุมซ้ายล่าง  จากนั้นเลือกเมนู  

 

3. Streaming (สำหรับ PC เท่านั้น) 

 

4. บทวิเคราะห์จาก BLS Research 

เข้าดูได้ผ่านแอป Streaming เลือกแถบ  จากนั้นเลือกเมนู