นักลงทุนจำนวนไม่น้อยอาจต้องเผชิญกับ Drawdown หรือการที่พอร์ตการลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกระทบไม่เพียงแค่ผลตอบแทน แต่ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจในการลงทุนด้วย

Drawdown คืออะไร?

Drawdown หมายถึง “การลดลงของมูลค่าพอร์ต” จากจุดสูงสุดก่อนหน้า ไปถึงจุดต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่ง Drawdown ลึก การฟื้นกลับมาจุดเดิมยิ่งยาก เช่น หากพอร์ตลดลง -50% จะต้องทำผลตอบแทน +100% ถึงจะกลับมาที่เดิม 

ยกตัวอย่าง:

• สมมติคุณมีเงินลงทุน 100,000 บาท หากพอร์ตติดลบ -50% มูลค่าพอร์ตจะเหลือเพียง 50,000 บาท
•  ต้องทำผลตอบแทน +100% จากจุดนี้ถึงจะกลับมาคืนทุนอีกครั้ง โดยจะคำนวณได้ว่า 50,000 × (1 + 100%) = 100,000 บาท

ผลกระทบของ Drawdown มีมากกว่าที่คิด

ในเชิงจิตวิทยา Drawdown เป็นตัวเร่งให้นักลงทุน “ตัดสินใจผิด” ได้ง่าย เช่น

• ขายขาดทุนตอนตลาดลงหนัก
• พลาดโอกาสดีเพราะรอพอร์ตฟื้น
• หรือแม้แต่ถอนตัวออกจากตลาดถาวร

รับมือกับ Drawdown อย่างมืออาชีพ

แม้ Drawdown จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถ “ออกแบบพอร์ต” ให้รับมือได้อย่างเป็นระบบได้ผ่าน 6 วิธีการ

1. DCA – ทยอยลงทุนอย่างมีวินัย

ลงทุนเป็นงวด ๆ เท่ากันทุกเดือน ช่วยลดโอกาสเข้าผิดจังหวะ และช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนในระยะยาว

2. Asset Allocation – กระจายลงทุนหลากประเภทสินทรัพย์

ผสมผสานสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต เพราะไม่มีสินทรัพย์ใดที่ทำผลตอบแทนได้ดีตลอดไป

3. Diversification – กระจายการลงทุนหลากหลายประเทศและอุตสาหกรรม

ลดความเสี่ยงที่การกระจุกตัวของพอร์ต เช่น จัดพอร์ตลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไทย จีนฮ่องกง ฯลฯ

4. Rebalancing – ปรับสมดุลพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ

การปรับพอร์ตให้กลับมาสู่สัดส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงของพอร์ต ช่วยให้พอร์ตมีความสมดุล

5. Position Limit – ไม่ทุ่มหมดหน้าตัก

จำกัดสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์ผันผวน เพื่อไม่ให้พอร์ตเสียหายหนักเมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้า

6. Stop-loss – ตัดขาดทุนอย่างมีระบบ

ตั้งขายหุ้นหรือสินทรัพย์ลงทุนออกไป หากราคาปรับตัวลดลงไปถึงจุดที่กำหนด เพื่อลดความเสียหายเชิงจิตใจและปกป้องพอร์ตโดยรวม

หาก “มีระบบ” ที่ช่วยให้พอร์ตผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ ยิ่งคุณวางแผนการลงทุนชัดเจน มีโครงสร้างพอร์ตที่รัดกุม และไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ ยิ่งลดโอกาสการเกิด Drawdown ลึกในระยะยาว

บริหารความเสี่ยง ลดผลกระทบจาก Drawdown ง่ายๆ ด้วยออมหุ้นอัตโนมัติ DCAMIX

ตัวช่วยออมหุ้นอัตโนมัติ ที่กระจายการลงทุนใน ETF หุ้นไทยและ DR หุ้นต่างประเทศให้ทุกวัน

• ออมหุ้นง่าย ไม่ต้องเลือกหุ้นเอง: ลงทุนอัตโนมัติหรือปรับสัดส่วนเองได้ทั้ง ETF/DR มากกว่า 10 หลักทรัพย์ 
• ลงทุนสม่ำเสมอ ไม่ต้องจับจังหวะ: DCA Everyday กระจายลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพทุกวัน ด้วย DCAMIX
• ต่อยอดความมั่งคั่ง ไม่ต้องใช้เงินมาก เปลี่ยนเงินก้อนเล็กเป็นเงินก้อนโต ด้วยพลังจาก “ดอกเบี้ยทบต้น” สร้างความมั่งคั่งแบบทวีคูณ

สนใจสมัครกลยุทธ์ DCAMIX ต้องทำอย่างไร

สำหรับลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถติดต่อได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือสมัครบริการด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เริ่มต้นเดือนละ 5,000 บาท

พิเศษ! ยกเว้นค่าธรรมเนียมราย 2 ปี มูลค่า 1,070 บาท เมี่อสมัครและเลือกชำระเงินผ่านบัญชีหุ้น (ถอนหลักประกัน) ที่มีการตัดเงินรอบแรกตั้งแต่วันนี้ – 16 ธ.ค. 68 เท่านั้น อ่านเพิ่มเติมคลิก

• สมัครออมหุ้นอัตโนมัติ DCAMIX ได้ ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่
  1. แอป Wealth Connex บน App Store (สำหรับ iOS คลิกที่นี่) และ Google Play (สำหรับ Android คลิกที่นี่) เมนู Solution > ออมหุ้นอัตโนมัติ
     
  2. เว็บไซต์ www.bualuang.co.th เมนู Auto Investing > ออมหุ้นอัตโนมัติ
  3. แอป Streaming เมนู BLS >  Auto Investing > ออมหุ้นอัตโนมัติ

หลังจากดำเนินการสมัครแล้ว ท่านจะได้รับผลอนุมัติทางอีเมล และสามารถติดตามผลการดำเนินงานพอร์ตการลงทุนของท่านง่าย ๆ ได้ทุกวันผ่าน Streaming หรือ Bualuang iTracker

เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ อนุมัติไว ง่าย ๆ ผ่านแอป Wealth Connex