
มาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ DR กันค่ะ...
DR (Depositary Receipt) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นตราสารทางการเงินที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ทั้งหุ้นและ ETF ได้ผ่านตลาดหุ้นไทย โดยการลงทุนใน DR ยังเปรียบเสมือนการลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงโดยตรง นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของกำไรส่วนต่างของราคา (Capital gain) หรืออาจได้รับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นต่าง ๆ อีกด้วย อีกทั้งยังซื้อขายได้ด้วยสกุลเงินบาท ซื้อขายด้วยราคาแบบ real-time ซื้อขายแม้ตลาดหุ้นไทยจะหยุดพักกลางวัน
ลงทุนใน DR ยุ่งยากหรือไม่?
ลงทุนใน DR ไม่ใช่เรื่องยาก นักลงทุนสามารถลงทุนต่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องรอระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศ อีกทั้งสามารถซื้อขายเหมือนหุ้นไทย นอกจากนี้...อย่างที่ได้เล่าไป การลงทุนใน DR มีจุดเด่นหลัก ๆ คือการเปิดโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือ ETF ที่สามารถช่วยกระจายความเสี่ยง และยังสร้างโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย (อย่างไรก็ดี หากเข้าลงทุนในจังหวะที่ไม่เหมาะสม ก็อาจขาดทุนได้เช่นเดียวกันค่ะ)
หลักทรัพย์บัวหลวง ผู้ออก DR เจ้าแรกของประเทศไทย ปัจจุบันมี 4 DR ที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ทีม BLS Global Investing เลยอยากจะมาสรุปและชวนนักลงทุนรู้จักให้มากขึ้นไปพร้อม ๆ กันค่ะ
1. DR on DCVFMVN30 ETF (E1VFVN30.VN)
สัญลักษณ์ DR คือ “E1VFVN3001” โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ DCVFMVN30 ETF หรือ E1VFVN30 ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นโฮจิมินห์ของเวียดนาม ลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 (คล้ายกับดัชนี SET50 ของไทย) โดยดัชนี VN30 ประกอบด้วยหุ้นชั้นนำจำนวน 30 ตัวในเวียดนาม โดยมีเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกหุ้นที่ชัดเจน เช่น มูลค่าตลาด การปรับด้วยอัตราส่วน Free Float และ สภาพคล่อง เป็นต้น ดัชนีนี้ นิยมใช้เป็นตัวแทนของหุ้นเวียดนามขนาดใหญ่ เนื่องจากมูลค่าตลาดของหุ้นในดัชนีมีสัดส่วนรวมกันมากกว่า 60% ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ไปแล้ว! โดยสรุปแล้ว...DR E1VFVN3001 เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นเวียดนามโดยมีแนวโน้มเติบโตไปกับเศรษฐกิจเวียดนามในระยะยาว
Top 3 Sectors หรือน้ำหนักรายอุสาหกรรม และสัดส่วนของ ETF
1.) กลุ่มการเงิน (Financials) 40%
2.) กลุ่มอสังหาฯ (Real Estate) 23%
3.) กลุ่มสินค้าจำเป็น (Consumer Stables) 11%
Top 3 Stocks และสัดส่วนของ ETF
1.) Vingroup JSC (VIC.VN) - บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของเวียดนาม (คล้าย CPN) 7.9%
2.) Vietnam Prosperity JSC Bank (VPB.VN) – ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในเวียดนาม 7.7%
3.) Hoa Phat Group JSC (HPG.VN) – บริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศเวียดนาม 7.1%
(ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 65)
2. DR on DCVFMVN DIAMOND ETF (FUEVFVND.VN)
สัญลักษณ์ “FUEVFVND01” ที่นักลงทุนไทยรู้จักดี ปัจจุบัน นับเป็น ETF ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) รวมสูงที่สุดในเวียดนาม ขณะที่ดัชนี VN DIAMOND ถูกจัดทำขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์และออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาของนักลงทุนต่างชาติ (รวมถึงนักลงทุนไทย) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นเวียดนามแต่ติดข้อจํากัดด้าน Foreign room หรือ Foreign Ownership Limit (FOL) ทำให้เข้าไปลงทุนได้ยาก
การลงทุนใน DR “DIAMOND” จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนไม่ต้องซื้อหุ้นดังกล่าวที่ราคาพรีเมียมที่อาจสูงกว่าปกติถึงราว 7-30% และ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นเวียดนาม ที่มีการลงทุนในหุ้นกว่า 17 ตัว
Top 3 Sectors หรือน้ำหนักรายอุสาหกรรม และสัดส่วนของ ETF
1.) กลุ่มการเงิน (Financials) 40%
2.) กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) 29%
3.) กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 15%
Top 3 Stocks และสัดส่วนของ ETF
1.) Mobile World Investment Corp. (MWG) – ธุรกิจค้าปลีกคอมพิวเตอร์และอุปกรอิเล็กทรอนิกส์ (คล้าย CPN) 15.5%
2.) FPT Corp. (FPT) - บริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม 14.7%
3.) Phu Nhuan Jewelry JSC (PNJ) – ธุรกิจผลิตซื้อขายนำเข้าและส่งออก ทองคำ เงิน เครื่องประดับ 13.1%
(ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 65)
3. DR on ChinaAMC NASDAQ 100 ETF (3086.HK)
หรือสัญลักษณ์ “NDX01” ลงทุนอ้างอิงดัชนี NASDAQ 100 ใน ETF ChinaAMC NASDAQ 100 ETF (3086.HK) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งออกโดย ChinaAMC บริษัทจัดการกองทุน ETF ของฮ่องกง ดัชนี NASDAQ 100 ติดตามความเคลื่อนไหวของ 100 บริษัทแรกตามมูลค่าตลาดที่จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ โดยเน้นสะท้อนการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นที่มีนวัตกรรมระดับโลกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างกลุ่ม FANGMAN ที่ประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ 7 ตัว ได้แก่ Apple, Microsoft, Amazon, Alphabet, Meta Platforms, Netflix และ NVIDIA ซึ่งมูลค่าตลาดของกลุ่ม FANGMAN รวมกันคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของหุ้นในดัชนี NASDAQ 100 นอกจากนี้ ดัชนียังประกอบด้วยหุ้นชั้นนำกลุ่มอื่น นอกเหนือจากหุ้นเทคโนโลยี อาทิ Tesla, PepsiCo และ Starbucks เป็นต้น
DR NDX01 เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเน้นลงทุนไปที่หุ้นเทคโนโลยียักษ์กว่า 60% ของสัดส่วนทั้งหมด
Top 3 Sectors หรือน้ำหนักรายอุสาหกรรม และสัดส่วนของ ETF
1.) กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 58%
2.) กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) 21%
3.) กลุ่มการแพทย์ (Healthcare) 6%
Top 3 Stocks และสัดส่วนของ ETF
1.) Apple Inc. (AAPL) – เป็นบริษัทเทคโนโลยีของเมริกันที่เชี่ยวชาญการผลิดด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ซอฟต์แวร์ 12.5%
2.) Microsoft (MSFT) - บริษัทเทคโนโลยีของอเมริกัน ซึ่งผลิตซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และบริการที่เกี่ยวข้อง 10.2%
3.) Amazon.com Inc. (AMZN) – เป็นบริษัทเทคโนโลยีของเมริกันที่มุ่งเน้นด้านอีคอมเมิร์ซ คลาวด์คอมพิวติ้ง สตรีมมิ่งดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 7.3%
(ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 65)
4. DR on Premia China STAR50 ETF (3151.HK)
หรือสัญลักษณ์ “STAR5001” มีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ Premia China STAR50 ETF หรือสัญลักษณ์ “3151.HK” ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและลงทุนอ้างอิงดัชนี STAR 50 ออกโดย Premia Partners บริษัทจัดการกองทุน ETF ของฮ่องกง โดยกระดาน STAR ย่อมาจาก “Shanghai Stock Exchange Science and Technology Innovation Board” เน้นรวบรวมบริษัทจีนที่ทําธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยมีเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนที่ให้ความสําคัญกับการลงทุนด้านการวิจัย (R&D) และมีความผ่อนคลายกว่า ตลาดหลักทรัพย์อื่นของจีน เช่น บริษัทที่ยังไม่มีกําไรสามารถเข้าจดทะเบียนบนกระดาน STAR ได้ เป็นต้น
กระดาน STAR จึงเปรียบเสมือนตลาดน้องใหม่ที่พร้อมก้าวขึ้นเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนําในอนาคต และ ดัชนี STAR 50 ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวแรกตามมูลค่าตลาดบนกระดาน STAR โดยหุ้นในดัชนีส่วนใหญ่เป็นหุ้น เทคโนโลยีประเภท “Hard Tech” เช่น ผู้ผลิตชิป, เทคโนโลยีชีวภาพ หรือ พลังงานสะอาด ที่มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของรัฐบาลจีนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปีฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2564-2568) ที่มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
DR STAR5001 เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการออมการลงทุนตามดัชนีอย่างมีประสิทธิภาพ และค่าการลงทุนต่ำ และมีความสนใจต้องการกระจายลงทุนในหุ้นเศรษฐกิจใหม่ของจีน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจานวนมาก หรือสนใจลงทุนในหุ้นจีน A-share ซึ่งโดยปกติแล้วนักลงทุนต่างชาติมักจะเข้าไปลงทุนได้ไม่สะดวกเช่นนี้
Top 3 Sectors หรือน้ำหนักรายอุสาหกรรม และสัดส่วนของ ETF
1.) กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 15%
2.) กลุ่มการแพทย์ (Healthcare) 15%
3.) กลุ่มอุตสาหการ (Industrial) 11%
Top 3 Stocks และสัดส่วนของ ETF
1.) SMIC (688981)) – ผู้ผลิตชิปสัญญารายใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาด ถึง 5.3% ในปี 64 7.3%
2.) Trina Solar (688599) - ดำเนินธุรกิจหลักในการวิจัยและพัฒนาการผลิตการขายโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้า 5.0%
3.) Ronbay New Energy (688005) - ผู้ผลิตวัสดุแนวใหม่ มุ่งเน้นไปที่วัสดุแคโทด (Cathode Material) และสารตั้งต้นของแบตเตอรี่ลิเธียม (Precursors of Lithium Batteries) และสำหรับใช้ในการผลิตรถยนต์ EV 3.4%
(ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 65)
หลังจากได้รู้จักความหมาย และ DR แต่ละตัวที่ประสบความสำเร็จของหลักทรัพย์บัวหลวงของเราแล้ว อย่าลืมที่จะติดตามรอ 2 DR ตัวต่อไปของเรากันด้วยนะคะ
1. DR on ChinaAMC CSI 300 Index ETF (3188.HK) DR ที่เข้าลงทุนใน 3188.HK ETF ที่เข้าลงทุนในหุ้น A-share ชั้นนำขนาดใหญ่ของจีนจำนวน 300 หุ้น กระจายการลงทุนอิงดัชนีหลักของจีน ดัชนี CSI300 !
2. DR on ChinaAMC Hang Seng TECH ETF (3088.HK) DR ที่เข้าลงทุนใน 3088.HK ETF ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนและฮ่องกง จำนวน 30 ตัว เน้นการเติบโตของบริษัทกลุ่ม New Economy ของจีน เกาะธีม FinTech, Cloud Computing, E-Commerce, Digitalization เป็นต้น
ติดตามข่าวสารกันได้เร็ว ๆ นี้นะคะนักลงทุนทุกท่าน
แล้วมาพบกันใหม่ อัปเดตความรู้รอบตัวเกี่ยวกับการลงทุนต่างประเทศ เตรียมเริ่มต้นลงทุนต่างประเทศทุกสถานการณ์
ที่มา: BLS Global Investing, Bloomberg, ChinaAMC, Premia Partners, Dragon Capital VietFund Management
เรียบเรียงโดย:
ศิวพรรณ ประดิษฐ์กุล, Supervisor, Global Investing Solutions, บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง
รตนพร อมฤตวาริน, Product Specialist, Global Investing Solutions, บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง
ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 65
✅ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์บัวหลวง เตรียมตัวลงทุนใน DR คลิก https://bls.tips/KnowledgeTeam หรืออ่านวิธีการเปิดบัญชีบนหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม คลิก https://bls.tips/websiteopenaccount🔥
#DR #ลงทุนต่างประเทศ #BLSGlobalInvesting #หลักทรัพย์บัวหลวง