
"Markets are never wrong. Opinions often are." - Jesse Livermore
"ตลาดไม่เคยผิด แต่ความคิดเห็นของคนต่างหากที่มักผิด..." เจ้าของคำพูดประโยคนี้เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Jesse Livermore ชายที่ถูกยกย่องให้เป็นนักเก็งกำไรที่เก่งที่สุดที่เคยมีมา.. คำพูดสั้นๆแค่นี้ แต่สามารถอธิบายถึงแก่นของการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้เป็นอย่างดี... เส้นต่างๆหลากสีที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอของนักเทคนิค ดูซับซ้อนและยุ่งยาก.. จนทำให้หลายคนคิดว่ามันเป็นสิ่งแปลกประหลาดหรือพิศวง ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาแบบดื้อๆ แต่ถ้าจะว่ากันจริงๆแล้ว... กราฟเป็นเพียงผลสะท้อนของการซื้อขายที่เกิดขึ้นในอดีต ราคาหุ้นที่ขึ้นลงในแต่ละวันก็คือการเข้ามามีส่วนร่วมของนักลงทุนและนักเก็งกำไรจากทั่วทุกมุมโลก... ข้อมูลเหล่านี้เพียงถูกนำมาเก็บอยู่ในรูปแบบสถิติ ให้สามารถกลับมาวิเคราะห์ได้สะดวกมากขึ้น นี่คือเหตุผลหลักที่เทรดเดอร์เชื่อมั่นในกราฟ... เพราะสิ่งที่แสดงผลอยู่บนกราฟ ก็คือการซื้อขายที่ได้เกิดขึ้นจริงมาแล้วทั้งนั้น ผิดกับการฟังข่าวลือและการซื้อขายแบบ "คิดไปเอง" ที่ไม่สามารถพิสูจน์และวัดผลอะไรได้เลย.... การอ่านกราฟจึงเป็นการอ่านพฤติกรรมรวมของมวลชน ของผู้เล่นทั้งหมดจากทุกกลุ่มและทุกแห่งหน หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "ตลาด" นั่นเอง...
กราฟดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
"เก็งกำไรอย่างถูกต้อง ...ให้ฟังเสียงของตลาด"
ลองนึกภาพหุ้นตัวหนึ่ง.. ที่เวลาราคาขึ้นมาที่ 10 บาท ก็จะเกิดแรงขายทำให้หุ้นปรับตัวลงทันที... เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง คนจะขายหุ้นก็ต่อเมื่อเขาคิดว่ามัน "แพง"... ดังนั้นจากพฤติกรรมขั้นต้นของหุ้นตัวนี้ เราตีความได้ว่าคนส่วนใหญ่ (หรือตลาด) ให้มูลค่าในระดับที่ 10 บาทคือแพง... นักเทคนิคจึงสังเกตระดับราคานี้ และเรียกมันว่า "แนวต้าน".. หรือบริเวณราคาที่มีแรงขายมากกว่าแรงซื้อ... ถ้าเราเข้าใจกลไกตรงนี้ การซื้อหุ้นที่แนวต้านจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ หรือเป็นจุดที่ "เสียเปรียบ".. เพราะหุ้นมีโอกาสปรับตัวลงได้ทันที ใครจะอยากซื้อแล้วขาดทุนเลยจริงไหม..?? ...นี่เอง คือสิ่งที่ตลาดกำลังบอกกับคุณ... เทรดเดอร์ที่ดีทุกคนเป็น "ผู้ฟังที่เก่ง" เพราะเขาจะไม่เชื่อใครนอกจากข้อมูลของจริงที่อยู่ตรงหน้า ทีนี้ลองคิดเปรียบเทียบกับอีกคนที่อาจเข้ามาซื้อที่ 10 บาท เพราะ "คิดเอง" ว่ามันถูก หรืออาจเพราะได้ข่าวมาว่าหุ้นจะวิ่งไปที่ 20 บาท... คุณคิดว่าใครจะได้เปรียบกว่ากัน..? นี่ก็เป็นตัวอย่างง่ายๆในการวิเคราะห์... สิ่งที่ผมต้องการย้ำคือกราฟไม่ใช่เครื่องมือที่มั่วขึ้นมา แต่มันก็ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่เอาไว้บอกอนาคตเช่นกัน... ถ้าเข้าใจมันอย่างถูกต้อง การอ่านกราฟนั้นสามารถช่วยให้เราหาจุดที่เหมาะสมในการซื้อขายได้.. ทั้งในเชิง "สถิติ" และในเชิง "ความน่าจะเป็น"
ตัวอย่างราคาหุ้นที่มีแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 50 บาท
ในบทความหน้ามาต่อกันในเรื่องของเครื่องมือเบสิคที่ต้องรู้ และการเข้าใช้งานเพื่ออ่านกราฟเบื้องต้นกันครับ...