
การระบาดของโควิด-19 นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และกินระยะเวลายาวนาน จนทำให้เกิดฐานวิถีชีวิตใหม่ที่หลายคนเรียกว่า “New Normal” แล้ว ในแง่ของธุรกิจเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยหลาย ๆ ธุรกิจล้มหายตายจาก หรือหยุดชะงัก จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่บางธุรกิจรุกขึ้นมาปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจไปต่อ
แต่ก็มีอีกหลากหลายธุรกิจได้รับ ผลกระทบในทางบวก อย่างเช่น ธุรกิจ Start-up ระดับยูนิคอร์นที่ประสบความสำเร็จ และมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยหลายบริษัทกำลังเร่งมือ IPO ภายในปี 63 ซึ่งการ IPO ถือเป็นช่องทางในการระดมทุนที่หลาย ๆ บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำ เนื่องจากเป็นแหล่งเงินทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน ทั้งในและนอกประเทศเลือกลงทุน อีกทั้งเป็นช่องทางในการระดมทุนที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการกู้หนี้ หรือการระดมทุนแบบอื่น
ธุรกิจที่จะทำ IPO ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง
ที่มา: Corporatefinanceinstitute
ทีม BLS Global Investing อยากจะชวนผู้อ่านทุกคนมาทำความรู้จัก 3 ธุรกิจยูนิคอร์น ในกลุ่มเทคโนโลยีของทางสหรัฐฯ ที่ใกล้จะทำ IPO เร็ว ๆ นี้ ซึ่งทั้ง 3 บริษัท เพิ่งจะยื่น Fillings ไปเมื่อไม่นานมานี้…ลองมาทายกันดูนะคะว่า 3 บริษัทยูนิคอร์นนี้เป็นใคร และมาดูข้อมูลเปรียบเทียบที่น่าสนใจที่ทางทีมเตรียมไว้ให้นักลงทุนทุกท่านกันค่ะ
3 บริษัทยูนิคอร์น IPO ทันปี 63 หรือไม่?
Airbnb แพลตฟอร์มออนไลน์ ให้บริการจัดหาที่พักชั่วคราว
สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับผู้คน
ปัจจุบันมี Host หรือเจ้าของบ้านที่เปิดบ้านให้คนแปลกหน้าเข้าพักอาศัยกว่า 4 ล้านคนแล้ว จากกว่า 220 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ที่ผ่านมามีเจ้าของบ้านต้อนรับแขก หรือผู้ที่ติดต่อจะเข้ามาพักอาศัยมาแล้วกว่า 825 ล้านราย สร้างรายได้ให้กับเจ้าของบ้านกว่า 110 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท
โดย Airbnb ตั้งใจสร้างประสบการณ์ในการท่องเที่ยวให้กับลูกค้า โดยจัดสรรปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิตอย่าง ที่พักอาศัย พร้อมกับการได้รู้จักกับคนในพื้นที่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณนั้น ๆ เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความคิดซึ่งกันและกัน
ในช่วงที่ผ่านมา Airbnb เคยเปิดเผยข้อมูลว่า ช่วงต้นปี 63 ที่มีการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจของ Airbnb ถดถอยและหดตัวอย่างมาก ทำให้บริษัทตัดสินใจเริ่มปรับโมเดลธุรกิจ เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศถูกจำกัดไว้ จึงมาเน้นที่การท่องเที่ยวภายในประเทศทดแทน เพราะเชื่อว่า ผู้คนต้องการออกจากบ้าน ไม่ต้องการกักตัวและอยู่บ้านตลอดเวลา จึงทำให้ความต้องการท่องเที่ยวที่ระยะทางไม่ไกลมาก เริ่มเปลี่ยนจากการ Work-from-home เป็น Work-from-any-home และ Airbnb ยังเชื่อว่าความแตกต่างระหว่างการท่องเที่ยวและการใช้ชีวิตเริ่มจะน้อยลงทุกที
รายได้ของ Airbnb ชะลอตัวลง โดยในปี 62 รายได้รวมอยู่ที่ 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.5 แสนล้านบาท รายได้โตที่ 31.6% เมื่อเทียบกับปี 61 และรายได้ในปี 61 โตที่ 42.6% เมื่อเทียบกับรายได้ปี 60
ด้านรายได้ของ Airbnb 9 เดือนแรก ปี 63 อยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้รายได้ชะลอตัวลงที่ 32.0% เมื่อเทียบกับรายได้ 9 เดือนแรก ปี 62
DoorDash แพลตฟอร์มออนไลน์ ให้บริการขนส่งอาหารถึงที่
สร้างประสบการณ์ที่สะดวกสบายให้กับลูกค้า
ตัวเลข ณ วันที่ 30 ก.ย. 63 บริษัทมีจำนวนลูกค้ากว่า 18 ล้านราย จำนวนเจ้าของร้านอาหารที่เข้าร่วมกว่า 390,000 ร้านค้า และจำนวนผู้ส่งอาหาร หรือธุรกิจเรียกว่า “Dasher” ที่มากกว่า 1 ล้านราย โดย DoorDash ยังคงมองว่า โอกาสในการทำธุรกิจประเภทนี้ในตลาดสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่มาก จากการที่ในปี 62 คนอเมริกันใช้จ่ายกว่า 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 45.5 ล้านล้านบาท ในการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม
โดย 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 18.2 ล้านล้านบาท มาจากการซื้ออาหารในร้านอาหาร หรือผ่านการบริการอาหารแบบต่าง ๆ เช่น คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหารแบบ Full-service และตู้ขายอาหารอัตโนมัติ เป็นต้น อีกทั้งบริษัทยังมองว่าคนยุคใหม่ มักจะเลือกใช้จ่ายกับร้านอาหารนอกบ้านมากขึ้นและทำอาหารเองน้อยลง
รายได้ของ DoorDash ในปี 62 อยู่ที่ 885 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่ 204.1% อย่างไรก็ตาม ในปี 62 DoorDash ขาดทุนสุทธิที่ 667 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติ สำหรับธุรกิจ Start up และหากเปรียบเทียบ DoorDash กับธุรกิจอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า DoorDash มีคู่แข่งที่สำคัญ อาทิ GrabFood ของสิงคโปร์, Lineman ของไทย, และ UberEats ของสหรัฐฯ
ด้านรายได้ 9 เดือนแรกปี 63 อยู่ที่ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 5.8 หมื่นล้านบาท มากกว่ารายได้ 9 เดือนแรก ปี 62 ที่ 226.4%
Roblox แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ให้ผู้ใช้ได้สร้างและพัฒนา
มีประสบการณ์ไปกับเกมออนไลน์
ตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงก.ย. 63 Roblox มีจำนวนผู้ใช้งานต่อวันอยู่ที่ 31.1 ล้านราย ในกว่า 180 ประเทศ อีกทั้งจำนวนชั่วโมงที่ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มอยู่ที่ 22.2 พันล้านชั่วโมง เพิ่มขึ้น 122% จาก 9 เดือนแรกปี 62 สร้างรายได้ให้กับ Roblox ที่ 589 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โตขึ้นที่ 68% จาก 9 เดือนแรกปี 62 เช่นกัน
Roblox เป็นธุรกิจที่สร้างขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้สร้างและพัฒนาเกมขึ้นมาเอง โดยลูกค้าจะเป็นผู้สร้างและพัฒนา Content ในเกมนั้น ๆ ตั้งแต่การสร้างตัวละครภายในเกม ตั้งแต่การเลือกร่างกาย เสื้อผ้า และเครื่องมือต่างๆ เป็นต้น อีกทั้งผู้ใช้งานสามารถเลือกสร้างและเลือกเล่นในโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และแพลตฟอร์มคอนโซล ฯลฯ
แพลตฟอร์มของ Roblox ถูกแบ่งออกเป็น…
- Roblox Client เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้มีประสบการณ์ในโลกดิจิตัลแบบ 3D
- Roblox Studio เป็นชุดเครื่องมือที่สร้างขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ในการสร้างและพัฒนาเกมแบบ 3D และเกี่ยวข้องกับ Roblox Client
- Roblox Cloud ให้บริการด้านคลาวด์ เพื่อสนับสนุนสินค้าหลักอย่าง Roblox Client และ Roblox Studio
คู่แข่งของ Roblox ได้แก่ Unity Software Inc. ผู้ซึ่งเพิ่งทำการ IPO ไปเมื่อไม่นานมานี้และเริ่มซื้อขายวันแรกในวันที่ 18 ก.ย. 63 หากเปรียบเทียบในเรื่องของรายได้จะเห็นได้ว่า รายได้ 9 เดือนแรกปี 63 ของ Roblox มากกว่ารายได้รวมของ Unity ที่ 1.9 เท่า
“2 ธุรกิจยูนิคอร์น” ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ และมีผลตอบแทนของหุ้นดี มีหุ้นอะไรกันบ้าง?
Snowflake (SNOW)
วันแรกที่ทำการซื้อขายในตลาดหุ้น: วันที่ 16 ก.ย. 2563
ธุรกิจสัญชาติสหรัฐฯ ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud ให้กับธุรกิจ โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2555 และปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 3,000 รายแล้ว และจำนวนครั้งเฉลี่ยที่ใช้บริการต่อวันอยู่ที่ 500 ล้านครั้ง (คำนวณภายในเดือนก.ค. 63 ที่ผ่านมา)
ที่มา: Snowflake.com
รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากการขายสินค้าประเภท Cloud ไม่ว่าจะเป็น Data Engineering, Data Lake, และ Data Warehouse อีกทั้งในไตรมาสล่าสุด (1 พ.ค. – 31 ก.ค. 63) Snowflake สามารถสร้างรายได้ที่ 125.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 94.1% ของรายได้ทั้งหมด และอีกแหล่งรายได้หนึ่ง ได้แก่ การให้บริการแบบ Professional (Professional Services) ที่ 7.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 5.9% ของรายได้ทั้งหมด
ที่มา: Investors.snowflake.com
รู้หรือไม่!? ในปัจจุบัน (26 พ.ย. 63) Warren Buffet มีหุ้น Snowflake ที่สัดส่วน 15.16% หรือที่ 6.12 ล้านหุ้น จึงทำให้ CEO ของ Snowflake คุณ Frank Slootman ได้เผยกับ Yahoo Finance ว่า Buffet เริ่มจะสนใจและตระหนักในเทคโนโลยีมากขึ้น และในปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นใน Snowflake มากเป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท Sequoia Capital Operations LLC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนสัญชาติอเมริกัน (Venture Capital)
Unity Software Inc. (U)
หนึ่งในธุรกิจยูนิคอร์นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (NYSE)
วันแรกที่ทำการซื้อขายในตลาดหุ้น: 18 ก.ย. 2563
ที่มา: Unity.com
Unity ธุรกิจที่ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับสร้างและดำเนินการเนื้อหาแบบ Real-time 3D (R3D) และแบบ Interactive นับรวมไปถึงการพัฒนาเกม การออกแบบรถยนต์ การผลิตภาพยนตร์ & แอนิเมชัน และการออกแบบทางสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง ซึ่งถือว่า Unity เป็นผู้ผลิตแพลตฟอร์มหรืออาจเรียกได้ว่า “Software Solutions” ที่สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เกมคอนโซล และอุปกรณ์ AR และ VR ได้แบบไม่จำกัด
รายได้รวมของ Unity ในไตรมาส 3 ปี 63 (1 ก.ค. – 30 ก.ย. 63) อยู่ที่ 200.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งออกเป็นรายได้จาก Operate Solutions ที่ 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 59.8% ของรายได้รวม, รายได้จาก Create Solutions ที่ 62.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 31.2% ของรายได้รวม, และรายได้จากคู่ค้าทางธุรกิจ Strategic Partners และรายได้อื่นอีก 18.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 9.0% ของรายได้ทั้งหมด
Operate Solutions การให้บริการด้านซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้น เพื่อให้ End-user ได้ใช้งานและสร้างรายได้จากเกมที่ได้พัฒนาขึ้น รายได้ที่ Unity ได้รับ เกิดจากค่าธรรมเนียมรายเดือนที่เรียกเก็บจากลูกค้า
Create Solutions ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สร้างและพัฒนาแอพลิเคชั่นและเกม Real-time แบบ 2D และ 3D ด้วยตนเอง โดยรายได้มาจากค่าธรรมเนียมในการใช้โปรแกรมและบริการเสริมอื่นๆ ที่ Unity เรียกเก็บแบบรายเดือนและรายปี (Subscriptions)
ที่มา: Unity’s S-1
ที่มา: Unity Presentation
ที่มา: MarketWatch, Masterthemeta, Airbnb, DoorDash, Roblox, Unity, Snowflake
📌 เปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศออนไลน์ง่ายๆ สไตล์ BLS Global Investing ได้ที่ https://bls.tips/openglobalinvesting