
แนะนำ
สวัสดีปีใหม่ ปีมังกรทอง 2567 ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับผู้อ่านทุกท่านลงทุนสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจนะคะ โอกาสในการสร้างกำไรบนตลาดหุ้นยังมีอยู่เสมอ ถึงแม้ในสถานการณ์ที่ตลาดยังมีแนวโน้มที่ไม่จัดเจนว่าจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกเมื่อใด มีวันที่บวก ลบ และวันที่นิ่งไม่ไปไหนไกล แต่นักลงทุนหน้าใหม่หลายท่านก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาในตลาดทุนนี้และยังคงต้องศึกษาหาความรู้เสริมอาวุธในการต่อสู้กับมืออาชีพในตลาด
เครื่องมือสำหรับเก็งกำไรอย่าง DW ยังคงอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุน ใช้เพิ่มอัตราทด เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไร ให้พอร์ตเติบโตได้ทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง แต่นักเก็งกำไรมือใหม่จำนวนไม่น้อยอาจยังไม่มั่นในการอ่านสเปค หรือเลือกซื้อ DW ที่เหมาะสมกับตนเองอยู่ ครั้งนี้เราพามาทบทวน 3 สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ต้องเข้าใจก่อนที่จะลงสนามเทรด DW คืออะไรบ้างลองไปติดตามกันค่ะ

1. Effective Gearing เป็นค่าที่บอกว่าถ้าราคาหุ้นอ้างอิงเปลี่ยนไป 1% ราคา DW จะเปลี่ยนไปประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ พูดง่ายๆ คือ DW ทำให้มีอัตราทดในการลงทุน จึงทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้น เช่น Call DW ที่มีอัตราทด 5 เท่า เมื่อหุ้นอ้างอิงปรับตัวขึ้น 1% Call DW จะปรับตัวขึ้นประมาณ 5% หรือ Put DW ที่มีอัตราทด 5 เท่า เมื่อหุ้นอ้างอิงปรับตัวลง 1% Put DW จะปรับตัวขึ้นประมาณ 5% เป็นต้น
เราควรเทรด DW ที่อัตราทดเท่าไหร่? เป็นคำถามที่ถูกถามเข้ามาเยอะมาก เพราะจากสถิติ นักเทรด DW ส่วนมากจะชอบ DW อัตราทดสูงๆ เนื่องจากสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้นหากคาดการณ์ทิศทางหุ้นแม่ถูกต้อง แต่ในทางกลับกันหากหุ้นแม่เคลื่อนไหวผิดทางก็จะเสียหายได้มากเช่นกัน ดังนั้น DW ที่มีอัตราทด “สูง” ไม่ได้บ่งบอกว่า “ดี” เสมอไป แต่กำลังบอกว่า DW ตัวนั้นจะมีการเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงเร็วและแรงขึ้นเท่านั้นเองการเลือกอัตราทด มากน้อยขึ้นกับความมั่นใจและการบริหารเงินบนหน้าตัก รวมถึงกลยุทธ์การเทรดในครั้งนั้นๆ
คำถามที่ว่าเทรด DW ที่อัตราทดเท่าไหร่ดีที่สุดนั้น คงไม่มีคำตอบตายตัว หากจะหาคำตอบที่ใกล้เคียงคงต้องตอบว่า ให้เลือกเทรด DW ที่อัตราทด “เหมาะสม” กับตัวเอง ทั้งในแง่ สไตล์การเทรด ความเสี่ยงที่รับได้ ถือสั้นหรือยาว รวมถึงภาวะตลาด ณ ตอนนั้นเป็นเช่นไร ซึ่งแต่ละคนคงมีมาตรวัด “ความเหมาะสม” ที่ไม่เหมือนกัน
2. Sensitivity เป็นค่าที่บอกว่าถ้าราคาหุ้นอ้างอิงเปลี่ยนไป 1 ช่อง ราคา DW จะเปลี่ยนไปประมาณกี่ช่อง หากถามว่าเลือก DW ที่ Sensitivity เท่าไหร่ดี คงต้องบอกว่าไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวเช่นกัน แต่นักลงทุนส่วนมากนิยมเลือก DW ที่ Sensitivity ใกล้ 1 เพราะราคา DW จะได้เคลื่อนไหวตามหุ้นแม่ช่องต่อช่อง ง่ายต่อการว่างแผนในการเทรด แต่ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับสไตล์และแผนการเทรดของแต่ละคน เช่น Day trade เน้นซื้อขายจบในวันมักเลือก DW ขยับดี Sensitivity ใกล้ 1 เป็นต้น
3. Time Decay (ค่าเสื่อมเวลา) เป็นค่าที่บอกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1 วัน ราคา DW จะลดลงประมาณกี่เปอร์เซนต์ ซึ่งค่าเสื่อมเวลาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักเทรดควรให้ความสำคัญเพราะเป็นต้นทุนในการถือครอง ต้นทุนที่นักลงทุนต้องจ่ายเพื่อการได้มาของ Gearing (อัตราทด) เพราะ DW ที่อัตราทดสูงมากขึ้นเท่าไหร่ Time decay ก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว จึงพอประเมินได้ว่าหากต้องการเทรด DW ที่อัตราทดสูงขึ้น คงต้องมาพร้อมกับค่าเสื่อมเวลาที่สูงขึ้นด้วย เราจึงควรถือครอง DW ให้สั้นตามหากเลือกเทรด DW ที่อัตราทดสูงเพื่อไม่ให้มีต้นทุนในการถือ DW ที่สูงเกินไป หรือเลือก DW ที่ค่าเสื่อมเวลาต่ำลงมาหน่อย ลดอัตราทดลงมาเพื่อถือครองเกาะเทรนด์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ทั้งหมดก็เป็น 3 สิ่งสำคัญที่นักเทรด DW มือใหม่ต้องเข้าใจก่อนลงสนาม เพื่อจะได้วางแผนเทรดได้มีประสิทธิภาพ เลือก DW ได้เหมาะสมกับสไตล์ของตนเองมากขึ้น และหัวใจการลงทุน DW อย่างยั่งยืนคือต้องมีวินัย วางแผนการลงทุนจากตาราง กำหนดจุดซื้อ จุดขายทำกำไร และจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจนก่อนลงทุน และต้องหมั่นตรวจสอบสุขภาพพอร์ตลงทุน DW อย่างใกล้ชิด
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ ได้ ผ่าน Wealth CONNEX เมนู Knowledge แอปที่รวบรวมครบทุกความรู้การลงทุน พร้อมคำถามและคำตอบเรื่อง DW01 หุ้นไทย DR01 หุ้นโลก อนุพันธ์ กองทุน TESG / SSF / RMF และเครื่องมือด้านการลงทุนต่าง ๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111
-----------------------------------------------
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก
อย่าเพิ่งเทรด DW ถ้ายังไม่ได้ดูคลิป DW01 Tips Playlist คลิก
ค้นหา DW01 ที่น่าสนใจที่เว็บไซต์ www.blswarrant.com