ซื้อหุ้นแล้วถือยาว ๆ หรือจะเทรดดิ้งหาค่าขนมสั้น ๆ การจะตัดสินใจเลือกสองแนวทางนี้น่าจะเป็นปัญหาคาใจของหลายคน ว่าท้ายที่สุดแล้วแบบไหนดีกว่ากัน ? บางคนก็เชื่อว่ายาว ๆ ดีกว่า และบอกตัวเองว่า "นี่ฉันเป็นนักลงทุนระยะยาว ซื้อวันนี้ พรุ่งนี้ขาย..." เอิ่มมม แบบนี้เรียกระยะสั้นครับ ระยะยาวที่ว่ามันต้อง 5 ปี 10 ปีนู่น ทีนี้วันนี้เราจะมาวัดกันไปข้างเลยครับ ว่าท้ายที่สุด ถือหุ้นยาว กับ เทรดหุ้นสั้น แบบไหนดีกว่ากัน?

ผมได้ลองนำราคาหุ้นไทย (รวมเงินปันผล) ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2002 มาคำนวณหาว่า ตลอดระยะเวลา 15 ปี หากเราซื้อขายทุก ๆ 1 ปี 2 ปี ไปเรื่อย ๆ จนถือยาวสุด 10 ปีถึงจะซื้อขาย จะให้ผลตอบแทนและความผันผวนเฉลี่ยเป็นอย่างไร ซึ่งตัวเลขที่ออกมาต้องร้อง ว้าว เลยล่ะครับ

ผลตอบแทนใกล้เคียงกัน ... แต่ความเสี่ยงนั้นช่างแตกต่าง

การลงทุนตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 14.7% ซึ่งต้องบอกว่า "ใกล้เคียงกันมาก ๆ" ต่างกันกับความเสี่ยง หรือความผันผวน ที่จากผลการวิจัยของผมนั้นพบว่า "ยิ่งเราลงทุนยาวเท่าไหร่ ความเสี่ยงจะยิ่งน้อยลง" หรือพูดอีกแบบหนึ่งก็คือ "ลงทุนสั้น ๆ มีโอกาสสูงมากที่จะได้ผลตอบแทนผิดคาด" ครับ

ลองดูภาพนี้ก็ได้ครับ ผมเปรียบเทียบให้เห็นจะ ๆ ไปเลยว่าโอกาสที่จะเกิดผลตอบแทนต่าง ๆ ของการลงทุน 1 ปีนั้นกว้างมาก คือคุณลงทุนแล้วมีโอกาสได้ผลตอบแทนตั้งแต่ 74.9% ถึง -39.15% ต่อปีเลยทีเดียว พูดง่าย ๆ "ไม่เจ๊งก็เจี๊ย" ในขณะที่การลงทุนระยะยาวแบบ 10 ปี ช่วงของผลตอบแทนนั้นจะอยู่ที่ 18.9% ถึง 8.12% ต่อปี ... ไม่ขาดทุน! (OMG)

บทสรุป ...

• ยิ่งยาว ยิ่งดี ... เอ่ออ หมายถึงระยะเวลาในการลงทุนนะครับ ...
• เพราะการลงทุนในหุ้น ยิ่งลงทุนยาว ความผันผวนหรือโอกาสผิดคาดยิ่งน้อย
• แต่ถ้าลงหุ้นผิดตัว ลงทุนเป็นร้อยปีก็ไม่ได้ผล...
• ผลการวิจัยนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องซื้อหุ้น 10 ปีแล้วห้ามขายนะ
• ธุรกิจเปลี่ยนแปลงเสมอ พอลงทุนไปแล้ว คุณต้องให้เวลากับมันในการติดตามผล ดูงบบ้าง เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาด ระหว่างปีจะได้ปรับพอร์ตเปลี่ยนหุ้น
• สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่ว่าการลงทุนของคุณจะเป็นยังไง คุณต้อง Live & Learn และอยู่กับตลาดหุ้นให้นานที่สุด"
• ทิ้งท้ายด้วยคำคมเด็ด ๆ ...

"เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ส่วนมะกรูดเป็นเครื่องต้มยำ ... สวัสดีครับ"

ปริพรรห์ ปริยอุดมทรัพย์ CFP®