
บริการ
Tools
สอนลงทุน
อย่างที่ทุกคนรู้ว่า เมื่อไรก็ตามที่เราคิดจะซื้อหรือขายหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนั้น มันต้องเกิดมาจากการวิเคราะห์หุ้นจากปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางเทคนิคกันมาแล้ว...ขึ้นอยู่กับว่าใครเรียกตัวเองว่าเป็นนักลงทุนแบบไหน
เป็นเส้นที่เราสร้างขึ้นให้เคลื่อนไหวใกล้ๆ แท่งเทียน โดยการคำนวณราคาของวันปัจจุบันและวันก่อนหน้ามารวมกัน แล้วหารด้วยจำนวนวันที่ต้องการเฉลี่ยทั้งหมด ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เรานิยมใช้งาน Exponential Moving Average หรือ EMA และคำถามต่อมาคือ ใช้เส้นค่าเฉลี่ยกี่วันดี...คำถามนี้จะฮิตมากๆ ซึ่งตอบได้เลยว่า...ขึ้นอยู่กับแนวทางการลงทุนของแต่ละคน เช่น
มาปฏิบัติตามที่ศึกษาข้างต้นกันเลย...เริ่มจากการเพิ่มเครื่องมือ (Indicator) ได้แก่ RSI, VOLUME จากนั้นมาวิเคราะห์กันเลย !!
ดูก่อนว่าการเคลื่อนไหวของ SET Index มีแนวโน้มเป็นอย่างไร ? จะเห็นว่าพอเราเริ่มใส่ Trend Line แล้ว จะเห็นชัดขึ้นว่าการเคลื่อนไหวนั้นอยู่ในกรอบ (Sideways) แคบๆ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,560 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,575 จุด ต่อมาวิเคราะห์ RSI โมเมนตัมเริ่มมีการฟื้นตัว เนื่องจาก RSI มีค่ามากกว่า 50
ทำไมถึงต้องอ่านกราฟ ?การวิเคราะห์ด้วยเทคนิคนั้นต่างกับพื้นฐานอย่างไร ? ...การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น ไม่ต้องอาศัยตัวเลขงบการเงินใดๆ หรือไม่ต้องวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินเลย หลักๆของการเทรดด้วยเทคนิค คือ กราฟ ซึ่งสมมติฐานทางเทคนิคเชื่อว่า ข่าวสารทุกอย่างจะสะท้อนออกมาในรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาแล้ว เช่น มีหุ้นตัวนึงงบออกมาดีมาก กราฟราคาก็จะขึ้นตอบรับข่าวนั้นๆ ...แล้วทำไมถึงต้องอ่านกราฟหล่ะ ? เพราะการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานนั้น เพียงจะทำให้เรารู้มูลค่าที่แท้จริงเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับราคาตลาด ซึ่งเราจะไม่มีทางรู้เลยว่าต้องเข้าซื้อขายตรงไหนดี...แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น จะช่วยให้เรามีจังหวะในการซื้อขายที่แม่นยำขึ้นนั่นเอง!!
เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Indicator) สำหรับมือใหม่...เพื่อใช้วิเคราะห์หาจุดเข้าซื้อและจุดขาย หาแนวโน้ม แนวรับ แนวต้าน ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจลงทุน...
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)

- 5-10 วัน ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
- 25 วัน ใช้สำหรับการลงทุนระยะค่อนข้างปานกลาง
- 55 วัน ใช้สำหรับการลงทุนระยะกลาง
- 200 วัน ใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว
- RSI ชื่อเต็มๆ เรียกว่า Relative Strength Index เครื่องมือที่นำมาใช้วัดแนวโน้ม หรือ Momentum ของราคาหุ้น เพื่อใช้ประกอบกับการดูเทรนของราคา โดยจะมีค่าระหว่าง 0-100 - RSI วัดความแกว่งของราคาหุ้น เพื่อดูสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) - ระดับเหนือ 70% บอกภาวะ Overbought และระดับต่ำกว่า 30% บอกสภาวะ Oversold - ควรระวังการใช้ RSI ในช่วงที่หุ้นอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง

- Volume หรือ ปริมาณการซื้อขาย บอกระดับความสนใจหรือความกระตือรือร้นของนักลงทุน / ตามหลักการเทคนิคอลการอ่าน Volume สามารถใช้ยืนยันการเกิดหรือการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลัก / ให้สังเกตวันหรือช่วงเวลาที่มา Volume Peak หรือมากผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของการเกิดแนวโน้มใหม่หรือจบแนวโน้มเดิม
ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย!!
- วิธีการเข้าใช้งานโปรแกรมกราฟ Aspen คลิกที่นี่
- วิธีการเข้าใช้งานโปรแกรมกราฟ efinanceThai คลิกที่นี่
Case Study : เราจะเปิดกราฟ SET Index พร้อมวิเคราะห์ไปพร้อมๆกัน...

เรียนออนไลน์...การใช้งาน Aspen เบื้องต้น และการใช้งาน e-Fin StockPickup...


SN
Tips
บริการ
สอนลงทุน
บริการ
หุ้น
แนะนำ