สำหรับการซื้อขายสินค้าใน TFEX ระบบจะทำการปรับมูลค่าตามราคาตลาด (Mark to Market) ทุกสิ้นวันทำการ ด้วยราคาที่ใช้ชำระราคา (Settlement Price) เพื่อคำนวณกำไร/ขาดทุนจากสถานะที่นักลงทุนถืออยู่ และทำการปรับมูลค่าหลักประกันของพอร์ต

หลังจากที่เราได้รู้จักระดับหลักประกันต่าง ๆ กันไปแล้ว (อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่) หากนักลงทุนไม่สามารถรักษาระดับหลักประกันของบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดได้ นักลงทุนจะถูกเรียกให้นำเงินมาวางหลักประกันเพิ่ม

กระบวนการเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call)

หลังตลาดปิดทำการซื้อขายภาคปกติของวันที่ T เมื่อพอร์ตถูกปรับมูลค่าหลักประกันด้วยวิธี Mark to Market แล้ว พบว่าระดับหลักประกันในพอร์ต (Equity Balance: EB) ลดลงต่ำกว่าระดับหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin: MM) นักลงทุนจะถูกเรียกให้นำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) ไม่ต่ำกว่าจำนวนที่ทำให้ EB กลับมาที่ระดับหลักประกันเริ่มต้น (Initial Margin: IM) ภายในวันที่ T+1 ก่อนตลาดปิดทำการซื้อขายภาคปกติหนึ่งชั่วโมง (เวลา 15.55 น. ของวันที่ T+1)

นักลงทุนสามารถเลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

1. นำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม ทั้งจำนวนที่ถูกเรียก
2. ปิดสถานะ เท่ากับจำนวนที่ถูกเรียก
3. ปิดสถานะบางส่วนและนำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่มบางส่วน

Timeline กรณี Margin Call

หมายเหตุ: หากระดับหลักประกันในพอร์ตดีขึ้นจนทำให้ระดับ EB สูงกว่าระดับ IM นักลงทุนยังคงมีภาระที่ต้องดำเนินการตามข้างต้นอยู่

กระบวนการปิดฐานะ (Force Close)

กรณี Force Close จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา ดังนี้

เมื่อพอร์ตถูกปรับมูลค่าหลักประกันด้วยวิธี Mark to Market แล้ว พบว่า EB ลดลงต่ำกว่าระดับหลักประกันปิดฐานะระหว่างวัน (Force Close Margin: FM) นักลงทุนจะถูกเรียกให้นำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม เพื่อให้ EB กลับมาที่ระดับ MM ก่อนตลาดปิดทำการซื้อขายภาคปกติ 1 ชั่วโมง (เวลา 15.55 น. ของวันที่ T) หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด จะถูกบังคับปิดสถานะ

นักลงทุนสามารถเลือกนำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม หรือปิดสถานะบางส่วน เพื่อให้ EB >= MM ภายในเวลา 15.55 น. ของวันที่ T

Timeline กรณี Force Close หลังตลาดปิดทำการซื้อขายภาคเช้า

หมายเหตุ: หากระดับหลักประกันในพอร์ตดีขึ้นจนทำให้ระดับ EB สูงกว่าระดับ MM นักลงทุนยังคงมีภาระที่ต้องดำเนินการตามข้างต้นอยู่

เมื่อพอร์ตถูกปรับมูลค่าหลักประกันด้วยวิธี Mark to Market แล้ว พบว่า EB ลดลงต่ำกว่าระดับ FM นักลงทุนจะถูกเรียกให้นำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม เพื่อให้ EB กลับมาที่ระดับ MM ก่อนตลาดปิดทำการซื้อขายภาคเช้า 1 ชั่วโมงของวันทำการถัดไป (เวลา 11.30 น. ของวันที่ T+1) หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด จะถูกบังคับปิดสถานะ

นอกจากนี้ ผลของการที่มี EB ต่ำกว่าระดับ MM ในวันที่ T ทำให้นักลงทุนยังคงมีหน้าที่ในการนำเงินมาวางหลักประกันเพิ่มตามกระบวนการ Margin Call โดยจะต้องนำเงินมาวางหลักประกันเพิ่มเพื่อให้ EB กลับมาที่ระดับ IM ก่อนตลาดปิดทำการซื้อขายภาคปกติ 1 ชั่วโมงของวันทำการถัดไป (เวลา 15.55 น. ของวันที่ T+1)

Timeline กรณี Force Close หลังตลาดปิดทำการซื้อขายภาคปกติ

นักลงทุนสามารถเลือกนำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม หรือปิดสถานะบางส่วน 

• เพื่อให้ EB >= MM ภายในเวลา 11.30 น. ของวันที่ T+1 
• เพื่อให้ EB >= IM ภายในเวลา 15.55 น. ของวันที่ T+1 

หมายเหตุ: หากระดับหลักประกันในพอร์ตดีขึ้นจนทำให้ระดับ EB สูงกว่าระดับ IM นักลงทุนยังคงมีภาระที่ต้องดำเนินการตามข้างต้นอยู่

📌 สนใจเปิดบัญชี TFEX/Block Trade ออนไลน์ กับหลักทรัพย์บัวหลวง คลิกที่นี่

เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ อนุมัติไว ง่าย ๆ ผ่านแอป Wealth Connex