เจาะลึกมุมมองการลงทุน ปี 2024

Tips

เจาะลึกมุมมองการลงทุน ปี 2024
The Last Mile Lock 'N Load Outlook 2024

เกิดอะไรขึ้นในปี 2023

ถึงแม้ว่าเส้นทางการลงทุนในปี 2023 จะมีความผันผวนปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี แต่สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนดีกว่าปี 2022 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่ให้ไว้ใน Outlook Report 2023 MIND YOUR STEP โดยความเสี่ยงหลักในปี 2023 คือ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ FED ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน (High For Longer) และยังไม่มีความคิดที่จะลดดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ได้ง่าย ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ความแตกต่างระหว่างเฟดกับตลาดในเรื่องทิศทางดอกเบี้ย สร้างความผันผวนต่อการลงทุน นอกจากนี้ตลาดยังถูกปกคลุมด้วยความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ เกิดสงครามความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล–ฮามาสขึ้น กดดันบรรยากาศการลงทุน

และจะเกิดอะไรขึ้นในปี 2024

ในปี 2024 ปัจจัยหลักที่จะกำหนดทิศทางตลาดประกอบด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ แนวโน้มเงินเฟ้อ เศรษฐกิจ และดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะให้น้ำหนักต่อการลงทุน ซึ่งมุมมองต่อ 3 ปัจจัยดังกล่าว หากพิจารณาจากมุมมอง Global Funds House ทั่วโลก จะเห็นได้ว่า แนวโน้มเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอตัวลดลง คาดว่าเศรษฐกิจจะสามารถ Soft Landing มากกว่า Hard Landing ซึ่งเป็นเพียงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในครึ่งปีแรกของปี 2024 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเรา

ธีมการลงทุนที่น่าสนใจในปี 2024

High Level ยิ่งสูง ยิ่งหนาว

อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ในระดับสูง ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเริ่มจำกัด และใกล้ยุติวงจรขาขึ้น โดยมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยมีโอกาสปรับตัวลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยยังคงปกคลุมตลาด ทำให้ตราสารหนี้มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะระยะกลางถึงยาว และช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน

High Quality เติบโตอย่างคุณภาพ ในราคายุติธรรม

เนื่องจาก Upside ตลาดหุ้นอยู่ในระดับปานกลาง ทำให้เราต้องเน้นลงทุนในหุ้นที่เติบโตดี มีคุณภาพ ราคาไม่แพง พร้อมมีปัจจัยสนับสนุน หุ้นอินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม รวมถึงกลุ่ม Healthcare และ High Quality

High Turnaround มีลง ก็ต้องมีขึ้น

ตลาดหุ้นจีน และไทย ต่างให้ผลตอบแทนแย่ในปี 2023 รั้งท้ายตาราง แต่ด้วย Valuation ที่ถูก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น มีโอกาสที่จะพลิกฟื้นกลับมาในปี 2024 และปัจจัยกดดันเริ่มมีโอกาสคลี่คลายขึ้น

High Protect กระจายความเสี่ยงด้วยทองคำ

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดการณ์ได้ยาก และแนวโน้มดอกเบี้ยที่จะเป็นขาลงมากกว่าขาขึ้น ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจ ติดพอร์ตการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง

BLS Top Funds Pick 2024 กองทุนตัวท็อปสไตล์ BLS Top Funds

ABGFIX-A กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี อายุเฉลี่ยตราสารของพอร์ตน้อยกว่า 2 ปี ช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจเปลี่ยนแปลงจากนโยบายการเงิน
KT-WCORP กองทุนตราสารหนี้ระยะยาวคุณภาพดีทั่วโลก มีความน่าสนใจหลังดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในระยะข้างหน้า
TMBEG กองทุนหุ้นยุโรป กองทุนหลักเลือกสไตล์หุ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด มีสไตล์บริหารพอร์ตค่อนข้างยืดหยุ่น ปรับพอร์ตได้ทันท่วงที
B-BHARATA กองทุนหุ้นอินเดีย ลงทุนในหุ้นอินเดียขนาดใหญ่และกลาง กองทุนมีผลงานโดดเด่นสม่ำเสมอ มี MDD ต่ำ ขาลง ลงได้น้อยกว่า ขาขึ้น ขึ้นได้ดีกว่ากลุ่ม
UOBSGC กองทุนหุ้นจีน ลงทุนในหุ้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ขนาดใหญ่ มีรายได้สม่ำเสมอ พิสูจน์ด้วยการสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกเพียงกองเดียวในปี 2023 เมื่อเทียบกับกลุ่ม
ASP-SME-A กองทุนหุ้นไทย เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพในการเติบโต ให้ความสำคัญกับโมเดลธุรกิจ ผลการดำเนินการโดดเด่น เป็นผู้นำกลุ่มหุ้นไทย
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนหุ้นเวียดนาม ด้วยการบริหารจัดการจากผู้จัดการกองทุนทั้งไทยและเวียดนาม ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะในภาวะตลาดที่มีการฟื้นตัว เมื่อเทียบกับกลุ่ม
ES-INDONESIA กองทุนหุ้นอินโดนีเซีย ลงทุนแบบ High Conviction โดยเป็นกองทุน Active Funds กองเดียวในไทย ผลงานโดดเด่น
B-INNOTECH กองทุนหุ้นเทคโนโลยี เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี ที่เป็นผู้นำตลาด มีรายได้ และกำไรสม่ำเสมอ หลีกเหลี่ยงการลงทุนในหุ้นแพง กองทุนมีผลงานโดดเด่น ขาลง ลงได้น้อยกว่ากลุ่ม มี MDD ต่ำ
KFHEALTH-A กองทุนหุ้นสุขภาพ ลงทุนในหุ้นธุรกิจกลุ่ม Healthcare ทั่วโลก ลงทุนในธุรกิจทั้งแบบดั้งเดิม และนวัตกรรม ทำให้พอร์ตมีความผันผวนไม่สูงมาก
KFGBRAND-A กองทุนหุ้นทั่วโลก Top Brand เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลก Top Brand มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว
SCBGOLD กองทุนทองคำ ลงทุนผ่าน SPDR Gold Trust โดยเป็นการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ผลการดำเนินงานโดดเด่น และค่าธรรมเนียมกองทุนอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับกลุ่ม