
E-KYC หรือ แบบทบทวนข้อมูลลูกค้าและประเมินความเหมาะสมในการลงทุน คือ การทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) ผ่านระบบอิเล็กทรอกนิกส์ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องทำการเริ่มธุรกรรมทางการเงิน ตามเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าลูกค้าเป็นบุคคลที่ทำธุรกรรมจริง มีแหล่งที่มาของเงินทุน และทราบถึงผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง ตามกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน
โดย E-KYC เป็นการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ มาระบุตัวตน (Identification) และยืนยันตัวตน (Verification) แทนการใช้ระบบเดิม ที่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา
ทำไมถึงต้องทำ E-KYC และต้องทำบ่อยแค่ไหน
- เพื่อใช้รู้จักและพิสูจน์ตัวตนลูกค้าว่าเป็นบุคคลรายนั้นจริง เพื่อป้องการทุจริตจากการปลอมแปลงหรือใช้ข้อมูลบุคคลอื่นในการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงเพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
- ซึ่งการทำแบบทบทวนข้อมูลการรู้จักลูกค้า (KYC) ต้องคอยอัปเดตหรือปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันเสมอ ในทุก ๆ 2 ปี
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
ขั้นตอนการทำแบบประเมิน E-KYC ทำอย่างไร?
ขั้นตอนที่ 1 : Login เข้าสู่ระบบผ่าน https://www.bualuang.co.th
- Username : รหัสผู้ใช้งาน 6 หลัก
- Password : รหัสผ่าน
หากลืมรหัสผ่าน!! สามารถ Reset Password ได้ที่นี่
ขั้นตอนที่ 2 : เลือกที่เมนูหลัก “E-SERVICES” และเลือกเมนูย่อย “E-KYC” และจากนั้นกดที่ปุ่ม “แก้ไขข้อมูล”
ขั้นตอนที่ 3 : เริ่มทำแบบประเมิน E-KYC ดังนี้…
1. กรอกข้อมูล “ข้อมูลผู้ลงทุน”
โดยทำการกรอกข้อมูลที่อยู่, อาชีพ/สถานที่ทำงาน, สถานภาพสมรส, FATCA จากนั้นกดบันทึกและถัดไป
*ระบบจะแสดงข้อมูลเดิมให้โดยสามารถกด “เปลี่ยน” เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันได้
**กรณีมีการเปลี่ยนแปลงผู้รับมอบอำนาจ…ต้องนำส่งสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจถึงเจ้าหน้าที่การตลาดของท่านค่ะ
2. ทำแบบประเมิน “Suitability Test”
ลูกค้าทำแบบประเมินทั้ง 12 ข้อพร้อมทั้งดูผลคะแนนเพื่อดูความเสี่ยงในการลงทุนของตัวเอง จากนั้นกด บันทึกและถัดไป
3. ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน
กรณีที่ท่านเคยยืนยันตัวตนแล้ว ระบบจะแจ้งว่าท่านทำการยืนยันตัวตนเรียบร้อย โดยสามารถกดบันทึก และถัดไป
กรณีที่ท่านยังไม่เคยยืนยันตัวตน ต้องทำการยืนยันข้อมูลบัตรประชาชน พร้อมทั้งถ่ายรูปหน้าบัตรประชาชนและถ่ายรูปหน้าตรงเพื่อทำการเปรียบเทียบใบหน้ากับบัตรประชาชน
Step 1 : กรอกข้อมูลบัตรประชาชนเพื่อยืนยันข้อมูลบัตรกับกรมการปกครอง
Step 2 : ถ่ายรูปหน้าบัตรประชาชนโดยถ่ายให้เห็นหน้าบัตรประชาชนอย่างชัดเจน
Step 3 : ถ่ายรูปหน้าตรงของท่าน โดยถ่ายให้เห็นใบหน้าชัดเจน และอยู่ในที่แสงสว่างเพียงพอ
เมื่อทำการถ่ายรูปหน้าบัตรประชาชนและถ่ายรูปหน้าตรงของท่านเรียบร้อยแล้วระบบจะทำการเปรียบเทียบใบหน้าของท่านว่าตรงกันหรือไม่
กรณีทำการยืนยันตัวตนและเปรียบเทียบใบหน้าสำเร็จ ระบบจะแจ้งเตือนว่าดำเนินการเรียบร้อย ให้กด “บันทึก” และ “ถัดไป”
กรณีทำการยืนยันตัวตนและเปรียบเทียบใบหน้าไม่สำเร็จ ระบบจะแจ้งเตือนว่าไม่สามารถยืนยันตันตนได้ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
กรณีทำการเปรียบเทียบใบหน้า ไม่สำเร็จครบ 3 ครั้ง ระบบจะแจ้งเตือนว่าทำรายการไม่สำเร็จและท่านสามารถกด “ถัดไป” เพื่อดำเนินการต่อได้ก่อน และรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาอนุมัติอีกครั้งในภายหลัง โดยจะแจ้งผลให้ทราบทางอีเมล
4. คลิกปุ่ม “ส่งข้อมูล” เพื่อยืนยัน
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วคลิก “ส่งข้อมูล” ระบบจะแสดงหน้าจอว่าท่านได้ทำแบบประเมินเรียบร้อยแล้ว
และท่านจะสามารถส่งคำสั่งซื้อหลักทรัพย์ได้ตามปกติในวันทำการถัดไป…
คำถามที่พบบ่อย
Q: สำหรับกรณีที่เปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน 3 ครั้ง จะเป็นอย่างไร
A: ระบบจะแจ้งว่ารอการอนุมัติ และจะได้รับอีเมลแจ้งว่ารอการอนุมัติ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วจะแจ้งผลว่า ดำเนินการสำเร็จหรือยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ ทางอีเมลอีกครั้ง
Q: หากลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรติดต่อ ต้องทำ SMS OTP ใหม่หรือไม่?
A: ระบบจะดำเนินการยืนยันเบอร์โทรติดต่อของลูกค้าอีกครั้ง!!โดยกด “ขอรับรหัส OTP”
Q: การทำ E-KYC ด้วยตัวเองกับทำผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด แตกต่างกันอย่างไร
A: ดำเนินการผ่านออนไลน์สะดวกกว่า!
Tips : ฝากเงินเข้าพอร์ตทำยังไง…ตรวจสอบยอดเงินที่ฝากได้จากไหน ? คลิกที่นี่
- สมัครบริการ E-ATS ได้ผ่านธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย
- รออนุมัติ 1 – 2 วันทำการ
- โอนเงินเข้าพอร์ตลงทุนรวดเร็วทันใจ
เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ อนุมัติไว ง่าย ๆ ผ่านแอป Wealth Connex