4-sp500
4-sp500

4 ข้อควรรรู้ของ “ดัชนีเอสแอนด์พี 500”

4 ข้อควรรรู้ของ “ดัชนีเอสแอนด์พี 500”

AW_SP_190821-1-min.jpg

ดัชนี S&P 500 คืออะไร

S&P 500 ย่อมาจาก Standard & Poor’s 500 หนึ่งในดัชนีที่แสดงถึงเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่จำนวน 500 บริษัท คำนวณโดยวิธีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด (Market cap) โดยมีขนาดราว 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งหมด

ดัชนี S&P 500 เกิดขึ้นได้อย่างไร  

ดัชนี S&P 500 ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2500 โดยบริษัท Standard & Poor’s บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน สัญชาติสหรัฐฯ โดย Standard & Poor’s เป็นบริษัทลูกของบริษัท McGraw-Hill บริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักด้านการตีพิมพ์วิจัยด้านการเงินและบทวิเคราะห์หุ้นและพันธบัตร

 

บริษัท Standard & Poor’s เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างดัชนีตลาดการเงิน ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย และเป็นหนึ่งในสามบริษัทยักษ์ใหญ่ (Big Three) ผู้ให้บริการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือ Credit Rating

 

หุ้นในดัชนี S&P 500 มีทั้งหมดกี่ตัว? และสัดส่วนของหุ้นในดัชนี S&P 500 10 อันดับแรก เป็นหุ้นอะไรบ้าง?

หุ้นในดัชนี S&P500 ประกอบไปด้วยหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่จำนวน 505 ตัวจากทั้งหมด 500 บริษัท โดยเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (New York Stock Exchange) และตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ Composite

 ดัชนี S&P 500 มักจะถูกใช้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดเพื่อสะท้อนถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ กว่า 500 บริษัท

 

วันนี้ BLS Global Investing อยากจะชวนมาความรู้จัก 10 หุ้นที่มีสัดส่วนมากที่สุดในดัชนี S&P 500

(ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 64)

 

  1. Apple (AAPL) คิดเป็นสัดส่วน 6.2% ของดัชนี
  2. Microsoft (MSFT) คิดเป็นสัดส่วน 5.8% ของดัชนี
  3. Amazon (AMZN) คิดเป็นสัดส่วน 3.8% ของดัชนี
  4. Facebook (FB) คิดเป็นสัดส่วน 2.3% ของดัชนี
  5. Alphabet (GOOGL) Class A คิดเป็นสัดส่วน 2.2% ของดัชนี
  6. Alphabet (GOOG) Class C คิดเป็นสัดส่วน 2.1% ของดัชนี
  7. Tesla (TSLA) คิดเป็นสัดส่วน 1.4% ของดัชนี
  8. Berkshire Hathaway (BRK.B) คิดเป็นสัดส่วน 1.4% ของดัชนี
  9. Nvidia (NVDA) คิดเป็นสัดส่วน 1.3% ของดัชนี
  10. JPMorgan Chase & Co (JPM) คิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของดัชนี

 

ยกตัวอย่าง ETF ที่มีค่าธรรมเนียมไม่สูงนัก อีกทั้งยังอยู่ใน Global ETFs Model Portfolio ของทีม BLS Global Investing ซึ่งได้แก่ Vanguard S&P 500 ETF (VOO.US)

VOO เป็น ETF ที่ออกโดยบริษัทชื่อดัง Vanguard ของสหรัฐฯ และอย่างที่กล่าวไป เป็นอีกหนึ่งใน ETF ยอดฮิต มีจุดเด่นด้านค่าใช้จ่ายรวมต่อปีอยู่ที่ 0.03% อีกทั้งนักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นได้สะดวก ไม่มีจำนวนหุ้นขั้นต่ำต่อคำสั่งซื้อขาย สามารถลงทุนจำนวน 1 หุ้นได้

จากรูปด้านล่าง เป็นการเปรียบเทียบสัดส่วนของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมของหุ้นในดัชนี S&P 500 และ ETF VOO (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 64)

002-1.png

Source: Investor.vanguard.com, as of 19/08/21

 

อีก 1  ETF ที่อ้างอิงกับดัชนี S&P 500 ที่มีสภาพคล่อง (Liquidity) มากที่สุดในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ETF กองแรกและกองที่มีขนาด AUM ใหญ่ที่สุดของโลก ได้แก่ SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY) โดยเริ่มซื้อขายใน American Stock Exchange (AMEX) ในปี 1993 (ปัจจุบันควบรวมอยู่ในตลาด NASDAQ) โดยมีจุดมุ่งหมาย  คือ เพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนในดัชนี S&P 500 หรือเป็นการลงทุนที่เปรียบเสมือนการได้ลงทุนใน 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดและจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า อีกทั้งสามารถกระจายความเสี่ยงได้มากกว่า

ยกตัวอย่างเกณฑ์ในการปรับหุ้นเข้าดัชนี S&P 500

S&P 500 เป็นดัชนีที่มีการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของบริษัท (Market Capitalization) กล่าวคือ ยิ่งมูลค่าบริษัทสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สัดส่วนสูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งในการคัดหุ้นเข้าดัชนี S&P 500 จะพิจารณาจากหลายปัจจัย อาทิ สภาพคล่อง ขนาดบริษัทตามมูลค่าตลาด ลักษณะอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งเราได้ยกตัวอย่างเกณฑ์เบื้องต้นไว้ดังนี้

  • บริษัทต้องจดทะเบียนอยู่ในตลาดสหรัฐฯ
  • มีมูลค่าบริษัท (Market Capitalization) อย่างน้อย 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • หุ้นจำนวนอย่างน้อย 250,000 หุ้นมีการซื้อขายในระยะเวลา 6 เดือนล่าสุด
  • เสนอขายหุ้นครั้งแรกมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี
  • กำไรสุทธิใน 4 ไตรมาสล่าสุดต้องรวมกันเป็นบวก รวมถึงไตรมาสล่าสุดก็ต้องมีผลกำไรสุทธิเป็นบวกเช่นกัน

ในเบื้องต้นแล้ว บริษัทที่เข้าเงื่อนไขเกณฑ์ทั้งหมด จะได้รับการพิจารณาปรับเข้าในดัชนี โดยดัชนี S&P 500 จะมีการปรับและเปลี่ยนแปลงหุ้นเข้าดัชนีตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นรายไตรมาส หรือในเดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคม ของทุกปี

 

สำหรับวันนี้ BLS Global Investing หวังว่านักลงทุนทุกท่านจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนต่างประเทศไปไม่มากก็น้อย สำหรับสัปดาห์หน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ติดตามกันนะคะ 😊

อย่าลืมติดตามพวกเราได้ที่ Facebook : Bualuangsec 

 

📌 เปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศออนไลน์ง่าย ๆ สไตล์ BLS Global Investing ได้ที่ https://bls.tips/openglobalinvesting

📌 โปรโมชันแทนคำขอบคุณ ขยายวันโอนเงินไปต่างประเทศกับหลักทรัพย์บัวหลวง ฟรี! ค่าธรรมเนียมโอนเงิน ทุกวันอังคาร และ วันพุธตลอดวัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bls.tips/globalinvesttransfer  

#S&P500 #หุ้นสหรัฐฯ #BLSGlobalInvesting #หลักทรัพย์บัวหลวง

Source: Investopedia, Corporate Finance, Bloomberg, ข้อมูล ณ วันที่ 20 ส.ค. 64

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง