howtoinvestthroughbullandbearmarket
howtoinvestthroughbullandbearmarket

ไม่ว่าตลาดจะ Bull หรือ Bear ก็สามารถทำกำไรได้ผ่าน ETFs ในตลาดสหรัฐฯ

ไม่ว่าตลาดจะ Bull หรือ Bear ก็สามารถทำกำไรได้ผ่าน ETFs ในตลาดสหรัฐฯ

หลังจากที่แนะนำทุกท่านในบทความ ” ลงทุนทั่วโลกง่ายๆ ผ่านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้อย่างไร “(อ่านบทความคลิก) ……คำตอบก็คือ ลงทุนผ่าน ETFs นั่นเอง

วันนี้หลักทรัพย์บัวหลวง By BLS Global Investing จะพาท่านผู้อ่านไปเจาะลึกการลงทุนต่างประเทศมากขึ้นว่า ETFs ที่น่าลงทุนของตลาดสหรัฐฯ นั้น มีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไรกันบ้าง…

การลงทุนใน ETFs ที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ท่านสามารถเกาะติดผลตอบแทนของตลาดหุ้นสหรัฐฯได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงมีค่าใช้จ่ายน้อยอีกด้วย และ ETFs ที่พูดถึงก็คือ

a55555555555.png

ก่อนอื่นเดี๋ยวเรามาดูก่อนว่าเสน่ห์ของ ETFs แต่ละตัวนั้นมีความน่าสนใจอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบว่า ตนเองนั้นเหมาะกับ ETFs DIA, QQQ, หรือ SPY และไปทำความเข้าใจกันว่า ETFs แต่ละตัวนั้นอ้างอิงกับดัชนีอะไรกันบ้าง

DIA: SPDR Dow Jones Industrial Average ETF
DIA คือ ETF ที่อ้างอิงกับ Dow jones index เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Dow jones index ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นทั้งหมด 30 ตัว ส่วนใหญ่หุ้นใน Dow Jones นั้นจะเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อขึ้นมา ทุกท่านน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี เดี๋ยวเรามาลองดูกันว่า Top 10 หุ้นใน Dow Jones นั้นมีอะไรบ้าง

etf1.jpg

QQQ: Invesco QQQ Trust ETF
QQQ คือ ETF ที่อ้างอิงกับ NASDAQ 100 Index เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ บริษัทเทคโนสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนค้าปลีก / ค้าส่ง รวมถึงเทคโนโลยีผลิตชิพ โดยมีหุ้นทั้งหมดรวม 100 ตามขนาดของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และที่สำคัญดัชนี NASDAQ 100 ไม่มีหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน ดังนั้น ETFs กลุ่มนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ติดตามและสนใจลงทุนในกลุ่มจำพวกเทคโนโลยี และนี่คือหุ้นเด่นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ 100

etf2.jpg

SPY: SPDR S&P 500 ETF
SPY คือ ETF ที่อ้างอิงกับ S&P 500 เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนในหุ้น 505 บริษัท โดยบริษัททั้ง 505 บริษัทนั้นจะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่มีการซื้อขายอยู่ทั้งในตลาด NYSE และ NASDAQ จะสังเกตเห็นได้ว่าดัชนี S&P 500 นั้นมีการกระจายของอุตสาหกรรมได้อย่างหลากหลายมากกว่าดัชนี Dow jones และ Nasdaq 100 ซึ่งเมื่อมองลึกลงไปเราจะพบว่า S&P500 ทำสัดส่วนกว่า 80% ของตลาดหุ้นสหรัฐฯเลยทีเดียว และนี่คือตัวอย่างของหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500

etf3.jpg

เอาละค่ะ ทุกท่านน่าจะเห็นภาพและน่าจะมีดัชนีเด่นอยู่ในใจแล้ว ต่อไปจะพาไปดูกันว่า
ในขณะที่ตลาดอยู่ในช่วง Bull Market หรือตลาดขาขึ้นนั้น มี ETFs ตัวไหนโดดเด่นกันบ้าง โดยจะแยก ETFs ที่อ้างอิงกับดัชนีที่กล่าวไปด้านบนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ETFs ที่การขึ้นลงของ ETFs กลุ่มแรกนี้จะขึ้นลงล้อไปกับดัชนี กลุ่มที่ 2 คือ ETFs ที่มีอัตราทด 3 เท่า (จริงๆ แล้วอัตราทดแบบ 2 เท่าก็มีให้ซื้อขาย แต่นักลงทุนจะนิยมเล่นตัวอัตราทดแบบ 3 เท่ามากกว่า เมื่อดูจากปริมาณของการซื้อขาย) ซึ่งกลุ่มนี้จะแรงกว่าเพื่อน เพราะถ้าดัชนีที่อ้างอิงขึ้นไป 1 เท่า ETFs กลุ่มที่ 2 นี้จะขึ้นไปถึง 3 เท่า ซึ่งตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของ ETFs ที่มีอัตราทด

  • กลุ่มที่ 1 คือ  ETFs ที่การขึ้นลงจะล้อไปกับดัชนี ไม่มีอัตราทด

QQQ Invesco QQQ Trust (QQQ)
SPDR S&P 500 ETF (SPY)                                                                                                                                                                SPDR Dow Jones ETF (DIA)

  • กลุ่มที่ 2 คือ ETFs ที่มีอัตราทด 3 เท่า

ProShares UltraPro Dow30 (UDOW)
ProShares UltraPro QQQ (TQQQ)
ProShares Ultra Pro S&P 500 (UPRO)

กราฟด้านล่างแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาของ ETFs
กลุ่มที่ 1 ETFs ที่การขึ้นลงจะล้อไปกับดัชนี 
กลุ่มที่ 2 ETFs ที่มีอัตราทด 3 เท่าB1.png

โดยปกติแล้ว การซื้อขาย ETFs ที่มีอัตราทดนั้น จะนิยมเล่นกันสั้นๆ เนื่องจากจะมีความเสี่ยงสูงกว่า ETFs ทั่วไป เพราะอัตราทดที่มากถึง 3 เท่านั้นเอง ดังนั้นเมื่อเราลองมองย้อนกลับไปในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ถ้าหากใครก็ตามที่ลงทุนใน ETFs ที่มีลักษณะ Bull Market หรือตลาดขาขึ้นนั้นผลตอบแทนจะติดลบไปเยอะเลยที่ แต่อย่าพึงตกใจไป…..เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบกันต่อว่า ถ้าจะลงทุน ETFs ในขณะที่ตลาดเป็น Bear market หรือตลาดขาลงนั้น จะลงทุนอย่างไร มาหาคำตอบกัน

ตัวอย่างกราฟด้านแสดงถึง ETFs ที่อ้างอิงกับดัชนี S&P 500
SPY คือ Long ETF โดยสร้างผลตอบแทนล้อไปกับดัชนี S&P 500
SH คือ Inverse ETF หรือ Short ETF ซึ่งสร้างผลตอบแทนสวนทางกับดัชนี
ดังนั้นในช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในช่วงขาลง เช่น S&P 500 ปิดลดลงอย่างต่อเนื่อง เราจะพบว่า การลงทุนใน ETF ที่ชื่อ SH จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะจะให้ผลตอบแทนสวนทางกับดัชนี พูดง่ายๆเลยก็คือ ยิ่งดัชนี S&P 500 ลงมากเท่าไหร่ SH ก็จะยิ่งให้ผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น

G4.jpg

Inverse ETFs หรือ Short ETFs คือคำตอบ เพราะ Inverse ETFs จะสร้างผลตอบแทนสวนทางกับดัชนี ดังนั้นในขณะที่สภาวะตลาด และหากเราคาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง Inverse ETFs จะสามารถช่วยท่านสร้างกำไรได้ และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีอนุพันธ์ เพียงแค่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศเท่านั้นเอง และอีกข้อดีหากขาดทุนก็จะเท่ากันเงินที่ซื้อ ETFs ไป ไม่มีการ Call Margin เพื่อเติมเงินแต่อย่างใด

Inverse ETFs ที่จะพาทุกท่านไปรู้จักมี 2 จำพวก กลุ่มแรกคือ Inverse ETFs ที่ไม่มีอัตราทด การขึ้นลงของ ETFs กลุ่มแรกนี้จะสวนทางกับดัชนี กลุ่มที่ 2 คือ Inverse ETFs ที่มีอัตราทด 3 เท่า (จริงๆ แล้วอัตราทดแบบ 2 เท่าก็มีให้ซื้อขาย แต่นักลงทุนจะนิยมเล่นตัวอัตราทดแบบ 3 เท่ามากกว่า เมื่อดูจากปริมาณของการซื้อขาย)  ซึ่งกลุ่มนี้จะแรงกว่าเพื่อน ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มาก และเหมาะกับการเล่นสั้นๆ เพราะถ้าดัชนีที่อ้างอิงลงไป 1 เท่า Inverse ETFs ที่มีอัตราทด 3 เท่าจะขึ้นไปถึง 3 เท่า Inverse ETFs ที่น่าสนใจ ซึ่งอ้างอิงกับดัชนีของสหรัฐฯมีดังนี้

  • Inverse ETFs ที่การขึ้นลงตรงกันข้ามกับดัชนี

ProShares Short Dow30 (DOG)
ProShares Short QQQ (PSQ)
ProShares Short S&P500 (SH)

  • แต่ถ้าหากนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงขึ้น Inverse ETFs ที่มีอัตราทด 3 เท่า จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เร็ว แรง ในช่วงตลาดขาลง นั่นคือ

ProShares UltraPro Short Dow30  (SDOW)
ProShares UltraPro Short QQQ (SQQQ)
ProShares UltraPro Short S&P 500 (SPXU)

d2.jpg

ก่อนจะจบบทความนี้ ขอสรุปให้ทุกท่านเห็นภาพง่ายๆ ดังนี้

หากท่านมองว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น หรือตลาดเริ่มฟื้นตัวและอาจมีแรงซื้อกลับ หรือมีปัจจับบวกหนุนตลาด ท่านควรลงทุนใน ETFs ที่ล้อไปกับดัชนี หรือ Long ETFs

หากท่านมองว่าตลาดอยู่ในช่วงขาลง หรือตลาดมีปัจจัยลบ และท่านคาดการณ์ว่าตลาดจะลดลง ท่านควรลงทุนใน Inverse ETFs (หรือ Short ETFs) เพราะ ETFs กลุ่มนี้จะให้ผลตอบแทนที่สวนทางกับดัชนี

a9999.png

a99999999.png

หากท่านใดสนใจลงทุนใน ETFs ดัชนีสหรัฐฯ

สามารถเปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศ BLS Global Investing  ได้ง่ายๆ!!

Source : ETF.com, Bloomberg, BLS Global Investing

สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีหุ้นกับหลักทรัพย์บัวหลวง

  • ดาวน์โหลดชุดเปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศ คลิกที่นี่
  • สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด

สำหรับบุคคลทั่วไปที่ยังไม่มีบัญชีหุ้นกับหลักทรัพย์บัวหลวง : ต้องดำเนินการเปิดบัญชีหุ้น พร้อมเปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศ

** เมื่อกรอกรายละเอียดแล้ว…กรุณาส่งเอกสารถึงผู้แนะนำการลงทุนของท่าน

หรือ ฝ่ายบัวหลวงอินเวสเมนท์สเตชั่น (1-7 อาคารซิลลิคเฮ้าส์ Unit 1A ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500)

สอบถามข้อมูลได้ที่ BLS Customer Service หรือ 02-618-1111

หรือ อ่านบทความเกี่ยวกับ BLS Global Investing …คลิกที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง