การดูกราฟ Double Top หรือ Double Bottom นั้นเป็นหนึ่งในการวิเคราะห์หุ้นเชิงเทคนิค (Technical Analysis) ซึ่งจะจัดอยู่ในหมวดการวิเคราะห์รูปแบบของตัวกราฟเป็นหลัก (Pattern Analysis) แต่การวิเคราะห์หุ้นเชิงเทคนิคยังมีการวิเคราะห์กราฟด้วยวิธีการอื่นนอกจากนี้อีกด้วย หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟหุ้น คลิกที่นี่

 Double Bottom และ Double Top คืออะไร? 

ทั้ง Double Top และ Double Bottom เป็นชื่อเรียกลักษณะหนึ่งของกราฟ (Pattern) ที่สามารถใช้เป็นสัญญาณเพื่อดูการกลับตัวของราคาหุ้นว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงได้ โดยจุดที่นิยมเข้าซื้อหรือขายมากที่สุดคือจุดที่กราฟตัดกับเส้น Neckline ดังภาพนี้  

Double Bottom คืออะไร

คือ Pattern ที่เป็นสัญญาณว่ากราฟกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้น เมื่อกราฟวิ่งลงสลับขึ้นมีลักษณะคล้ายตัว W แต่ไม่ได้จะมีรูปร่างเป็นตัว W ที่ชัดเจนเสมอไป สามารถสังเกตได้จาก Pattern จะมีจุดต่ำสุดอยู่ 2 จุด โดยที่ทั้ง 2 จุดอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน และมียอดอยู่ตรงกลาง 1 จุด

• Bottom 1 คือ ยอดที่ทำราคาต่ำสุดจุดแรก
• Bottom 2 คือ ยอดที่ทำราคาต่ำสุดจุดที่สอง (จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ Bottom 1)
• Neckline คือ เส้นสมมุติที่ตีในระดับเดียวกับจุดที่สูงที่สุดระหว่าง Bottom 1 และ Bottom 2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่วัดว่า Double Bottom นี้จะกลับตัวเป็นขาขึ้นสำเร็จหรือไม่ ซึ่งหากกราฟตัดขึ้นจาก Neckline ไปแล้วจะถือ Neckline นั้นเป็นแนวรับ ถ้าหากกราฟกลับตัวลงมาทดสอบแนวรับแต่ไม่สามารถทะลุลงไปได้ แปลว่ามีโอกาสสูงที่กราฟนั้นได้เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นแล้ว

จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าในช่วงก่อนหน้ากราฟนั้นเป็นขาลงจนมาถึงจุดที่ต่ำที่สุดจุดแรก (Bottom1) หลังจากนั้นก็มีแรงซื้อเข้ามาทำให้กราฟจะมีการพุ่งขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็จะกลับลงไปอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ Bottom1 อีกครั้ง ทำให้เกิด Bottom 2 เนื่องจากแรงซื้อที่เข้ามานั้นมีน้อยเกินไปกราฟจึงไม่สามารถเปลี่ยนเป็นขาขึ้นได้ จนเกิดเป็นยอดตรงกลางระหว่าง Bottom 1 และ 2 ต่อมาก็จะมีแรงซื้อเข้ามาอีกครั้งทำให้กราฟหักหัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการวัดว่า Pattern Double Bottom นี้จะกลับตัวเป็นขาขึ้นได้สำเร็จหรือไม่ โดยดูว่ากราฟนั้นสามารถตัดกับเส้น Neckline ขึ้นไปได้หรือไม่ดังที่กล่าวข้างต้น

Double Bottom คืออะไร

คือ Pattern ที่แสดงว่าหุ้นกำลังจะกลับตัวเป็นขาลง เมื่อกราฟวิ่งขึ้นสลับลงมีลักษณะคล้ายตัว M แต่ไม่ได้มีรูปร่างเป็นตัว M ที่ชัดเจนเสมอไป โดยจะมีรูปร่างดังนี้ มียอด 2 ยอด  ที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันโดยมีจุดต่ำสุดอยู่ระหว่างยอดทั้งสอง 1 จุด  พูดง่ายๆ Pattern Double Top นั้นก็คือ Double Bottom ที่กลับหัวกลับหาง

• Top 1 คือ ยอดที่ทำราคาสูงสุดจุดแรก
• Top 2 คือ ยอดที่ทำราคาสูงสุดจุดที่สอง (จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ Top1)
• Neckline คือ เส้นสมมุติที่ตีในระดับเดียวกับจุดที่ต่ำที่สุดระหว่าง Top1 และ Top2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับที่วัดว่า Pattern นี้จะกลับตัวเป็นขาลงได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งหากกราฟตัดลงจาก Neckline ไปแล้วจะถือว่า Neckline นั้นเป็นแนวต้าน ถ้าหากกราฟกลับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านแต่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ แปลว่ามีโอกาสสูงที่กราฟนั้นได้เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงแล้ว

จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าในช่วงก่อนหน้ากราฟนั้นเป็นขาขึ้นจนมาถึงจุดสูงสุดจุดแรก (Top1) หลังจากนั้นก็มีแรงขายเข้ามาทำให้กราฟจะมีการดิ่งลงเล็กน้อยแต่ก็จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้กราฟกลับขึ้นไปอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ Top1 อีกครั้ง ทำให้เกิด Top2 เนื่องจากแรงขายที่เข้ามาในตอนแรกมีน้อยเกินไปกราฟจึงไม่สามารถเปลี่ยนเป็นขาลงได้ในทันที ต่อมาก็จะมีแรงขายเข้ามาอีกครั้งทำให้กราฟหักหัวดิ่งลงอีกครั้งหนึ่งซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการวัดว่า Pattern Double Top นี้จะกลับตัวเป็นขาลงได้สำเร็จหรือไม่ โดยดูว่ากราฟนั้นสามารถตัดกับเส้น Neckline ลงไปได้หรือไม่ดังที่อธิบายไว้ข้างต้น

ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ Pattern Double Top & Double Bottom

1. ไม่ควรรีบเข้าซื้อเร็วเกินไป เนื่องจากมีโอกาสที่กราฟจะทำ Pattern ไม่สำเร็จ (Fail)

2. หากกราฟทำPattern Double Top หรือ Double Bottom แล้วแต่ไม่สามารถเบรก Neckline ได้ ก็มีโอกาสที่กราฟจะทำPatternเป็น Triple Top หรือ Triple Bottom และทำการกลับตัวหลังจากนั้นได้

3. ควรดูสัญญาณตัวอื่นๆประกอบการอ่าน Pattern เพื่อตัดสินใจเข้าซื้อขายด้วย

วิธีการใช้งานโปรแกรมต่างๆเพื่อดูกราฟหุ้น

วิธีที่ 1 การใช้  Trademaster เพื่อดูกราฟและ Pattern ของกราฟ

1. เมื่อเข้าสู่ระบบใน Trademaster แล้วให้คลิกที่ Chart
2. จากนั้นให้คลิกที่ Auto Chart
3. จากนั้นให้ใส่ชื่อหุ้นที่ต้องการในช่องค้นหา
4. คลิกที่ไอคอน Auto Pattern

วิธีที่ 2 วิธีการใช้ Aspen for browser เพื่อดูกราฟ

1. หลังจากเข้าระบบในโปรแกรท Aspen แล้ว ให้กดที่สัญลักษณ์ ด้านซ้ายบน
2. จากนั้นให้กดไปที่ Chart หลังจากนั้นสามารถค้นหาหุ้นที่ต้องการได้ในช่องค้นหา

วิธีที่ 3 วิธีการใช้ Streaming เพื่อดูกราฟ

1. หลังจากที่เข้าระบบที่เว็บไซต์บัวหลวงและโปรแกรม Streaming แล้วให้กดที่ Technical
2. สามารถพิมพ์ค้นหาหุ้นต้องการได้ในช่องค้นหา

วิธีการสแกนหาหุ้นที่เกิดจังหวะซื้อขาย

วิธีที่ 1 สแกนหาหุ้นที่เกิดสัญญาณจากโปรแกรม Stock Signals

1. หลังการเข้าระบบบนเว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง หลังจากนั้นให้คลิกที่ Stock Signals
2. จากนั้นให้คลิกที่ Technical
3. จากนั้นก็สามารถเช็คได้ว่าในหุ้นตัวไหนเกิดPatternเหล่านี้ได้ตามตาราง Bull/Bear Signal Name

วิธีที่ 2 วิธีการหาหุ้นที่กำลังเกิด Pattern Double Top/ Double Bottom ใน Trade Master

1. หลังจากเข้าระบบในโปรแกรม Trade Master แล้ว ให้คลิกที่ Strategy
2. จากนั้นคลิกที่ Strategy Builder
3. จากนั้นคลิกที่ Pattern Analysis
4. จากนั้นคลิกที่ Auto Pattern
5. สามารถเลือกได้ว่าจะดูเป็น Bullish หรือ Bearish Pattern
6. คลิกเลือก ที่ Double Top/Double Bottom จากนั้นกด Confirm
7. จากนั้นหุ้นที่เข้าเงื่อนไขจะปรากฏในหน้า Result ดังภาพที่ 2

รับชมคลิปวิดีโอ ทริปเด็ด ๆ จากกูรูหลักทรัพย์บัวหลวงต่อได้ที่นี่

หากนักลงทุนสนใจศึกษาวิธีการวิเคราะห์กราฟหุ้นเบื้องต้น ติดตามต่อคลิกที่นี่

📌 เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร คลิก  👇

หรือศึกษาวิธีการเปิดบัญชีบนหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม คลิก
ผู้ลงทุนจะต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน…สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง โทร. 0-2618-1111