5045
5045

33 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ DW

33 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ DW

1) Derivative Warrant (DW) คืออะไร? Derivative Warrant (DW) คือ ตราสารที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือซื้อหรือขายหลักทรัพย์อ้างอิงในอนาคตตาม ราคา จำนวน และเวลาที่กำหนด ซึ่งสิทธิดังกล่าวจะทำให้มูลค่าของ DW มีการเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับมูลค่าของหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นๆ 2) ประโยชน์ของ DW มีอะไรบ้าง?

  • Gearing: ให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิง
  • Upside and Downside Trading: ใช้เป็นเครื่องมือทำกำไรได้ทั้งเมื่อราคาหลักทรัพย์ขึ้นหรือลง
  • Portfolio Insurance: ใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน
  • Lower Minimum Initial Investment : ใช้เงินลงทุนที่ต่ำกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิง

3) DW แบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง? DW แบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ประเภทได้แก่

  • Call DW จะเป็น DW ที่ราคาเคลื่อนไหวตามราคาหลักทรัพย์อ้างอิง ดังนั้นนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าราคาหลักทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต ควรเลือกลงทุนใน Call DW
  • Put DW จะเป็น DW ที่มีราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิง ดังนั้นนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าราคาหลักทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวลดลงในอนาคต ควรเลือกลงทุนใน Put DW

4) หลักทรัพย์อ้างอิงของ DW ปัจจุบันมีตัวไหนบ้าง?

  • หุ้นสามัญที่ซื้อขายในดัชนี SET100 เช่น KBANK,PTT, SCC
  • ดัชนีหลักทรัพย์ SET50 Index, SET Index

5) สัญลักษณ์ของการซื้อขาย DW เป็นอย่างไร? DW มีสัญลักษณ์ในการซื้อขายทั้งหมด 12 ตัว โดยสัญลักษณ์แต่ละตัวมีความหมายดังนี้ Picture1 เช่น PTT01C1609A หมายถึง คอลวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับหุ้น PTT ที่ออกโดย บ.ล. บัวหลวง ซื้อขายสุดท้ายเดือน ก.ย. 59 รุ่น A 6) DW มีอายุประมาณเท่าใด ตั้งแต่แรกออก? DW จะมีอายุเริ่มต้นอยู่ระหว่าง 2 เดือน-2 ปี ตามเกณฑ์ของสนง. ก.ล.ต. ในขณะที่ผู้ออกฯ นิยมให้มีอายุเริ่มต้นประมาณ 5-7 เดือน 7) ความเสี่ยง/ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคา DW?

  • ราคาของหลักทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
  • ความเสี่ยงจากอายุที่ลดลงของ DW
  • ผู้ดูแลสภาพคล่องไม่สามารถปรับราคาให้เป็นไปตามราคาที่เหมาะสม

8) ผู้ดูแลสภาพคล่องทำหน้าที่อะไร?

  • หน้าที่ของผู้ดูแลสภาพคล่องคือการวาง Bid-Offer ให้นักลงทุนสามารถซื้อขาย DW ที่ราคาที่สัมพันธ์กับราคาเสนอซื้อเสนอขายของหลักทรัพย์อ้างอิง โดยต้องทำหน้าที่เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 80% ของอายุ DW ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • ทั้งนี้ DW01 ทุกรุ่น ดูแลสภาพคล่องโดยหลักทรัพย์บัวหลวง

9) ค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขาย DW เป็นเท่าไหร่? เหมือนหุ้นทุกประการ รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.bualuang.co.th/th/sb_privileges.php10) ซื้อขาย DW ต้องเปิดบัญชีอะไร?

  • นักลงทุนสามารถซื้อขาย DW ได้ด้วยบัญชีซื้อขายหุ้นทุกประเภทที่เปิดไว้กับบริษัทหลักทรัพย์ใดก็ได้
  • กรณีที่นักลงทุนไม่มีบัญชีซื้อขายสามารถเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์บัวหลวง รายละเอียด คลิกที่นี่

11) ลูกค้าขายชอร์ต DW ได้หรือไม่? ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่อนุญาต ให้มีการขายชอร์ต DW เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศไม่มีการอนุญาตให้นักลงทุนขายชอร์ต DW ได้ 12) เวบไซด์ที่สามารถติดตามข้อมูล DW มีแนะนำหรือไม่? นักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเชิงลึกของ DW แต่ละตัวได้ที่ www.blswarrant.com13) ความแตกต่างระหว่าง DW, Warrant และ Exchange Traded Option มีอะไรบ้าง?Picture2   14) วิธีการลงทุนใน DW ทำอย่างไร?        Step 1: เลือกประเภทของ DW ตามมุมมองบนหลักทรัพย์อ้างอิง เช่น ถ้ามองว่าหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นจะขึ้น ให้พิจารณา Call DW แต่ถ้ามองว่าหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นจะลงให้พิจารณา Put DW         Step 2: พิจารณาความเสี่ยงที่รับได้และระยะเวลาการถือครอง กรณีรับความเสี่ยงได้สูงหรือต้องการเก็งกำไรระยะสั้น : ควรเน้นการลงทุนใน DW ที่มีอัตราทดสูง กรณีรับความเสี่ยงได้ต่ำหรือต้องการเก็งกำไรระยะกลาง-ยาว : ควรเน้นการลงทุนใน DW ที่มีการเสื่อมค่าเวลาต่ำ         Step 3: เลือกผู้ออก DW ที่มีความน่าเชื่อถือในการทำหน้าที่ผู้ดูแลสภาพคล่อง พร้อมตรวจสอบราคาที่เหมาะสมของ DW ก่อนซื้อขายทุกครั้ง         Step 4: ติดตามสถานะการลงทุนอย่างใกล้ชิด (ควรมีการกำหนดจุด Cut loss และ Take Profit ก่อนการลงทุน) รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.blswarrant.com/DW_Trading_Strategy15) คำศัพท์ที่สำคัญเกี่ยวกับ DW มีอะไรบ้าง?

  • อัตราทด (Effective Gearing): เป็นค่าที่บอกความเสี่ยงด้านราคา DW (Effective Gearing ของ DW 3 เท่า หมายถึง ถ้าราคาหลักทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนไป 1% ราคา DW จะเปลี่ยนแปลงประมาณ 3%)
  • ความอ่อนไหว (Sensitivity) : เป็นค่าที่บอกความแกว่งตัวด้านราคา (Sensitivity ของ DW เท่ากับ 2 หมายถึง ถ้าราคาหลักทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนไป 1 ช่องราคา ราคา DW จะเปลี่ยนแปลงประมาณ 2 ช่องราคา)
  • การเสื่อมค่าเวลา (Time decay per day) เป็นค่าที่บอกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1 วัน ราคา DW จะลดลงกี่เปอร์เซนต์ (กำหนดตัวแปรอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ราคาหลักทรัพย์อ้างอิง)
  • ราคาเสนอซื้อคืนเบื้องต้นโดยผู้ดูแลสภาพคล่อง (Indicative price) คือ ราคายุติธรรมของ DW ณ เวลานั้นๆ

ส่วนคำศัพท์อื่นๆ สามารถติดตามได้จาก http://www.blswarrant.com/Glossary16) เทรด DW ควรใช้ Fundamental Analysis หรือ Technical Analysis ? ควรใช้ Technical Analysis เพราะจะสามารถวิเคราะห์ทิศทางของราคาหลักทรัพย์อ้างอิงระยะสั้นได้ดีกว่า สอดคล้องกับการเทรด DW ที่ต้องอาศัยความไวในการทำกำไร 17) DW ใกล้หมดอายุสามารถลงทุนได้หรือไม่?

  • สามารถลงทุนได้ เนื่องจาก DW ใกล้หมดอายุมักมีอัตราทดสูง
  • แต่ไม่ควรถือครอง DW ใกล้วันครบกำหนดอายุเป็นระยะเวลานานเพราะมักมีการเสื่อมค่าเวลาค่อนข้างสูง
  • บล. บัวหลวงขอแนะนำว่าระยะเวลาการถือครองสูงสุดควรสัมพันธ์กับอายุคงเหลือของ DW (โดยนักลงทุนไม่ควรถือครอง DW ไม่เกิน 1 ใน 5 ของอายุคงเหลือ เพื่อไม่ให้โดนการเสื่อมค่าเวลาที่มากเกินไป)

18) ทำไมไม่ควรถือ DW จนครบกำหนดอายุ? เพราะทางสรรพากรถือว่าเงินสดส่วนต่างที่นักลงทุนจะได้รับเมื่อถือ DW จนครบกำหนดอายุ เป็นเงินได้นอกตลาดซึ่งจะต้องเสียภาษีตามแบบ ภงด. 90 มาตรา 40 (8) ดังนั้นบริษัทจึงขอแนะนำให้นักลงทุนขายคืน DW ก่อนหรือภายในวันซื้อขายวันสุดท้าย เพราะรายได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้ 19) วันซื้อขายสุดท้าย (Last Trade Date) ต่างจากวันครบกำหนดอายุ (Maturity Date) อย่างไร?

  1. วันซื้อขายสุดท้าย คือ วันที่นักลงทุนซื้อขาย DW ได้เป็นวันสุดท้าย กรณีที่นักลงทุนซื้อแล้วถือ DW จนผ่านวันซื้อขายวันสุดท้ายไปจะถือว่านักลงทุนใช้สิทธิโดยอัตโนมัติและจะได้รับเงินสดส่วนต่างจากการใช้สิทธิ (หากมี)
  2. วันครบกำหนดอายุโดยปกติจะอยู่ถัดจากวันซื้อขายวันสุดท้าย 4 วันทำการ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่นักลงทุนยังเห็น DW อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่สามารถซื้อขายได้เนื่องจากถูกขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ดังนั้นนักลงทุนจึงไม่ต้องให้ความสำคัญต่อวันครบกำหนดอายุมากนัก

20) จะคำนวณ กำไร/ขาดทุน จากการลงทุนใน DW อย่างไร?

  • กรณีที่ 1: ซื้อแล้วขายก่อนครบกำหนดอายุ กำไร/ขาดทุน = (ราคาขาย – ต้นทุนซื้อ) x จำนวน DW ที่ถือ
  • กรณีที่ 2: ซื้อแล้วถือจนครบกำหนดอายุ กำไร/ขาดทุน = (เงินสดส่วนต่าง– ต้นทุนซื้อ) x จำนวน DW ที่ถือ

ทั้งนี้ เงินสดส่วนต่างกรณีของ Call DW = (ราคาอ้างอิง – ราคาใช้สิทธิ) x อัตราการใช้สิทธิต่อหน่วย เงินสดส่วนต่างกรณีของ Put DW = (ราคาใช้สิทธิ – ราคาอ้างอิง) x อัตราการใช้สิทธิต่อหน่วย *โดยปกติ ราคาอ้างอิงคือราคาปิดของหลักทรัพย์อ้างอิง ณ วันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW **กรณีคำนวณเงินสดส่วนต่างติดลบให้ถือเป็นศูนย์ 21) เงินสดส่วนต่างจากการใช้สิทธิได้คืนเมื่อไหร่ และต้องทำอย่างไรบ้าง? นักลงทุนจะได้รับเงินสดส่วนต่างคืนภายใน 9 วันทำการหลังวันซื้อขายวันสุดท้าย โดยเป็นการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับบัญชีซื้อขายหุ้นแบบอัตโนมัติ (บัญชีเดียวกับที่รับเงินปันผล) 22) ระยะเวลาในการลงทุนใน DW

  • ระยะเวลาที่จะลงทุนใน DW นั้นจะขึ้นกับมุมมองของนักลงทุนต่อแนวโน้มของหลักทรัพย์อ้างอิง (โดยปกติไม่ควรเกิน 1 เดือน)
  • หากนักลงทุนมองว่าหลักทรัพย์อ้างอิงมีทิศทางไม่ชัดเจนควรลงทุนในระยะสั้น หากนักลงทุนเห็นทิศทางแนวโน้มของหลักทรัพย์อ้างอิงอย่างชัดเจนจึงสามารถลงทุนในระยะยาวได้
  • นอกจากนี้ บล. บัวหลวงขอแนะนำว่าระยะเวลาการถือครองสูงสุดควรสัมพันธ์กับอายุคงเหลือของ DW (โดยนักลงทุนไม่ควรถือครอง DW ไม่เกิน 1 ใน 5 ของอายุคงเหลือ เพื่อไม่ให้โดนการเสื่อมค่าเวลาที่มากเกินไป)

23) ผู้ดูแลสภาพคล่องทำงานดีหรือไม่ดีดูจากอะไร?

  • Bid-Offer ของ DW เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับราคาเสนอซื้อ เสนอขายหลักทรัพย์อ้างอิง (ตาม Indicative Price ที่ให้ไว้ในเวบไซด์)
  • ปริมาณ Bid-Offer Volume มีมากเพียงพอต่อการเข้าออก

24) เรารู้ได้อย่างไรว่า DW ตัวไหน Market Maker ควบคุมราคาเสนอซื้อเสนอขายไม่ได้?

  • ประกาศแจ้งเตือนบนเวบไซด์ผู้ออกฯ (สำหรับ DW01 สามารถติดตามได้จาก www.bualuang.co.th, www.blswarrant.com, www.set.or.th และ Bualuang Securities Official Line)
  • ให้พิจารณาราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบัน หากสูงกว่าราคารับซื้อคืนเบื้องต้น ให้สันนิษฐานว่าผู้ดูแลสภาพคล่องควบคุมราคาไม่ได้

ทั้งนี้บริษัทขอแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนใน DW ที่ผู้ดูแลสภาพคล่องไม่สามารถดูแลราคาได้ เพราะมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นลงไม่เป็นไปตามกลไก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ผู้ลงทุนได้ 25) ทำไมต้องออก DW ส่วนเพิ่ม และการออกส่วนเพิ่มมีผลกระทบต่อผู้ลงทุนอย่างไร?

  • เมื่อผู้ดูแลสภาพคล่องมีจำนวนหุ้นไม่เพียงพอต่อการดูแลราคา ทำให้ไม่สามารถควบคุมราคาเสนอซื้อเสนอขาย DW ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ดังนั้นการออก DW ส่วนเพิ่ม เพื่อจะสามารถกลับมาดูแลราคาได้ตามปกติ
  • ดังนั้น ในวันที่ส่วนเพิ่มเริ่มเข้าทำการซื้อขาย ราคา DW มีโอกาสปรับตัวลดลงไปสู่ราคาที่เหมาะสม

26) DW บางตัวทำไมวาง Bid-Offer น้อย?

  • โดยปกติ ผู้ดูแลสภาพคล่องจะวาง Bid-Offer Volume ของ DW ให้สัมพันธ์กับ Bid-Offer Volume ของหลักทรัพย์อ้างอิง ณ ขณะนั้นๆ ดังนี้หาก Bid Offer Volume ของหลักทรัพย์อ้างอิงน้อย Bid Offer ของ DW ก็จะน้อยตามไปด้วย
  • ในภาวะที่ผู้ดูแลสภาพคล่องเหลือ DW ในมือน้อยก็จะส่ง Offer Volume น้อยลงด้วย
  • ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่ต้องการ DW จำนวนมาก ให้ส่งคำสั่งซื้อแบบเจาะจงราคา อย่าส่งคำส่งซื้อที่ราคาตลาดทั้งหมดแบบทันที (Market Order) เพราะจะได้ของที่ราคาแพงเกินจริง

27) DW ราคาต่ำมากๆ เช่น 10 สตางค์ สามารถเทรดได้หรือไม่? ได้ แต่ไม่แนะนำเนื่องจาก DW ราคาต่ำมักจะมีการเสื่อมค่าเวลาสูง รวมถึงมีการขยับราคาที่ค่อนข้างช้า (เช่นหลักทรัพย์อ้างอิงต้องขยับ 5 ช่อง DW ถึงขยับ 1 ช่อง) 28) DW ที่ Out of the money มากๆ จำเป็นต้องรับซื้อคืน 0.1 บาทเสมอหรือไม่?

  • สำหรับ บล. บัวหลวงจะรับซื้อ DW คืนที่ราคา 0.01 บาทตลอด ไม่ว่า DW จะ Out of the money เพียงไหนก็ตาม
  • สำหรับ บล. อื่นอาจไม่ได้รับซื้อคืนที่ 0.01 เสมอ ดังนั้นอาจจะต้องตรวจสอบจากบล.ผู้ออกนั้นๆ

29) สัดส่วนการลงทุนใน DW ควรเป็นเท่าไหร่ของเงินทั้งหมด? โดยปกติไม่ควรเกิน 10-20% ของมูลค่าพอร์ตรวม 30) เข้าซื้อ Put DW ก่อนหน้าวันที่หลักทรัพย์อ้างอิงขึ้น XD สามารถทำกำไรแบบฟรีๆ ได้หรือไม่?

  • ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้ออกจะมีการปรับสิทธิ DW ทุกตัวเพื่อขจัดผลกระทบของราคาหลักทรัพย์อ้างอิงที่ปรับตัวลดลงจากการจ่ายเงินปันผล ดังนั้นผู้ลงทุนที่ถือ Call DW และ Put DW จะไม่ได้รับผลกระทบจากราคา DW ที่ปรับตัวลดลงหากในวันขึ้นเครื่องหมาย XD ราคาหลักทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลดลงเท่ากับเงินปันผลที่จ่ายพอดี
  • ทั้งนี้สำหรับ Corporate Action อื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์อ้างอิง อย่างเช่น การเพิ่มทุน, แตกพาร์, แจกหุ้นปันผล ก็จะพิจารณาแบบเดียวกัน

31) DW01 ตัดค่าเสื่อมเวลาวันหยุดหรือไม่?

  • สำหรับ DW01 ทุกรุ่นตัดค่าเสื่อมเวลาตามวันทำการที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการซื้อขายโดยไม่รวมวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี ดังนั้น นักลงทุนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบขาย DW ที่ถืออยู่ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
  • อย่างไรก็ดีสำหรับ DW ที่ออกโดยผู้ออกรายอื่นนั้นอาจมีนโยบายที่แตกต่างกัน เช่น อาจมีการตัด time decay ในช่วงวันหยุด เป็นต้น ดังนั้นนักลงทุนควรตรวจสอบเงื่อนไขกับผู้ออกแต่ละรายก่อนการลงทุนทุกครั้ง

32) S50 DW เป็น DW ที่อ้างอิงบน SET50 Index หรือ SET50 Index Futures?

  • สำหรับ S50 DW01 ที่มีสัญลักษณ์สุดท้ายตั้งแต่ A-E จะอ้างอิงกับ SET50 Index เช่น S5001C1608A แต่หากมีสัญลักษณ์สุดท้ายเป็น F-Z จะอ้างอิงกับ SET50 Index Futures เช่น S5001C1609F
  • สำหรับ S50 DW ของผู้ออกรายอื่นๆ อาจมีวิธีการตั้งสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ลงทุนควรตรวจสอบกับผู้ออกรายๆนั้นให้แน่ใจก่อนการลงทุนทุกครั้งว่าเป็น DW ที่อ้างอิง SET50 Index หรือ SET50 Index Futures

33) ส่งคำสั่งซื้อขาย DW01 ที่ราคาปิด (ATC)  ในช่วง Call Market เสี่ยงมั้ย?

  • ในช่วง Call Market หรือเวลา 16.30-16.40 น. ของทุกวัน นักลงทุนหลายท่านมักส่งคำสั่งซื้อขาย DW01 ที่ราคาปิดทำให้เกิดปัญหาซื้อ DW ได้ที่ราคาสูงเกินจริง หรือขาย DW ได้ที่ราคาต่ำเกินจริง เมื่อเปรียบเทียบเทียบกับราคาที่เหมาะสมของ DW ที่สอดคล้องกับราคาหุ้นแม่ ณ เวลานั้นๆ เนื่องจาก บริษัทไม่ได้มีนโยบายในการดูแลราคา DW01 ช่วงปิดตลาด
  • นักลงทุนควรส่งคำสั่งซื้อขาย DW01 ในช่วงตลาดเปิดทำการปกติ (10.00 -16.30 น.)  เพราะช่วงเวลาดังกล่าวผู้ดูแลสภาพคล่องสามารถควบคุมราคา DW ให้เป็นไปตามกลไกที่แจ้งไว้ในเวปไซด์ แต่หากมีความจำเป็นที่ต้องการซื้อขาย DW01 ในช่วง Call Market ควรส่งคำสั่งซื้อขายแบบเจาะจงราคาเท่านั้น


บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง