
Tips
เช่ารถเทรนด์นี้กำลังอิน!!“ในอนาคตอาจเริ่มเห็นคนทั่วโลก “ซื้อรถยนต์” ลดลงเรื่อยๆ และจะหันมา “เช่ารถยนต์” มากขึ้น เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้วยังสามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ด้วย” คุณทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) มีความเชื่อเช่นนั้น
สัญญาณนี้เริ่มมาหรือยัง ?เขาตอบคำถามนี้ว่า องค์กรชั้นนำในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่งนิยมเช่ารถยนต์ระยะยาวมากกว่าซื้อรถยนต์มาครอบครอง เทรนด์นี้มีมานานแล้ว ส่วนในประเทศไทย ที่ผ่านมาเริ่มเห็นองค์กรหลายแห่งลดการซื้อรถยนต์ลงเรื่อยๆ จากเดิมเคยซื้อรถยนต์ เพื่อใช้ในองค์กรสูงถึง 90% วันนี้ลดลงเหลือ 50% ใช้เวลาประมาณ 7-8 ปี และมีโอกาสจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือ 20-30% ขณะที่หน่วยงานราชการในเมืองไทย หันมาเช่ารถยนต์ 100% แล้ว “เทรนด์การเช่ารถยนต์ระยะยาวจะค่อยๆเข้ามามีบทบาทกับ “บุคคลทั่วไป” มากขึ้นเรื่อยๆ แรกเริ่มอาจมาในรูปของการเช่ารถยนต์ระยะสั้นก่อน และจะค่อยๆเปลี่ยนรูปแบบเป็นการเช่าระยะยาว เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน”

“เช่ารถรายชั่วโมง” ตลาดนี้น่าสนใจ!!คุณทรงวิทย์ เล่าว่า อีกเทรนด์ที่จะเริ่มเห็นมากขึ้น คือ “เช่ารถยนต์รายชั่วโมง” ที่ผ่านมามีลูกค้าหลายคนถามถึงบริการนี้ เราจึงตอบสนองคนกลุ่มนี้ ด้วยการทำแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน asap GO ภายใต้คอนเซ็ป Pay per use (ใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำการเช่าและปลดล็อครถยนต์ผ่านแอพเลิเคชั่นได้ด้วยตัวเอง เมื่อหลายปีก่อน เรามีความเชื่อว่า การเช่ารถยนต์ระยะสั้นจะได้รับความนิยมมากขึ้นเลยตัดสินใจเข้าสู่ “บริการรถเช่าระยะสั้นในสนามบินนานชาติทั่วประเทศไทย” ด้วยการตั้งจุดบริการในสนามบินนานาชาติทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสนามบินเชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา แต่ด้วยต้นทุนค่าเช่าตั้งจุดบริการที่ค่อนข้างแพง เราจำเป็นต้องปรับแผนเติบโตใหม่!!! ด้วยการนำที่ดินย่านบางนา-ตราด พื้นที่ 4 ไร่ ที่ซื้อมานานกว่า 3 ปี มาพัฒนาเป็น “ศูนย์รวมการให้บริการรถยนต์แบบครบวงจร asap Auto Park” มูลค่าเงินลงทุน 150-160 ล้านบาท ซึ่งจุดบริการนอกสนามบินแห่งนี้จะทำหน้าที่ทั้งปล่อยเช่ารถยนต์ระยะสั้นและจำหน่ายรถยนต์มือสองที่ครบสัญญาเช่า
“เราจะต่อยอดการเติบโตจากจุดบริการแห่งนี้ ด้วยการทำระบบแฟรนไชส์ ชุดแรกได้เกิดขึ้นแล้วในปี 2562”จากการรุกธุรกิจระยะสั้นในช่วงกว่าสองปีที่ผ่านมา ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า เราเดินมาถูกทาง!!! แม้วันนี้เราจะยังติดลบจากการให้บริการรถยนต์ระยะสั้น แต่กลุ่ม B2C ถือเป็นตลาดที่ทำแล้วสนุกและเหนื่อยไปพร้อมๆกัน ที่ผ่านมา เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วไป หลายคนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น แต่เรายังคงต้องสร้างตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เรื่องที่ประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง คือ การจองรถยนต์ผ่านตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ (online travel agent) หรือ OTA ที่ผ่านมามียอดเช่ารถยนต์ระยะสั้นจาก OTA คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% (มีทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ ลูกค้าต่างประเทศอันดับหนึ่ง คือ จีน รองลงมาเป็นมาเลเซีย) วันนี้บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากบริการรถเช่าระยะสั้นเฉลี่ย 5% ตามแผนงานภายใน 5 ปีข้างหน้า (2560-2564) ต้องขยับเป็น 20% เราเชื่อมั่นว่า “ทำได้แน่นอน” เพราะเป้าหมายที่ต้องการจะมีพอร์ตรถยนต์ให้เช่า 20,000 คัน ภายในปี 2564 คาดว่าจะได้เห็นเร็วขึ้นเป็นภายในปี 2562 ปัจจุบันมีพอร์ตรถยนต์อยู่ในมือประมาณ 18,000 คัน (พอร์ตรถยนต์ให้เช่าของ ASAP มีมากกว่าเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม) ปัจจุบันเมืองไทยมีผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ 4 ราย คือ กลุ่มบริษัทอาคเนย์ ,บมจ.ภัทรลิสซิ่ง ,บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด (ของประเทศญี่ปุ่น) และบริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด ส่วน asap ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีประสบการณ์มายาวนาน เพราะครอบครัวฐิติปุญญา ทำธุรกิจกับโตโยต้ามานาน 50 ปี ส่วนตัวเองทำดีลเลอร์ให้โตโยต้ามา 16 ปี โดยปล่อยเช่ารถยนต์โตโยต้าสัดส่วน 90% เพราะหาซัพพลายง่าย และมีต้นทุนที่แข่งขันได้
“ในอนาคตการเช่ารถยนต์อาจไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียวอีกต่อไป บุคคลทั่วไปอาจเริ่มหันมาเช่ารถยนต์ระยะยาวเหมือนองค์กรมากขึ้น เท่าที่ดูวันนี้คนไทยซื้อรถยนต์มาใช้เฉลี่ย 8 ปี แตกต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้วที่ใช้รถยนต์ 1 คัน เฉลี่ย 3 ปีเท่านั้น”

BLS แนะ “รอสะสม” หุ้น ASAPนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินว่า แนวโน้มกำไรใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2562 คาดว่าจะเห็นพัฒนาการกำไรที่ดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่กำไรโดนกดดันจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาที่บริษัทขยาย Fleet รถเพิ่มขึ้นถึง 6,000 คัน ในปี 2561 ทำให้เกิด Revenue cost mismatching เพราะการปล่อยรถเช่านั้นเป็นธุรกิจที่จะมีกำไรที่ดีในช่วงครึ่งหลังของอายุรถ (Back-load profit project) โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยาย fleet รถเพียงแค่ 3,000 คัน เพราะปัจจุบันบริษัทมีรถใน fleet ถึง 17,000 คัน ซึ่งบริษัทเข้าถึงจุดที่ได้ economy of scale แล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายประกันภัย ซึ่งเป็นค่าใช่จ่ายจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทได้ผู้บริหารท่านใหม่ ซึ่งเข้ามาดูแลเรื่องงานประกันภัยโดยเฉพาะ คาดจะลดต้นทุนค่าประกันภัยได้ประมาณ 10-15% (30-40 ล้านบาท) คาดเห็นผลในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 “กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “รอสะสม” เมื่อเห็นแนวโน้มงบการเงินไตรมาส 2 ปี 2562 ผ่านจุดต่ำสุด (รอดู Earnings preview ช่วงกลางเดือนกค.อีกครั้ง) เรามองว่า Downside เริ่มจำกัดแล้ว ด้วยราคาปัจจุบันลงมาเท่า Book value” สัปดาห์หน้า “เม่าจำไม By Bualuang Securities” จะมาเล่าเรื่องอะไรให้ฟังอีก รอติดตามนะคะ....
Tips
Global
DR01
สอนลงทุน
Tips
Tools
สอนลงทุน
สอนลงทุน
Tools
Tips
Tips
สอนลงทุน