
Tips
แม้ตลอดปี 2561 ตลาดหุ้นหลายๆ ประเทศจะปรับตัวลดลง นำทีมโดยตลาดหุ้นฝั่งยุโรป และตลาดหุ้นเอเชีย ที่ขยับตัวลดลงเฉลี่ย 15-20% และเฉลี่ย 10-20% ตามลำดับ หลังถูกกดดันจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางแห่งสภาพยุโรป หรือ ECB อาจขยายระยะเวลาการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ออกไป เป็นต้น แต่ตลาดหุ้นไทย ถือว่าปรับตัวลดลงน้อยที่สุดเฉลี่ย 10%
“คุณชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2562 น่าจะยังคงมี “ความผันผวน” จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาคาดว่าเริ่มเจรจารอบใหม่ ในเดือนก.พ. 2562 ถึงแม้จะมีปัจจัยคอยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ก็ยังพอมี “ข่าวดี” ให้ลุ้นกันอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องต่างประเทศล้วนๆ...
สัปดาห์หน้า “เม่าจำไม By Bualuang Securities" จะหยิบเรื่องอะไรมาเล่าสู่กันฟัง รอติดตามนะคะ รับรองว่า ตลอดปี 2562 จะยังคงมีเรื่องราวเข้มข้นมาแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกันเหมือนเดิม... เม่าจำไม ขอถือโอกาสนี้อวยพรให้นักลงทุนทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุน สวัสดีปีกุนค่ะ :)

- ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562
- ธนาคารกลางแห่งสภาพยุโรป ยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
- ต้นปี 2562 ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเล็กน้อย หลังกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ประเทศจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
- ประเทศจีนและประเทศสหรัฐฯอาจเจรจาการค้ากันลงตัว
- รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาผลักดันเศรษฐกิจภายในประเทศ (เมืองไทยจะมีการเลือกตั้งปลายเดือนก.พ. 2562)
หุ้นไทยระยะสั้นส่งสัญญาณ “ฟื้นตัว” หรือไม่ ?กูรูประจำหลักทรัพย์บัวหลวง บอกว่า หากมองในช่วงระยะสั้น ตลาดหุ้นไทยมีโอกาส “ฟื้นตัว” ตั้งแต่ช่วงสิ้นปีต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น หลังการเลือกตั้ง และความตึงเครียดของสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีความผ่อนคลายในระยะสั้น แต่ในช่วงที่ยังไม่ได้ข้อยุติอาจได้เห็นผู้ผลิตบางรายในเมืองจีนย้ายฐานการผลิตออกไปในประเทศอื่นๆ หนึ่งในเป้าหมาย คือ ประเทศไทย เรามองว่า ผู้ผลิตกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร จะเลือกมาตั้งฐานการผลิตในบ้านเรามากขึ้น
“ทิ้งน้ำหนัก” การลงทุนกลุ่มไหนดี...
- กลุ่มบริโภคภายในประเทศ รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่
- กลุ่มท่องเที่ยว หลังตัวเลขการท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น
- กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม หนุนโดยโครงการ EEC และการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติ
“หลีกเลี่ยง” หุ้นกลุ่มไหน ?
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น...
วางแผนลงทุนรับมือตลาดผันผวนแบบไหนดี ?เมื่อการลงทุนในปี 2562 อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก เพราะนอกจากจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยนอกประเทศแล้วในแง่ของกำไรบริษัทจดทะเบียนอาจทำได้ที่ระดับ 7.1% เทียบกับปี 2561 ที่ทำได้เฉลี่ย 9-10% ฉะนั้นนักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงของการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภท...
- หุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนเท่ากับตลาดเฉลี่ย 3.2%
- กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ที่ให้ผลตอบแทน 4.8-8.8%
- กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3-5%
- ทองคำ (เน้น Hedging) ตอนนี้ราคาทองคำอยู่เฉลี่ย 1,214 เหรียญต่อออนซ์ คาดว่าปี 2562 จะอยู่แถว 1,180-1,300 เหรียญต่อออนซ์
- หุ้นต่างประเทศ เน้นประเทศอินเดีย และเวียดนาม ข้อดีของเวียดนาม คือ ค่า P/E ใกล้เคียงตลาดหุ้นไทย แต่อัตราการขยายตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียนสูงกว่าเมืองไทยประมาณ 1.5-2 เท่า
ตัวเลขไฮไลท์ปี 2562 ที่นักลงทุนต้องรู้!!!
- เป้าหมาย SET Index 1,817 จุด บน PER ที่ 15.8 เท่า อาจได้เห็นครึ่งปีแรก

- ราคาน้ำมันเบรนท์ (Brent) เฉลี่ย 65-70 เหรียญต่อบาร์เรล
- ตัวเลขส่งออกโตเฉลี่ย 6.4%
- ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 8.5%

Tips
Global
DR01
สอนลงทุน
Tips
Tools
สอนลงทุน
สอนลงทุน
Tools
Tips
Tips
สอนลงทุน