
Tips
เมื่อไม่นานมานี้...ได้มีการเผยแพร่การจัดอันดับมหาเศรษฐีจากนิตยสาร Forbes "ฟอร์บส์" นิตยสารที่เกี่ยวกับธุรกิจและการเงินในสหรัฐอเมริกา ได้มีการสำรวจและจัดอันดับมหาเศรษฐีระดับโลกวัดจากมูลค่าหุ้น เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 61 ที่ผ่านมา และได้มีการเผยแพร่ผลการจัดอันดับในช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมานั้นเอง!!
มหาเศรษฐีของโลกอันดับ 1 ในปี้นี้ตกเป็นของ "เจฟฟ์ เบซอง" นายใหญ่ของบริษัท Amazon.com สหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์อีกด้วย มูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 112,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทะยานขึ้นนำมหาเศรษฐีคนอื่นๆ
"บิล เกตต์" ที่ตกมาอยู่เป็นอันดับที่ 2 ผู้ก่อตั้งเจ้าของ Microsoft ผู้บุกเบิกก่อตั้งบริษัทด้านคอมพิวเตอร์ IT ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา แต่กว่าจะสำเร็จมาจนระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาต้องผ่านอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดรอปเรียนตั้งแต่ยังหนุ่ม จนเริ่มมาก่อตั้งบริษัทด้าน IT ผันตัวเองมาทำงานหนักวันละ 16 ชั่วโมงเป็นเวลานานถึง 5 ปี จนกระทั่งทุกวันนี้เขามีมูลค่าสินทรัพย์รวม 90,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
...ต่อมา มหาเศรษฐีอันดับ 3 คงไม่พ้น "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ที่นักลงทุนหลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นและประธานผู้บริหาร (CEO) ของบริษัท Berkshire Hathaway และไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เขายังเป็นต้นแบบการลงทุนสาย VI (Value Investor) เขาเริ่มต้นศึกษาการลงทุนและฝึกฝนตัวเองอย่างหนักต้นแบบการลงทุนมาจากอาจารย์ของเขา เบนจามิน เกรแฮม ...หลักของการลงทุน คือ เขาจะต้องเลือกลงทุนในสิ่งที่ตนเองเข้าใจและมีความรู้ มองการลงทุนที่ตัวของธุรกิจ ไม่ได้เพียงมองว่าเป็นการซื้อหุ้นแล้วจบเท่านั้น ปัจจุบัน...วอร์เรน บัฟเฟตต์ มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐ...
มหาเศรษฐีในประเทศไทยก็ไม่แพ้ใครในโลก ...อันดับแรกในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 65 ของโลก คือ "เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี" เรารู้จักมักคุ้นกันดีในนาม "เจ้าสัวเจริญ"
เริ่มต้นจากลูกจ้างธรรมดาคนหนึ่งในบริษัทย่งฮะเส็ง เป็นคนที่วิ่งเข้าหาโอกาสเสมอ ไม่ปล่อยให้โอกาสเดินเข้ามาหา ผ่านสมรภูมิธุรกิจและเรียนรู้อย่างมากมาย จนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งเจ้าสัวเต็มตัว ปัจจุบันนี้มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 17,900 ล้านเหรียญสหรัฐ มีธุรกิจอยู่ในความดูแลนับไม่ถ้วน เริ่มตั้งแต่ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ (ชาเขียวโออิชิ, เอส, น้ำดื่มช้าง, เบียร์ช้าง, เหล้าแสงโสม) กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม (โรงแรมพลาซ่า แอทธินี, โรงแรมเครืออิมพีเรียล, อาคารสำนักงานให้เช่า) กลุ่มห้างค้าปลีก, กลุ่มร้านอาหาร, กลุ่มประกัน, กลุ่มธุรกิจอุปโภคบริโภค อีกมากมาย ฯลฯ พร้อมส่งไม้ต่อให้เหล่าลูกชายและยังสอนหลักการบริหารงานผ่านคติ "อดทน เสียสละ เงียบ ร่าเริง"
ต่อมาอันดับ 2 ของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 95 ของโลก "เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์" เจ้าของธุรกิจเจริญโภค CP เริ่มต้นจากการทำธุรกิจอาหารสัตว์ ขยับขยายมาเรื่อยๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จดังปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธรกิจหลักเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ได้แก่ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (CPALL, MAKRO), กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม (TRUE), กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ CP LAND / กลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ ธุรกิจยานยนต์ อุตสาหกรรม ฯลฯ รวมมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด 14,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับที่ 3 ในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 388 ของโลก!! ตกเป็นของเจ้าของทีมฟุตบอลชื่อดัง เลสเตอร์ ซิตี้ หรือใครที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ คงไม่พลาดที่เราต้องไป Shopping ของแบรนด์ต่างๆ น้ำหอม ครีมบำรุง เครื่องสำอางมากมายที่ King Power, Duty Free ซึ่งเป็นบริษัทด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย อย่างเจ้าพ่อคิงเพาเวอร์ "วิชัย ศรีวัฒนาประภา" มีธุรกิจมากมายอยู่ในความดูแล กลุ่มแรกธุรกิจ Duty Free ประมาณ 9 บริษัทหลักๆ และกลุ่มที่ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Duty Free อีกประมาณ 7 บริษัท ซึ่งความแข็งแกร่งของธุรกิจส่งผลให้คุณวิชัย ศรีวัฒนาประภา ติดอันดับมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา : Thairath, Thaipublica.org
ที่มา : www.forbes.com






รายชื่อมหาเศรษฐี 10 อันดับแรก!! ของโลก









แล้วมาติดตามข้อมูลกันใหม่ในตอนต่อไป ว่าจะมีการถือกำเนิดของมหาเศรษฐีหน้าใหม่ๆ หรือไม่!!
สอนลงทุน
Tips
กองทุน
Tips
Global
DR01
สอนลงทุน
Tips
Tools
สอนลงทุน
สอนลงทุน
Tools
Tips