
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการชะงักงันด้านเศรษฐกิจและการลงทุนเป็นวงกว้าง… นายกฯ ส่งเทียบเชิญ 20 เศรษฐีไทย ร่วมทีมสู้ COVID-19 มาดูกันว่า แต่ละท่านทำธุรกิจอะไร ถือหุ้นอะไรและมีปันผลปีละเท่าไรกันบ้าง ?
1. เครือเจริญโภคภัณฑ์
คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ได้ลงจากตำแหน่งประธานบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) เมื่อเดือนเมษายน 2562 อย่างไรก็ตาม ธนินท์ยังคงนั่งเก้าอี้ประธาน ซีพี ออลล์ อยู่ และได้แต่งตั้งคุณสุภกิต (บุตรชายคนโต) และ คุณศุภชัย (บุตรชายคนเล็ก) ให้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของเครือซีพีตามลำดับ ขณะที่ คุณณรงค์ (บุตรชายคนกลาง) เป็นรองประธานเครือซีพีพร้อมกับการดูแลธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตของเครือในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.73 หมื่นล้านเหรียญ / 8.92 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : CPF, CPALL, TRUE,
- เงินปันผล (ต่อปี) : CPF 2.62%, CPALL 1.92%, TRUE 2.73%
2. คุณเฉลิม อยู่วิทยา
ผู้นำตระกูล อยู่วิทยา ที่เป็นเจ้าของสัดส่วนหุ้นรวมกัน 51% ใน บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด (Red Bull) เครื่องดื่มให้พลังงานที่มีแบรนด์เป็นเอกลักษณ์ เฉลิมเป็นบุตรชายคนที่ 2 ของ เฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัท ในประเทศไทย บริษัทยังเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มให้พลังงานแบบอัดแก๊ส ชาขาว เครื่องดื่มเกลือแร่ และขนมเมล็ดทานตะวัน ซึ่งทั้งหมดบริหารภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.02 หมื่นล้านเหรียญ / 6.6 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : N/A
3. คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี
ผู้กุมบังเหียน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย มีชื่อเสียงโด่งดังจากเบียร์ช้างและเหล้าแสงโสม เจริญ นำไทยเบฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 2549 หลังจากความพยายามเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยไม่เป็นไปตามแผนจากการประท้วงต่อต้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.05 หมื่นล้านเหรียญ / 3.43 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : AWC, BJC, OISHI
- เงินปันผล (ต่อปี) : AWC 0.26%, BJC 2.29%, OISHI 5.26%
4. ตระกูลจิราธิวัฒน์
ผู้อยู่เบื้องหลัง เซ็นทรัลกรุ๊ป บริษัทพัฒนาศูนย์การค้ารีเทล นอกจากการพัฒนาห้างสรรพสินค้า บริษัทยังเดินเกมรุกในโลกออนไลน์ โดยเป็นเจ้าของ Zalora เว็บไซต์ค้าสินค้าแฟชั่นออนไลน์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Looksi) และยังมีบริษัทร่วมทุนกับ JD.com จากจีน มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อลงทุนในเวนเจอร์แคปิตอลด้านการค้าและฟินเทค
- มูลค่าสินทรัพย์ 9.5 พันล้านเหรียญ / 3.1 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : CENTEL, CPN, CRC
- เงินปันผล (ต่อปี) : CENTEL 2.82%, CPN 2.64%, CRC 0.48%
5. คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เริ่มลงทุนด้านพลังงานไฟฟ้ามาตั้งแต่ 20 ปีก่อน โดยปัจจุบันยังมีบริษัทย่อยอยู่ภายใต้กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ เช่น บริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด (GMP) บริษัท อินดิเพนเดนท์ พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (IPP) บริษัท กัลฟ์ โซล่าร์ จำกัด (Gulf Solar) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่น ในนาม บริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด (GJP) โดยกัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ มีโรงไฟฟ้าทั้งที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานแสงอาทิตย์
- มูลค่าสินทรัพย์ 6.8 พันล้านเหรียญ / 2.22 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : GULF
- เงินปันผล (ต่อปี) : 0.76%
6. คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่บูมขึ้นมา ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากถึง 38.28 ล้านคนในปี 2561 และจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ประกาศเป้าหมายการเติบโตของ คิง เพาเวอร์ ไว้ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ปี (2560-64) ว่าจะผลักดันยอดขายไปสู่ 1.4 แสนล้านบาท และขยับอันดับอาณาจักรธุรกิจปลอดภาษีจากอันดับ 7 ของโลกขึ้นเป็นอันดับ 5 ของโลก
- มูลค่าสินทรัพย์ 3.8 พันล้านเหรียญ / 1.24 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : WP
- เงินปันผล (ต่อปี) : WP 6.58%
7. คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ
หนึ่งในพี่น้อง 3 คน ผู้ร่วมกันสร้างอาณาจักรสีทีโอเอ โดยเริ่มธุรกิจจากร้านขายของชำและฮาร์ดแวร์ ก่อนจะเริ่มผลิตสีทาไม้ออกจำหน่ายเอง และเจริญเติบโตมาสู่การขายสีทาอาคาร สร้างรายได้ไป 1.65 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท เมื่อปี 2561
- มูลค่าสินทรัพย์ 3.1 พันล้านเหรียญ / 1.01 แสนล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : TOA
- เงินปันผล (ต่อปี) : TOA 1.40%
8. ตระกูลโอสถานุเคราะห์
ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังขายดี M-150 และ ธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการจำหน่ายเครื่องดื่มโดยเฉพาะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และคุณเพชร ยังรับหน้าที่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยกรุงเทพซึ่งก่อตั้งโดยครอบครัวของเขา และเป็นนักสะสมงานศิลปะที่สะสมผลงานมานานกว่าสามทศวรรษแล้ว
- มูลค่าสินทรัพย์ 3 พันล้านเหรียญ / 9.8 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : OSP
- เงินปันผล (ต่อปี) : 2.56%
9. คุณวานิช ไชยวรรณ
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันชีวิตขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ โดยมีบริษัท Meiji Yasuda จากประเทศญี่ปุ่นร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 15% ปัจจุบันไทยประกันชีวิตมีผู้นำคือลูกชายคนโตของวานิช ไชย ไชยวรรณ วานิชยังมีหุ้นส่วนใน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งมีเจ้าของคือมหาเศรษฐี เจริญ สิริวัฒนภักดี
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.8 พันล้านเหรียญ / 9.15 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : LHSC (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์), TPRIME (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้)
- เงินปันผล (ต่อปี) : LHSC 6.69%, TPRIME 3.85%
10. คุณชูชาติ เพ็ชรอำไพ และ คุณดาวนภา เพชรอำไพ
บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง คือบริษัทสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา โดยปี 2561 นับเป็นปีทองของบริษัท ด้วยรายได้แตะ 1.04 หมื่นล้านบาท เติบโต 39.42% และกำไรสุทธิ 3.7 พันล้านบาท เติบโต 48.46%
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.65 พันล้านเหรียญ / 8.66 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : MTC
- เงินปันผล (ต่อปี) : MTC 0.66%
11. นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
ผู้ก่อตั้ง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) ซึ่งเป็นเจ้าของการกิจการเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของไทย ทำรายได้ปี 2561 ไปถึง 8.1 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 9.19 พันล้านบาท โดยมีโรงพยาบาลในเครือ 47 แห่ง ซึ่งรวมถึงศูนย์สุขภาพ BDMS Wellness Clinic ระดับลักชัวรีบริเวณถนนวิทยุ ยังเป็นเจ้าของสายการบินระดับภูมิภาค บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA)
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.6 พันล้านเหรียญ / 8.49 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : BDMS, BA
- เงินปันผล (ต่อปี) : BDMS 2.66%, BA 1.89%
12. Harald Link
รุ่น 3 ของตระกูล ผู้นำ กลุ่มบริษัท บี.กริม เพิ่งนำ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจด้านพลังงาน ครอบคลุมภาคธุรกิจทั้งก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ขนส่งมวลชน โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.3 พันล้านเหรียญ / 7.51 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : BGRIM
- เงินปันผล (ต่อปี) : BGRIM 0.90%
13. คุณกฤตย์ รัตนรักษ์
บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 หนึ่งในผู้นำตลาดสื่อโทรทัศน์ของไทย กฤตย์ รัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นรองใน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศวัดจากมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นแหล่งที่มาความมั่งคั่งส่วนใหญ่ในสินทรัพย์ทั้งหมดของกฤตย์ นอกจากนี้ เขายังมีหุ้นส่วนใน บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
- มูลค่าสินทรัพย์ 2.25 พันล้านเหรียญ / 7.35 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : BAY, SCCC
- เงินปันผล (ต่อปี) : BAY 4.15%, SCCC 6.72%
14. คุณคีรี กาญจนพาสน์
ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ผู้ให้บริการรถไฟลอยฟ้าที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ โดย กวิน กาญจนพาสน์ ลูกชายของเขาเป็นผู้ควบคุมการดำเนินกิจการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่มาตั้งแต่ปี 2558 การดำเนินกิจการของบีทีเอสยังรวมไปถึง บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย ซึ่งให้บริการด้านสื่อโฆษณา โดยมีการลงทุนแลกหุ้นมูลค่า 5.9 พันล้านบาทของวีจีไอเพื่อถือหุ้น 23% ในเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) บริษัทจัดส่งพัสดุที่กำลังเติบโต และเมื่อเดือนมีนาคม 2562 วีจีไอยังลงทุนมูลค่า 4.6 พันล้านบาทในบริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด เพื่อถือหุ้น 18.6% ซึ่งจะทำให้วีจีไอมีมาร์เก็ตแชร์ในสื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) สูงขึ้นทันที
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.9 พันล้านเหรียญ / 6.20 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : BTS, VGI
- เงินปันผล (ต่อปี) : BTS 3.50%, VGI 1.32%
15. คุณสันติ ภิรมย์ภักดี
แม่ทัพของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “เบียร์สิงห์” บริษัทที่เป็นผู้ผลิตแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทยแห่งนี้ได้รับการก่อตั้งโดยปู่ของสันติเมื่อปี 2476 โดยเมื่อปี 2560 เบียร์สิงห์มีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดอยู่ 62% บุญรอดยังรุกเข้าสู่ประเทศเวียดนามด้วยการเทกโอเวอร์หุ้นส่วนในกลุ่มบริษัทผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค Masan ด้วยมูลค่าการลงทุน 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.86 พันล้านเหรียญ / 6.07 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : S
- เงินปันผล (ต่อปี) : S 2.83%
16. คุณทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้ซึ่งลี้ภัยไปอาศัยอยู่ที่ Dubai มาแล้วมากกว่า 1 ทศวรรษจากปัญหาทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ทักษิณยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันหุ้นที่เคยอยู่ในมือคุณทักษิณ นั้นถูกโอนถ่ายหุ้นให้กับตระกูลชินวัตรทั้งหมดแล้ว
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.85 พันล้านเหรียญ / 6.04 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : SC
- เงินปันผล (ต่อปี) : SC 8.88%
17. คุณวิชัย ทองแตง
ทนายความผู้ผันตัวมาเป็นนักลงทุน เขาเคยเป็นทนายความให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร วิชัยมีความมั่งคั่งส่วนใหญ่มาจากหุ้นส่วนน้อยที่เขามีในเครือข่ายโรงพยาบาล กรุงเทพดุสิตเวชการ พอร์ตของวิชัยยังมีอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น TWZ บริษัทผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ร่วมลงทุนหลักในบริษัท ลิงค์ เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายกระจายสินค้าหลายประเภทไปถึงร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมทั่วประเทศ บมจ.อี ฟอร์ แอล เอ็ม บริษัทแม่ของวุฒิศักดิ์คลินิก ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “พ่อมดตลาดหุ้น”
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.8 พันล้านเหรียญ / 5.88 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : BDMS, FORTH
- เงินปันผล (ต่อปี) : BDMS 2.66%, FORTH 7.98%
18. คุณสมโภชน์ อาหุนัย
พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2561 บริษัททำรายได้ไป 1.26 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 4.97 พันล้านบาท ตัวเขาและครอบครัวถือครองหุ้นใน EA อยู่ 44% ซึ่งการปรับราคาหุ้นขึ้นถึง 55% ในปีที่ผ่านมา ทำให้ความร่ำรวยของเขาเพิ่มขึ้น 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และก้าวขึ้นมาสู่ Top 10 ในทำเนียบนี้
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.75 พันล้านเหรียญ / 5.72 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : EA 0.83%
- เงินปันผล (ต่อปี) : EA 0.83%
19. คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน
มีสินทรัพย์ความมั่งคั่งส่วนใหญ่มาจาก บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารแบบสุกี้ยากี้ในราคาเข้าถึงได้ง่ายแบรนด์ “MK” ที่ลูกค้าจะได้อิ่มอร่อยด้วยการทำอาหารเองในหม้อไฟร้อนๆ ทั้งนี้ยังได้ใช้เงิน 2.06 พันล้านบาทเข้าซื้อหุ้น ‘แหลมเจริญซีฟู้ด’ โดยหลังจากนี้จะเข้าเป็นหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วน 65% นอกจากนี้เขายังได้ร่วมลงทุนกับบริษัทญี่ปุ่น เปิดคลังเก็บสินค้าแบบเย็นของ บริษัท เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ จำกัด โดยใช้งบลงทุนไปกว่า 1,750 ล้านบาท
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.65 พันล้านเหรียญ / 5.39 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : M
- เงินปันผล (ต่อปี) : 4.81%
20. คุณศุภลักษณ์ อัมพุช
เครือเดอะมอลล์บริหารศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือ สยามพารากอน และ เอ็ม ดิสทริค จุดหมายปลายทางแห่งการช็อปปิ้งระดับลักชัวรีซึ่งประกอบด้วย ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ และที่กำลังก่อสร้างคือ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งจะมีศูนย์รวมศิลปะและการแสดงขนาดใหญ่อยู่ภายใน มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมจับมือ AEG ผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงและกีฬาระดับโลก สร้าง สนามกีฬา 2 แห่งเพื่อเติมเต็มจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของ “ดิ เอ็มดิสทริค” แห่งนี้
- มูลค่าสินทรัพย์ 1.6 พันล้านเหรียญ / 5.23 หมื่นล้านบาท
- หุ้นที่ถือหลัก : N/A
ที่มา : การจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes (https://forbesthailand.com/forbes-lists/thailand-richest), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน ณ วันที่ 17/04/2563 )