
นักลงทุนที่ถือหุ้นมาสักระยะอาจพบว่าอยู่ดี ๆ ก็มีหุ้นเพิ่มเข้ามาในพอร์ตซึ่งแปลกตาไปจากหุ้นทั่วไปในพอร์ต โดยจะมี –W เข้ามาต่อท้ายชื่อหุ้น ซึ่งทุกท่านไม่จำเป็นต้องตกใจ -W ที่แสดงอยู่ท้ายชื่อหุ้นนี้คือวอร์แรนท์หรือใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) แล้ววอร์แรนท์นี้คืออะไร นักลงทุนสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง มาติดตามกันค่ะ

Warrant คืออะไร มาจากที่ไหน?
วอร์แรนท์หรือใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) คือตราสารแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญที่วอร์แรนท์นั้นอ้างอิงอยู่ (Underlying Asset) โดยบริษัทผู้ออกวอร์แรนท์เป็นผู้กำหนดราคาใช้สิทธิ (Exercise Price) และจำนวนสำหรับการแปลงสภาพวอร์แรนท์เป็นหุ้นซึ่งมักกำหนดในรูปอัตราส่วน เรียกง่าย ๆ คือสิทธิที่บริษัทมักแจกให้กับผู้ถือหุ้นสามัญในการซื้อหุ้นเพิ่มในอนาคตด้วยราคาที่กำหนดไว้
สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นแม่มาระยะหนึ่งแล้ว บริษัทจดทะเบียนอาจประกาศแจกวอร์แรนท์เพิ่มเข้าพอร์ตหุ้นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องถือหุ้นแม่อยู่ในพอร์ตจนกระทั่งหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XW (Excluding Warrant) หากขายหุ้นแม่ทิ้งไปก่อนหรือซื้อหุ้นในวันที่ขึ้นเครื่องหมายก็จะเสียสิทธิในการรับวอร์แรนท์ ซึ่งวอร์แรนท์สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้เหมือนหุ้นทั่วไปเลย
เลือกใช้ประโยชน์จาก Warrant อย่างไรดี
เนื่องจากวอร์แรนท์เป็นตราสารแสดงสิทธิ สำหรับนักลงทุนที่ถือวอร์แรนท์สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้สิทธิหรือไม่ นักลงทุนสามารถเลือกแนวทางที่ทำให้ได้ประโยชน์ ดังนี้
1. ใช้สิทธิแปลงสภาพเพื่อรับหุ้นแม่
เมื่อราคาตลาดแพงกว่าราคาใช้สิทธิ นักลงทุนควรเลือกใช้สิทธิในการแปลงวอร์แรนท์เป็นหุ้นแม่เพราะจะได้รับประโยชน์จากการได้รับหุ้นแม่ในราคาที่ถูกกว่าตลาด
ยกตัวอย่าง บริษัท XYZ มีการแจกวอร์แรนท์ XYZ-W1 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งกำหนดราคาใช้สิทธิ 15 บาทต่อหุ้น เมื่อถึงวันใช้สิทธิหุ้น XYZ ราคา 20 บาท นักลงทุนจึงมีโอกาสในการซื้อหุ้น XYZ ที่ราคาหุ้นละ 15 บาทซึ่งถูกกว่าราคาหุ้นที่ขายในตลาดถึง 5 บาท
2. ทำกำไรจากส่วนต่างราคา
ผู้ถือวอร์แรนท์สามารถขายสิทธิให้คนอื่นได้ โดยนักลงทุนจะได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่ขายวอร์แรนท์ ที่ได้รับมาแบบไม่มีต้นทุน
ข้อควรระวังในการถือ Warrant !!!
สำหรับนักลงทุนที่ถือวอร์แรนท์ไว้ต้องไม่ลืมว่าวอร์แรนท์มีอายุจำกัด ดังนี้- วันหมดอายุ คือวันที่ผู้ถือวอร์แรนท์สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามราคาใช้สิทธิที่กำหนดไว้ ซึ่งนักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนท์เป็นหุ้นสามัญจะต้องรีบดำเนินการแจ้งความจำนงภายในระยะเวลาที่ผู้ออกวอร์แรนท์กำหนด
- วันซื้อขายวันสุดท้าย คือวันที่ผู้ถือวอร์แรนท์สามารถซื้อขายวอร์แรนท์ในตลาดหลักทรัพย์ได้ ซึ่งผู้ที่ต้องการทำกำไรจากส่วนต่างราคา ต้องรีบขายวอร์แรนท์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนวันซื้อขายวันสุดท้ายของวอร์แรนท์เพราะถ้าหากถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วจะไม่สามารถขายได้อีก
วันหมดอายุและวันซื้อขายวันสุดท้ายของ Warrant ดูยังไง
วันหมดอายุและวันซื้อขายวันสุดท้ายของวอร์แรนท์สามารถดูได้จากหนังสือชี้ชวนของวอร์แรนท์ หรือจากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดังนี้
2. เลือกเมนู "ข้อมูลบริษัท" และเลือก "ใบสำคัญแสดงสิทธิ" หรือ คลิกที่นี่
3. ค้นหาวอร์แรนท์ที่ต้องการ
4. เมื่อเลือกวอร์แรนท์ที่ต้องการได้แล้ว จะปรากฏรายละเอียดของวอร์แรนท์ขึ้นมา โดยรายละเอียดที่แสดงจะมีทั้งวันหมดอายุและวันซื้อขายวันสุดท้าย
ป้องกันการลืมขายวอร์แรนท์ ด้วยคำสั่ง Schedule Order บน Trade Master
เป็นการส่งคำสั่งปกติทั่วไป แต่จะตั้งให้ระบบส่งคำสั่งล่วงหน้าได้นานถึง 90 วัน หากถึงวันและเวลาที่คุณกำหนดแล้วระบบจะส่งคำสั่งซื้อหรือขายให้คุณทันทีแบบอัตโนมัติ!!
อ่านเพิ่มเติมวิธีส่งคำสั่ง Schedule Order คลิกที่นี่

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนท์เป็นหุ้นสามัญต้องถือครองวอร์แรนท์ก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XE เพื่อรับสิทธิในการแปลง ซึ่งติดตามวอร์แรนท์ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XE ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป Wealth CONNEX ดังนี้
-
เปิดแอป Wealth CONNEX เข้าสู่ระบบด้วย Username และ Password
-
บนแถบ พอร์ตของฉัน เลือกเมนู ปฏิทินลงทุนของฉัน
-
คลิกแถบเมนู Investment Calendar
-
ดูข้อมูลวอร์แรนท์ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XE บนแถบสีเหลืองในปฏิทิน

นักลงทุนมือใหม่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้และเข้าถึงทุกบริการลงทุนกับหลักทรัพย์บัวหลวง
- IOS รองรับ iOS 14 ขึ้นไป ติดตั้ง คลิกที่นี่
- Android รองรับ 7.0 ขึ้นไป ติดตั้ง คลิกที่นี่
- Notebook & Personal Computer Browser Support : Chrome, Firefox, Safari7+, IE11+

อ่านคู่มือและเงื่อนไขการใช้งานคลิกที่นี่
✅ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอป Wealth CONNEX บริการเชื่อมต่อทุกความรู้และบริการลงทุน
เลือกเมนู CHAT กด Chat With Customer Service