Microsoft บริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญสหร้ฐฯ หรือ 33 ล้านล้านบาท  ซึ่งเป็นบริษัทเทคที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากผลิตสินค้าที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี เช่น Software อย่าง Windows หรือ Microsoft Offices ที่เราใช้ทำงานกันอยู่เป็นประจำนั่นเอง วันนี้ทางทีม BLS Global Investing จึงขอมาเล่าธุรกิจของ Microsoft คร่าวๆ ให้ฟัง ว่ามีความน่าสนใจอย่างไร อีกทั้งหุ้นตัวนี้ยังเป็นหุ้นที่กูรูเทคอย่าง “คุณอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์” เผยในงานสัมมนา “เจาะเทรนด์…เฟ้นหุ้น” สายเทคโนโลยีในสหรัฐฯ!! ว่าชื่นชอบเป็นพิเศษอีกด้วย อ่านบทความสรุปสัมมนา “เจาะเทรนด์…เฟ้นหุ้น” สายเทคโนโลยีในสหรัฐฯ!!  ทำไมหุ้น Tech ตลาดสหรัฐฯ น่าสนใจ…คลิกที่นี่

Microsoft บริษัทผลิต Software ระดับโลกนั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจนั้นก็คือการมีธุรกิจที่หลากหลาย สามารถกระจายรายได้ได้ดี โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ 1.) Productivity and Business Process  2.) Intelligent Cloud  3.) More Personal Computing แต่ละธุรกิจมีลักษณะเป็นอย่างไร ? สามารถติดตามกันได้ด้านล่างเลย

ประเภทธุรกิจของ Microsoft

1. Productivity and Business Process

ธุรกิจนี้ประกอบไปด้วย การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น Software ยอดฮิตอย่าง Microsoft Offices ที่เราๆ นั้นใช้กันอยู่เป็นประจำทุกวัน เช่น Excel, Words, PowerPoint และ Outlook เป็นต้น โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจในส่วนนี้ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 26% ของรายได้รวม

โปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่อย่าง Office 365 นั้นช่วยทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้สะดวกขึ้น ด้วยการควบรวมหลายๆ โปรแกรมเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถใช้งานได้ผ่านหลากหลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท๊ปเบล็ต และ มือถือ โดย Microsoft นั้นเรียกเก็บเงินเป็นแบบ Subscription Model คือ การจ่ายเงินเป็นรายเดือน ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เรียกเก็บเงินเป็นราย license

นอกจากนี้ Microsoft ยังเป็นเจ้าของ Linked In Social Network ยอดนิยมด้านอาชีพอีกด้วย โดยปัจจุบัน LinkedIn  มีผู้ใช้งานอยู่  500 ล้านคน ซึ่ง Microsoft ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ จากการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในด้านการทำงาน เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทได้

2. Intelligent Cloud

ธุรกิจ Cloud อยู่ภายใต้แบรนด์ Azure ซึ่งประกอบไปด้วยการให้บริการเกี่ยวกับ โครงสร้างพื้นฐานทาง IT สำหรับองค์กร ตั้งแต่ Platform ระบบเก็บข้อมูล ระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงให้บริการ license ในการพัฒนาระบบ IT ต่างๆ โดยรายได้จากธุรกิจ Cloud คิดเป็นสัดส่วน 24% ของรายได้รวม

ธุรกิจ Cloud Service ได้เข้ามา Disrupt เหล่าธุรกิจ Hardware ต่างๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนจากการซื้อเครื่อง Hardware ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล หรือใช้จัดการระบบ IT  มายังการเช่นเครื่องจากผู้ให้บริการ Cloud ต่างๆ แทนในราคาที่ประหยัดและผ่านระบบที่ปลอดภัยกว่า

ปัจจุบันผู้ให้บริการธุรกิจ Cloud ที่ใหญ่ที่สุดนั้นคือ Amazon (Amazon Web Service) เนื่องจากเริ่มก่อตั้งธุรกิจนี้มาก่อน แต่ในแง่ของการเติบโตของธุรกิจนั้น Cloud service ของ Microsoft นั้นสามารถเติบโตได้เร็วกว่ามาก โดยล่าสุด Microsoft ได้แซงหน้า Amazon ในการทำสัญญาให้บริการ Cloud Service กับทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ มูลค่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Microsoft ในการเติบโตในธุรกิจนี้ได้

3. More Personal Computing

ธุรกิจประเภทที่ 3 นี้ ประกอบไปด้วยการผลิตและจำหน่าย Software Windows สำหรับ คอมพิวเตอร์ รวมถึง Hardware ที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน เช่น แล๊ปท๊อป แท๊ปเบล็ต ภายใต้แบรนด์ Surface และเกมชั้นนำอย่าง Xbox ที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ

Satya Nadella ผลันดัน Microsoft ไปอีกขั้น 

Satya Nadella (สัตยา นาเดลลา หรือ ซาเทีย) เริ่มรับตำแหน่ง CEO ของ Microsoft ตั้งแต่ปี 2014 และได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์องค์กรหลายอย่างจนทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ Microsoft เคยประสบปัญหาทางธุรกิจหลังจากที่ซื้อบริษัท Nokia ไปในปี 2013 แต่ก็ได้พระเอกขี่ม้าขาวอย่าง Satya Nadella มาช่วยชีวิต โดยขึ้นดำรง CEO คนที่ 3 ต่อจากบิลล์ เกตส์ และสตีฟ บัลเมอร์

Satya Nadella ได้เข้าไปซื้อบริษัทเทคขนาดเล็กต่างๆ ถึง 67 บริษัทเพื่อเน้นต่อยอดธุรกิจพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น LinkedIn Github และ Minecraft ซึ่งถือเป็นการปรับ Software ให้เปิดกว้างมากขึ้น (สามารถ Download Application อื่นๆ ที่ Microsoft ไม่ได้เป็นเจ้าของได้ รวมถึงเปิดให้ระบบของ Microsoft สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆได้)

งบที่เติบโตได้ดีต่อเนื่อง 

กำไรของบริษัทสามารถเติบโตได้เป็นเลข 2 หลักมา 11 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว โดยล่าสุด Microsoft  ประกาศงบไตรมาสที่ 3 ปี 19 ออกมาเกินคาด กำไรสุทธิโต 21%YoY รายได้รวมโต 14%YoY และ โดยธุรกิจ Cloud โตโดดเด่นถึง 27% รายได้จากผลิตภัณฑ์ Office 235 โตได้ถึง 25%YoY อีกทั้งยังได้ปรับประมาณการณ์รายได้ของไตรมาสหน้าขึ้นของทุกผลิตภัณฑ์ และคุณอิสริยะมองว่าธุรกิจพื้นฐานยังคงแกร่งมาก

เราลองมาดูผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลังของ Microsoft กันดีกว่า หากเราลงทุน 3 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Annualized return) จะอยู่ที่ 36.2%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ของ Microsoft

สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติม…คลิกที่นี่

หรือโทร. 02-618-1111

หรือสนใจเปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ กับ หลักทรัพย์บัวหลวง ได้ที่…

ติดตามความรู้ทางด้านการลงทุนดีๆ กับพวกเรา