
“เราจะสร้าง NETBAY ให้เป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยีของคนไทย (Innovative Technology Company)”
นั่นคือเป้าหมายสำคัญในการทำธุรกิจ “คุณพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท
โจทย์นี้ได้รับการยืนยันจากปากของ “คุณปริ้นซ์ พิชย วิวัฒน์รุจิราพงศ์” หลานชาย ดีกรีอดีตพนักงานบริษัทข้ามชาติ google สิงคโปร์ ที่เพิ่งเข้ามานั่งตำแหน่ง Head of Business Development & Partnership ในบริษัทได้เพียง 10 เดือน…
…ว่าแต่ NETBAY จะเดินทางไปถึงเป้าหมายนี้อย่างไร เมื่อภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานภาครัฐบางแห่งยังคงทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบอนาล็อกมากกว่าระบบออนไลน์ “คุณพิชิต” ตอบคำถามนี้ว่า “จริงอยู่ที่ยังคงมีภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบอนาล็อกมากกว่า 95% แต่วันนี้เราเริ่มเห็นองค์กรต่างๆ ปรับตัวแล้ว ด้วยการหันมาใช้ธุรกรรมออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรับมือกับต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลดิรัปชั่น แต่ในสายตาของผมยังมีไม่มากพอ!!!
“เหตุผลที่บางองค์กรยังไม่ยอมเปลี่ยนมาทำธุรกรรมทางออนไลน์อาจเป็นเพราะยังคงยึดขนบธรรมเนียมที่ทำมานานหลายสิบปี แต่ผมเชื่อว่า หากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรเหล่านี้ก็คงต้องปรับตัว ไม่เช่นนั้นก็คงถูกดิรัปชั่นในที่สุด”
เมื่อถามถึง “จุดแข็งสำคัญ” ที่จะผลักดันให้ NETBAY เดินทางไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ “คุณพิชิต” ตอบว่า มีด้วยกัน 2 ข้อหลักๆ คือ…
1. “บุคลากร” เราโชคดีที่มีพนักงานเก่งๆหลายคน ทุกคนพร้อมทำงานไปตามวิสัยทัศน์ขององค์กร และมีความกระหายที่จะเรียนรู้เกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา คุณเชื่อหรือไม่!! พนักงานของเราสามารถแก้ไขทุกปัญหาของลูกค้าได้สำเร็จ ไม่ว่าหัวหน้าทีมจะมอบหมายงานอะไรไป เขาทำได้หมด..
2. “นวัตกรรมล้ำสมัย” เรามีความพยายามจะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะนวัตกรรมเหล่านั้นจะเข้ามาช่วยสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการมีต้นทุนที่ลดลง หรือลดขั้นตอนในการทำงาน เป็นต้น ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอแอปพลิเคชันที่ให้บริการ e-Logistics สำหรับผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และบริษัทในห่วงโซ่อุปทานของระบบโลจิสติกส์ นอกจากนั้นยังมีบริการ e- Logistics (อุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงิน) เป็นต้น ทุกนวัตกรรมที่คิดค้นล้วนแล้วมาช่วยต่อยอดกิจการของลูกค้าแทบทั้งสิ้น
“ถ้าทุกคนเข้าใจโลก Technology Company จะรู้ว่า ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่บริษัทเป็นผู้พัฒนามีความสำคัญมากแค่ไหนในยุคดิจิทัล อีโคโนมี ที่ผ่านมาเราเข้าไปนำเสนอเรื่องเหล่านี้กับหน่วยงานราชการตลอด โดยไม่คิดเงินสักบาทในการช่วยพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อให้เขาสามารถเชื่อมโยง B2B หรือ B2G โดยที่เราไม่เห็นข้อมูล ความลับทุกอย่างปลอดภัย แต่ในแง่ของระบบฮาร์ดแวร์ เราไม่ได้ช่วยหน่วยราชการลงทุน แต่บางแห่งก็ยังไม่เห็นความสำคัญ”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บอกว่า สำหรับเป้าหมายรายได้รวมในปี 2562 เรายังคงวางตัวเลขเติบโตไว้ที่ระดับ 15% บวกลบ แรงสนับสนุนที่จะทำให้มีตัวเลขดังกล่าว คือ 1.มีฐานลูกค้าใหม่ ขณะที่ลูกเก่าขยับมาใช้บริการอื่นๆ 2.ภาคเอกชนและภาครัฐขนาดใหญ่ มีการเชื่อมเน็ตเวิร์คมากขึ้น 3.มีจำนวน Transactions มากขึ้น และ 4. มีแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ
“14 ปีก่อนที่บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธุรกิจของเราเติบโตมาตลอด เมื่อเข้าตลาดหุ้นก็ยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ”
ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เราได้ร่วมมือกับศาลแพ่ง เพื่อให้บริการระบบ Mini e-Court หรือ บริการยื่นคำคู่ความผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์กับการฟ้องร้องคดีผู้บริโภค พร้อมพิจารณาคดีผ่านระบบ Video Call เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน (ปัจจุบันยังไม่คิดค่าบริการ)
ขณะเดียวกันยังพัฒนาการให้บริการใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็น “ดิจิทัล แพลตฟอร์ม โซลูชั่น” อย่างครบวงจร โดยเพิ่มการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ เช่น Blockchain, AI หรือปัญญาประดิษฐ์, Data & Image Analytics-Computer Vision หรือการวิเคราะห์ข้อมูลและภาพ เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการแก่ลูกค้า
“เรายินดีมากหากจะมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดมากขึ้น มาช่วยกันกระตุ้นตลาด เพราะตลาดนี้มันใหญ่มาก ลองคิดง่ายๆ ปีก่อนการนำเข้าส่งออกของโลจิสติกส์คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 16 ล้านล้านบาท ถ้าแปลงตัวเลขนี้มาเป็นอิเล็กทรอนิกส์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มูลค่าจะสูงขนาดไหน”
ติดตามอ่านบทวิเคราะห์หุ้น NETBAY คลิกที่นี่
“เม่าจำไม By Bualuang Securities” จะมาเล่าเรื่องอะไรให้ฟังอีก รอติดตามนะคะ….
อย่าลืมติดตามรายการความรู้ทางด้านการลงทุนดีๆ กับพวกเรา ได้ที่…