
- ทยอยซื้อหลักทรัพย์เฉลี่ยเป็นรายวัน
- ลงทุนในกองทุนรวม ETF (Exchange-Traded Fund)
- สะสมหลักทรัพย์ไปเรื่อย ๆ ไม่มีการขายออก
- DCA (Dollar-Cost Averaging) การถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน
- VA (Value Averaging) การถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาด้วยวิธีควบคุมมูลค่าพอร์ตการลงทุน
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่หลักทรัพย์บัวหลวงเปิดให้บริการระบบซื้อขายอัตโนมัติ (Bualuang iProgramTrade) หรือที่ลูกค้าเรียกกันติดปากว่า Robot Trade เราได้มีการคิดค้นและพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายออกมาให้ลูกค้าเลือกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะพัฒนากลยุทธ์การลงทุนแล้ว เรายังพยายามศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมของนักลงทุนรุ่นใหม่เพื่อออกแบบบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น จึงเป็นที่มาของบริการประเภท Stock Accumulation Plan บริการที่จะอำนวยความสะดวกและช่วยเสริมวินัยการลงทุนให้ลูกค้าด้วยการทยอยตัดเงินเพื่อมาลงทุนในหลักทรัพย์อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ซึ่ง DCA และ VA ก็เป็นกลยุทธ์ในบริการประเภท Stock Accumulation Plan ที่ออกแบบมาเพื่อนักลงทุนเชิงรับ (Passive Investor) โดยจะตัดเงินลงทุนจากบัญชีธนาคารของลูกค้าทุก ๆ เดือน เพื่อนำมาลงทุนในกองทุนรวม ETF (Exchange-Traded Fund) ด้วยวิธีทยอยซื้อเฉลี่ยสะสมไปเรื่อย ๆ เป็นรายวัน และไม่มีการขายออก
กลยุทธ์ DCA หรือ Dollar-Cost Averaging
เป็นการซื้อแบบการถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน คือ ระบบจะแบ่งเงินลงทุนต่อเดือน เพื่อมาทยอยซื้อหลักทรัพย์ในจำนวนเงินที่เท่ากันทุก ๆ วัน โดยไม่สนว่าแต่ละวันราคาหลักทรัพย์จะเป็นเท่าไหร่ เช่น
นายออมสิน ต้องการจะลงทุน DCA เดือนละ 10,000 บาท
เดือนนั้นมีจำนวนวันซื้อขาย (Trading Day) 20 วัน
ระบบจะนำ จำนวนเงินลงทุนต่อเดือน ÷ จำนวนวันซื้อขาย เพื่อคํานวณหาจำนวนเงินที่จะเข้าซื้อหลักทรัพย์ในแต่ละวัน
จะได้เป็น 10,000 ÷ 20 = 500
เพราะฉะนั้นในเดือนนี้ระบบจะทยอยซื้อหลักทรัพย์เท่ากันทุกวัน วันละ 500 บาท จนครบ 10,000 บาท ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันนี้ เมื่อราคาปรับตัวลดลงจะทำให้ได้หลักทรัพย์ในปริมาณที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับการซื้อหลักทรัพย์ในราคาที่สูงกว่า ดังนั้น DCA จึงเป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนให้ต่ำลงได้
กลยุทธ์ VA หรือ Value Averaging
เป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาด้วยวิธีควบคุมมูลค่าพอร์ตการลงทุน ซึ่งต่อยอดมาจาก DCA อีกที จะมองว่า VA เป็นการทำ DCA ขั้นแอดวานซ์ก็ได้ เทคนิคคือ ระบบจะนำเงินลงทุนต่อเดือนมาหารด้วยจำนวนวันซื้อขายของเดือนนั้น ๆ เพื่อคำนวณหาเป้าหมายว่ามูลค่าพอร์ตจะต้องเพิ่มขึ้นวันละเท่าไหร่ จากนั้นในแต่ละวันระบบจะเข้าซื้อหลักทรัพย์เพื่อให้มูลค่าพอร์ตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น
นายออมสิน ต้องการจะลงทุน VA เดือนละ 10,000 บาท
เดือนนั้นมีจำนวนวันซื้อขาย (Trading Day) 20 วัน
ระบบจะนำ จำนวนเงินลงทุนต่อเดือน ÷ จำนวนวันซื้อขาย เพื่อคํานวณหามูลค่าพอร์ตเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน
จะได้เป็น 10,000 ÷ 20 = 500
เพราะฉะนั้นในเดือนนี้ระบบจะทยอยซื้อหลักทรัพย์เพื่อทำให้มูลค่าพอร์ตตรงตามมูลค่าพอร์ตเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนี้
วันที่ 1 มูลค่าพอร์ตเป้าหมาย จะเท่ากับ 500 บาท
วันที่ 2 มูลค่าพอร์ตเป้าหมาย จะเท่ากับ 1,000 บาท และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน วันละ 500 บาท จนกว่าครบเดือน ซึ่งจะทำให้มูลค่าพอร์ตเป้าหมายครบ 10,000 บาท
ในกรณีที่มูลค่าพอร์ตปรับตัวสูงขึ้นจนถึงเป้าหมายที่กำหนดแล้ว ระบบจะไม่ซื้อเพิ่ม และจะเก็บเงินสดส่วนนั้นไว้ซื้อหลักทรัพย์ในอนาคตหากราคาปรับตัวลดลง เช่น
วันที่ 5 มูลค่าพอร์ตเป้าหมายเท่ากับ 2,500 บาท แต่วันที่ 4 ราคาหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นทำให้ ณ สิ้นวันมูลค่าพอร์ตเป็น 2,700 บาท ดังนั้น วันที่ 5 ระบบจะไม่เข้าซื้อหลักทรัพย์ * เพื่อให้มูลค่าพอร์ตการลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
*การซื้อในแต่ละวันจะคำนวณจากความต่างของมูลค่าพอร์ต ณ สิ้นวันเมื่อวาน กับ มูลค่าพอร์ตเป้าหมายวันนี้
"ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ก็คือ DCA จะคุมต้นทางว่าทุกวันจะต้องซื้อหลักทรัพย์ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน ต่างจากกลยุทธ์ VA ที่ดูปลายทางว่าในแต่ละวันจะต้องซื้อหลักทรัพย์เท่าไหร่เพื่อปรับให้มูลค่าพอร์ตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้"
ทั้งนี้ ปัจจุบันหลักทรัพย์บัวหลวงมีเทคนิคการซื้อเฉลี่ยรายวันแบบ DCA และ VA ให้ลูกค้าเลือกทั้งหมด 4 กลยุทธ์ คือ DCA 001 / VA 001 ที่ลงทุนใน BMSCITH และ DCA 002 / VA 002 ที่ลงทุนใน BSET100 หากสนใจสามารถติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ โทร. 02 618 1111