
Auto
By BLS Auto Investing
หากเรามีเงินสดเหลืออยู่สักหนึ่งก้อน และยังไม่รู้ว่าจะนำเงินจำนวนนั้นไปทำอย่างไรดีทางเลือกที่ง่ายที่สุดอาจจะเป็นการฝากเงินไว้ในธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการฝากออมทรัพย์ ฝากประจำ หรือเงินฝากดอกเบี้ยสูงพิเศษ ซึ่งแม้ว่าวิธีนี้จะดูเป็นวิธีที่ง่ายแต่เงินฝากต่าง ๆ เหล่านี้ก็มีข้อจำกัดและอุปสรรคแตกต่างกันไปทำให้ผู้ลงทุนเกิดความหงุดหงิดใจได้เช่น
- ผลตอบแทนที่อาจขึ้นลง ตามสภาวะตลาดหรือการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์ ทำให้ผู้ลงทุนต้องคอยติดตามตลอดเวลา ว่าจะย้ายเงินไปไว้ที่ไหนอย่างไรดี
- การจำกัดของปริมาณเงินฝาก ที่มีกำหนดจำนวนเงินฝากที่จะให้ดอกเบี้ยสูงได้ เช่น ได้เฉพาะเงิน 100,000 บาท แรก เป็นต้น ทำให้ผลตอบแทนรวมสุดท้ายอาจจะไม่ได้มากอย่างที่หวัง และ ไม่สามารถได้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับเงินจำนวนมากได้
- สภาพคล่อง หากจำเป็นต้องมีการถอนเงินไปใช้ อาจถูกลดหรือไม่ได้รับดอกเบี้ยได้
ดังนั้น จะดีกว่าไหม หากผู้ลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้ โดยการลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคล ที่สามารถบริหารจัดการเงินของผู้ลงทุน ในรูปแบบการคัดเลือกกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีคุณภาพจาก 18 บลจ. ชั้นนำใน BLS Top Funds และจัดสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนที่เหมาะสม จากผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญ ที่จะคอยติดตามสภาวะตลาดและข้อมูลการลงทุน โดยสามารถสร้างผลตอบแทนบนจำนวนเงินที่มากได้ และยังมีสภาพคล่องในการไถ่ถอนเงินลงทุนได้โดยมิต้องหักผลตอบแทน
*BLS Top Funds คือการคัดเลือกกองทุนรวม ด้วยการวิเคราะห์เชิงปริมาณและคุณภาพ โดยการตรวจสอบผลตอบแทนย้อนหลังทั้งระยะสั้น และระยะยาว (Return Factor) ,ตรวจสอบความผันผวนย้อนหลัง (Risk Factor) ,วัดความคุ้มค่าการลงทุน (Sharpe Ratio) ,ตรวจสอบความสม่ำเสมอของผลตอบแทน (Consistency Factor) ,ขนาดกองทุน , ค่าธรรมเนียมกองทุน เป็นต้น มาจัดอันดับและให้คะแนน เพื่อเลือกกองทุนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทสินทรัพย์
โดยตัวช่วยการลงทุนที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือ Auto Top Funds Portfolio: Fixed Income Funds Package หรือระบบบริหารพอร์ตการลงทุนผ่านกองทุนรวมตลาดเงินและตราสารหนี้แบบอัตโนมัติ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 2 กลยุทธ์ คือ
-
Saving Package

-
Dynamic Income Package
เน้นการกระจายการลงทุนในกองทุนรวมในตราสารหนี้ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และหรือกองทุนรวมที่มีผลตอบแทนแปรผันไปตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ทั้งในและต่างประเทศ โดยคัดเลือกกองทุนที่ผ่านเกณฑ์การวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณ มาบริหารสัดส่วนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาด เศรษฐกิจ ทิศทางของดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ โดยแบ่งสภาวะตลาดการลงทุนออกเป็น 6 สภาวะ ได้แก่
- ช่วงอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูง (Peaked Policy)
- ช่วงอัตราเงินเฟ้อขาขึ้น (Rising Inflation)
- ช่วงการเติบโตปกติ (Goldilocks)
- ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น (Rising Interest)
- ช่วงนโยบายการเงินแบบเข้มงวด (Hawkish Policy)
- ช่วงที่ตลาดมีความเสี่ยงสูง (High Economic Risk)
เพื่อเพิ่มผลตอบแทนตามสภาวะเศรษฐกิจและคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำ


ตัวอย่างผลทดสอบการดำเนินงานของกลยุทธ์ Saving Package และ Dynamic Income Package เทียบกับกองทุนต้นทาง
ภาพเปรียบเทียบระหว่าง NAV ของกองทุนรวมตราสารหนี้ และตลาดเงิน ตัวใดตัวหนึ่งเทียบกับกลยุทธ์ Saving Package และ Dynamic Income Package ที่เข้าไปถือครองกองทุนรวมเหล่านี้ในน้ำหนักที่เหมาะสม


จะเห็นได้ว่ากองทุนรวมทั้งหมดเหล่านี้ต่างก็ให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ถือครองว่าเป็นตราสารหนึ้ประเภทใด ซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้สินทรัพย์เหล่านี้เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ตามสภาวะเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ
ดังนั้นหากมีผู้ช่วยในการลงทุนอย่าง BLS Auto Investing ที่จะช่วยคัดเลือกกองทุนรวม ติดตามผลการลงทุนและมีการปรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมตลอดระยะเวลาการลงทุน ก็จะเป็นตัวช่วยในการบริหารความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้ลงทุนได้
อีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนกับ Fixed Income Funds Package ที่ช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนผ่านกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ ด้วยการกระจายการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้ เริ่มต้นลงทุนเพียง 500,000 บาท เมื่อสมัครผ่านช่องทาง Wealth CONNEX สามารถศึกษาขั้นตอนการสมัครบริการได้ที่นี่ https://bls.tips/BLSTopFundsPortfolioOpenAccount
ฟรีค่าธรรมเนียม การบริหารกองทุนส่วนบุคคล สำหรับลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง
ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนหรือ BLS Customer Service
โทรศัพท์ 0-2618-1111 หรือ Email : customerservice@bualuang.co.th
โทรศัพท์ 0-2618-1111 หรือ Email : customerservice@bualuang.co.th