
"ลองหลับตา แล้วนึกย้อนไปเมื่อ 20- 30 ปีที่แล้ว แล้วมีคนบอกคุณว่า ..."
- ในอนาคต ... จะมีโทรศัพท์ที่ นอกจากจะได้ยินเสียงแล้ว ยังเห็นหน้าคร่าตากันอีกด้วย ในขณะที่ยุคนั้นมีแต่โทรศัพท์บ้าน....ใครจะเชื่อ!!!
- ในอนาคต ... จะมีทีวี แบบเห็นภาพสามมิติจอใหญ่เท่าฝาพนังห้อง ซึ่งตอนนั้นคุณยังดูทีวีจอนูนขนาด 21 นิ้วแล้วจะเปลี่ยนช่องทีต้องเดินไปกดที่เครื่องอยู่ ..... ใครจะเชื่อ!!! (บางคนว่าสมัยก่อนที่บ้านมีก็ไม่ต้องเดินไปกด (อ๋อมีรีโมท ...?) ไม่ใช่! ใช้ด้ามไม้กวาดกระทุ้งเอา ... ฮาาาาา)
- ในอนาคต ... จะมีรถที่ใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมัน ....ใครจะเชื่อ!!!
- ในอนาคต ... รถยนต์นอกจากจะใช้ไฟฟ้าแล้วยังขับให้เราด้วย สบายขึ้น ปลอดภัยขึ้น ....ใครจะเชื่อ!!!
- ในอนาคต ... จะมีหุ่นยนต์ที่ทำงาน คิดแทนเราแล้วจะฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ....ใครจะเชื่อ!!!
- ในอนาคต ... จะซื้อของไม่ต้องเดินไปห้าง แค่กดสั่งของทางโทรศัพท์ ของก็มาส่งถึงที่ ....ใครจะเชื่อ!!!
- แม้กระทั่งหนังดังในยุค 80 ที่มีข้าวของเครื่องใช้ไฮเทคมากมาย อย่างเรื่อง Back to the Future (1985) คนในยุคนั้นยังพากันบอกว่า "นี่มันเพ้อฝันแบบหนัง SCI-FI ชัด ๆ" ... แล้วลองมาดูทุกวันนี้ซิครับ...?
ภาพซ้าย : ทีวีที่สามารถดูได้หลายช่องพร้อมกัน / ภาพขวา : การผลิตพลังงานจากขยะ
ภาพซ้าย : การสื่อสารแบบ Video Conference / ภาพขวา : แว่นตาที่ทำได้มากกว่าแว่นตา (ปัจจุบันมี Google Glass)
ซึ่งมันไม่แปลกที่จะมีใครคิดอย่างนั้น เพราะนั่นมันเมื่อ 2-3 ทศวรรษที่แล้วครับ มาวันนี้หลายเรื่องกลายเป็นความจริง แล้วมีทีท่าว่าจะมีอะไรที่พัฒนากว่านี้อีกเยอะ ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"แล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าเราลงทุนในหุ้นของบริษัทไฮเทคแห่งยุคอนาคตเหล่านี้ได้ ???"
- เพราะแนวโน้มของสินค้ากลุ่มนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
- คนจะใช้กันมากขึ้น และกว้างขึ้นทั่วโลก
- ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ เอื้อต่ออุตสาหกรรม ให้มนุษย์ใช้ชีวิตได้ง่ายและสบายมากขึ้น
- เทคโนโลยีจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ตื่นยันนอน ยันฝัน
- แน่นอนว่าธุรกิจจะมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด และกินเวลายาวนานในอนาคต
และถ้าเราได้ลงทุนในบริษัทที่ผลิตสินค้าเทคโนโลยี ที่ประสบความสำเร็จและสามารถขายสินค้าได้ทั่วโลก ผลตอบแทนย่อมดีแน่ และถ้าคุณอยากลงทุนแต่ยังไม่มีไอเดีย การลงทุนผ่านกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากกระจายและมี Theme การลงทุนที่น่าสนใจ โดยมีกอง เทคโนโลยีที่น่าสนใจที่คัดมาแล้วดังนี้ครับ
กองทุนที่น่าสนใจ ...
SCB Global Robotic (SCBROBOA)
เน้นลงทุน ETF กลุ่มบริษัทที่ลงทุนด้านหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหุ่นยนต์อย่าง Global X Robotics & Artificial Intelligence (BOTZ) / ROBO Global Robotics and Automation (ROBO) และ iShares Automation & Robotics (RBOT) ซึ่งลงทุนในบริษัท เช่น บริษัทเซนเซอร์ ระบบตรวจจับเพื่อการทำงานอัตโนมัติ (Keyence / Cognex) หุ่นยนต์ด้านการรักษาพยาบาลผ่าตัดที่แม่นยำ (intuitive surgical) บริษัทผลิตแขนกลเพื่อโรงงาน อุตสาหกรรม (Fanuc) เป็นต้น จุดเด่นคือกระจายการลงทุนเน้นกลุ่ม ROBOT โดยเฉพาะ แต่อาจจะผสมหุ้นขนาดกลางเล็กบ้าง แถมยังมีการกระจายการลงทุนไปหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น
Bualuang Global Inno-Tech (B-INNOTECH)
กองทุนเทคโนโลยีจัดการแบบ Active โดย Fidelity เน้นหาหุ้นเทคโนโลยี มีนวัตกรรมทั่วโลกทุกประเภทที่โตไว ขายและมีฐานลูกค้าอยู่ทั่วโลกเช่น Alphabet (Google) / Apple / SAP / INTEL / SAMSUNG เป็นต้น ที่เอ่ยมาท่านเป็นลูกค้าเค้าเกือบทุกตัว จุดเด่นกระจายหุ้นบริษัทชั้นนำที่เห็นการโตที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว และมีกำไรที่มองเห็นค่อนข้างชัด
ONE Ultimate Global Growth Fund (ONE_UGG)
กองทุนที่ลงหุ้นทั่วโลกเน้นการเติบโตสูงจากเทคโนโลยี บริหารโดย Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ลงทุนหุ้นอย่างเช่น Amazon / Facebook / Baidu / Tesla / Tencent เป็นต้น จุดเด่นกระจายการลงทุน กระจายกลุ่มอุตสาหกรรม เน้นหุ้นชั้นนำ
และแน่นอนครับ การลงทุนหุ้นกลุ่มพวกนี้มีความเสี่ยง แต่หากเราผสมผสานในพอร์ตของเรา เชื่อว่าหุ้นกลุ่มพวกนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต เพราะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีคือหุ้นแห่งอนาคต
ลองดูผลงานในอดีตที่ผ่านมา
เสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค
หนังสือชี้ชวนดูได้จากเอกสารแนบด้านล่าง